หลายคนอาจจะชินภาพของนักแสดงสาว เต๋า สโรชา ในลุคผู้หญิงหวานแสนเรียบร้อย แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าสาวเต๋าไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่เห็น ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร

 

เต๋า สโรชา

 

ย้อนไป 13 ปี แม่เป็นคนบังคับให้เข้าวงการเหรอ ?
เต๋า สโรชา : ใช่ คือเป็นคนขี้อายมาก

แล้วทำไมแม่ถึงคิดว่าการเข้าวงการถึงทำให้หาย ?
เต๋า สโรชา : นั่นนะสิ เค้าก็ไม่ปรึกษาเลย เค้าก็คิดว่าการเจอคนเยอะ ๆ การไปเผชิญโลกด้วยตัวเองจะแก้ตรงนี้ได้ก็เลยนัดแคสติ้งโดยที่ไม่บอกเรา

แม่เป็นซิงเกอร์มัมใช่ไหม ?
เต๋า สโรชา : ใช่ค่ะ เราจะอยู่กับยาย แม่ก็ไปทำงานนอกบ้าน

พอได้ทำงานในวงการก็ต้องทำไปด้วยเรียนไปด้วย แล้วแม่ก็ตามตลอด ?
เต๋า สโรชา : ใช่ค่ะ ตอนนั้นพี่พชร์ อานนท์ เป็นผู้จัดการ แต่ว่าจะไม่มีตามเหมือนทุกวันนี้ เวลาไปไหนพี่พชร์ก็โทรศัพท์มาบอกตอนเช้าแล้วแม่ก็ไปรับ-ส่ง ซึ่งเราเป็นเด็กความคิดประหลาด คิดวนอยู่ในหัวบอกแม่ว่าไม่ต้องมาแล้ว เดี๋ยวหนูไปคนเดียว เพราะรู้สึกว่าถ้าแม่ยังอยู่ด้วยกันแบบนี้เราจะไม่ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมอื่น

 

 

แม่เสียใจไหม ?
เต๋า สโรชา : น่าจะเสียใจ แต่ว่าไม่รู้แม่เพิ่งมาบอกตอนโต ทุกครั้งที่ทะเลาะกันแม่ก็จะพูดเรื่องนี้บอกว่าเหมือนเธอไม่ต้องการฉันแล้ว เราก็ไม่ได้คิดแบบนั้น

หลังจากวันนั้นได้มีการการขอโทษคุณแม่หรือยัง ?
เต๋า สโรชา : มีค่ะ หลายรอบแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่ฝังใจเค้า

ถามจริง ๆ ที่ไม่อยากให้พ่อแม่มากองถ่าย เพราะว่าเราจะไม่ได้แอบเที่ยว หรือทำอะไรที่อยากทำใช่ไหม ?
เต๋า สโรชา : ก็มีส่วน

นั้นวีรกรรมต่อไปที่ทำให้แม่เสียใจ นั่นก็คือการหนีเที่ยว ?
เต๋า สโรชา : ก็ต้องเริ่มเลยค่ะ ตอนนั้นเราจะอยากลองทุกอย่างที่เค้าไปกัน เลิกกองไปเที่ยวอย่างนี้เลย ซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 15 ปี เมื่อก่อนยังไม่มีกำหนดอายุการเข้าผับ เค้าก็พาไปกับผู้ใหญ่

 

สมัยก่อนตอนเที่ยวเก่งขนาดไหน ?
เต๋า สโรชา : ถามว่าทุกวันไหม ก็มีช่วงนั้น แม่ก็ถาม เค้าก็งอนไป ช่วงนั้นเป็นช่วงดื้อ ช่วงแบบว่าอยากไปกับเพื่อน ถ้าไม่ไปเดี๋ยวเพื่อนงอน ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม เมื่อก่อนผับไม่ปิดเที่ยวถึงเช้า พอเพื่อนไปส่งปุ๊บเราก็อาบน้ำไปทำงานเลยหรือไม่ก็ไปโรงเรียน

พอเที่ยวถึงเช้ามันก็ต้องเมา ?
เต๋า สโรชา : มี ตอนนั้นรู้สึกว่าอยากรู้ อยากลอง

หนักสุดขนาดไหน ?
เต๋า สโรชา : ก็กินไวน์คนเดียวขวดนึงหมด พี่ ๆ ผู้ชายเค้ารู้สึกว่าถ้าเรากินเยอะ เราจะเก่ง

ขึ้นไปเต้นบนโต๊ะ ?
เต๋า สโรชา : ขึ้น

 

 

เวลาเมามาก ๆ เคยเจอลวมลามไหม ?
เต๋า สโรชา : ไม่ค่อยมีใครลวนลาม แปลกไม่ค่อยมีผู้ชายเข้ามา มีอันนึงถ้าเมามากแค่ไหน แต่เราจะตั้งไว้ในใจว่าจะไม่เข้าใกล้ผู้ชาย

สมัยก่อนวงการบันเทิงไม่ได้เปิดมากขนาดนี้ คนยังไม่ยอมรับ อย่างงี้ถ้าเป็น 15-16 ปีแล้วเราเที่ยวกินเหล้าเมา ในฐานะผู้หญิงเค้าจะมองว่าเราแรงไหม ?
เต๋า สโรชา : อ่อ มันไม่เหมือนตอนนี้เนอะ เพราะว่าเราจะอยู่กลุ่มพวกเรากันเองไม่มีถ่ายรูป ไม่มีไลฟ์ ไม่มีแชร์ ก็จะขำ ๆ หนุกหนานเสร็จแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน ข่าวหรือภาพมันไม่ได้กระจายออกไป

แล้วผู้ใหญ่ในวงการ ?
เต๋า สโรชา : อ่อ เค้าก็อาจจะรู้บ้าง ถามว่ามีผลไหมก็มีบ้างค่ะ โดนดุว่าทำไมไม่พักผ่อน เพราะหน้ามันโทรม มันเป็นช่วงที่เราติดเที่ยว ติดเพื่อนก็เป็นแบบนั้นสักพักนึงเลยจนรู้ตัวเอง

อย่างตอนนั้นแม่ไม่กุมขมับแย่เหรอ ?
เต๋า สโรชา : น่าจะปวดหัว ก็จะมีเวลาที่นั่งคุยกันแบบซีเรียสที่บ้าน แม่บอกว่าเนี่ยเธอเปลี่ยนไปเยอะมาก จากที่เรียบร้อยจนตอนนี้โอ้โหเป็นอีกคนนึงเลย

 

 

 

เคยเมาไปในกองไหม ?
เต๋า สโรชา : ในกองไม่เคย เพราะเรามองว่าเรื่องงานต้องมาก่ออน สำคัญที่สุด แต่มีไม่ได้นอนแล้วไปกองตอนเช้า แต่นาน ๆ ที

พี่เคยด่าใคร ?
เต๋า สโรชา : ไม่เคยนะ แต่ก็จะช้า ๆ แบบนี้แหละ แต่ก็ไม่ได้เรียบร้อยหรอก

แล้วทุกวันนี้ยังดื่มอยู่ไหม ?
เต๋า สโรชา : ไม่ค่อย กลับกันกลายเป็นรักสุขภาพ

ช่วงนั้นมันจะมีจุดให้เราคิดได้ใช่ไหม แล้วมันเป็นช่วงไหน ?
เต๋า สโรชา : คงจะเป็นช่วงที่รู้ว่าเราโตแล้วนะ เรารู้ทุกอย่าง เต็มที่แล้ว คือเราจะเป็นอย่างนึงถ้าย้อนกลับไปก็จะทำเหมือนเดิม เพราะเราอยากเรียนรู้ทุกอย่าง มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต

 

 

แล้วคิดว่าตอนนี้ได้สัมผัสทุกอย่างในชีวิตหรือยัง ?
เต๋า สโรชา : น่าจะค่ะ น่าจะรู้ทุกอย่างที่ควรจะรู้ค่ะ ทั้งเรื่องดาร์กและเรื่องที่ดี เพราะว่าถ้าเราไม่รู้บางทีเราอาจจะอยากรู้ตอนนี้ก็ได้

ถามเรื่องละครหน่อย ตอนที่ผู้ใหญ่บอกว่าถ้าเธออยากอยู่ในวงการต่อไปเธอต้องเลิกเป็นนางเอก ?
เต๋า สโรชา : ใช่ค่ะ ตอนนั้นแบบเศร้ามาก ฉันจะไปจ่อยังไงดี ด้วยความที่ไม่รู้ของเด็ก เราก็คิดว่าเป็นนางเอกไม่ได้เราไม่มีอนาคตในวงการแล้ว ตอนนั้นก็หางานทำเป็นพีอาร์นู้นนี่ แต่ก็มีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาแต่ไม่ใช่นางเอกนะ ตอนแรกก็เศร้าหนักแต่ก็ลองทำดู ก็เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง

ตอนแต่งงาน แต่งเงียบมาก เพราะอะไร ?
เต๋า สโรชา : คือตอนแรกไม่อยากจัดงาน แต่ว่าอยากตจัดให้ยายกับแม่ก็เลยเอาเล็กที่สุดเท่าที่ทำได้ แขกในงานจะไม่เกิน 30 คน ตอนนั้นโดนงอนมาก

เจ้าบ่าวคนนี้เป็นใคร แล้วไปเจอกันได้ยังไง ?
เต๋า สโรชา : เค้าเป็นคนธรรมดานี่แหละ คุยกันเรื่องงานแล้วถูกใจกันก็เลยคบ

 

 

แต่งมา 2 ปีแล้ว แต่ทำไมไม่มีเบบี๋สักที ?
เต๋า สโรชา : ใช่ ก็คิดว่าอยากทำอะไรที่อยากทำก่อน เพราะมีอะไรหลายอย่างมาก ด้วยความที่เข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก มันก็เลยมีหลายอย่างที่อยากทำ พอตอนนี้มันเริ่มว่างละเราก็ไม่อยากทิ้งฝันตรงนั้น เช่น การเรียนต่อ ยังไม่ได้กำกับอย่างที่อยากทำ เพราะถ้ามีลูกแล้วทุกอย่างอาจจะต้องหยุด

แต่คนก็มองว่าห่วงสวยหรือเปล่า ?
เต๋า สโรชา : ไม่ค่อยค่ะ อาจจะเป็นเรื่องหวงชีวิตอยู่ หวงความฝันของตัวเองอยู่

ก่อนหน้านี้เจอแต่คนเจ้าชู้ ?
เต๋า สโรชา : ใช่ค่ะ เจอแต่คนเจ้าชู้ จนคิดว่า พอแล้ว ถามว่าเจอยังไง ก็เจอทุกอย่างที่คนเจ้าชู้ทำ เปิดประตูไปเจอ บนเตียงก็เจอ เปิดรูปว่าอยู่บนเตียงด้วยกัน ผู้หญิงเดินเข้ามาขอคุย ทุกสิ่งอย่างจนคิดว่าไม่ไหวแล้ว คิดว่าถ้าความรักเป็นแบบนี้ไม่อยากมีความรักแล้ว

 

 

แล้วทุกครั้งที่เจอยอมทนไหมหรือว่าเลิกเลย ?
เต๋า สโรชา : ก็ยอมทนอยู่สักพัก คิดว่าถ้าเรารักเค้าเราต้องพิสูจน์

แบบนี้ทำให้เราระแวงกับสามีคนปัจจุบันไหม ?
เต๋า สโรชา : มีค่ะ ช่วงแรก ๆ ที่คบกัน แต่ก็ไม่ได้ไปดูอะไรส่วนตัวของเค้า เพราะว่าเราเอาประสบการณ์มาตัดสินเค้า แต่พออยู่ด้วยกันเค้าไม่มีอะไรแบบนั้นเลย

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เรื่องน่าสนใจ