เป็นอีกหนึ่งสาวสวยมากความสามารถที่โลดแล่นอยู่ในวงการมานานหลายปี สำหรับเทย่า โรเจอร์ แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยมีกระแสสักเท่าไหร่ จนหลายคนแอบเม้าท์ว่าที่สาวเทย่าหันหลังให้กับวงการก็เพราะว่าไม่ปัง ไม่ดังนั่นเอง ล่าสุดสาวเทย่าได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ที่รายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง One31 ที่มีพีเค ปิยวัฒน์ หนิง ปณิตา และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร
เข้าวงการมาตั้งแต่ตอนไหน ?
เทย่า : เริ่มต้นเข้าวงการตั้งแต่อายุ 11 ตอนนั้นเทย่าเป็นคนขี้อายมาก ขี้อายชนิดที่แบบว่าสั่งอาหารที่โรงเรียนไม่ได้เลย คุณแม่ต้องเป็นคนสั่งให้ตลอด คุณแม่ก็เลยกลัวว่าโตแล้วจะมีปัญหาไม่มีความมั่นใจ ก็เลยให้เทย่ามาลองมาแคสงานดู เห็นว่าตอนนั้นมีแมวมองมาติดต่อพอดี
เริ่มต้นเล่นละครตอนไหน ?
เทย่า : ก็ถ่ายโฆษณามาเรื่อย ๆ ประมาณ 2-3 ปีหลังจากนั้นค่ะ แล้วก็มีบทปริศนาอยากให้เทย่าเล่น ตอนนั้นไม่รู้จักเลยปริศนาคืออะไร ยังไง เป็นใครไม่รู้เพราะอ่านภาษาไทยไม่ออกได้เข้าไปเล่นละครกับ ติ๊ก เจษฎาภรณ์
กดดันไหม เพราะเรา เป็นนางเอกหน้าใหม่ ?
เทย่า : ก็รู้สึกกดดันนิดนึง แต่ก็ไม่มาก เพราะว่าตอนนั้นเทย่าไม่ค่อยได้ดูละครไทย ก็เลยไม่รู้ว่าใครดังมากน้อยขนาดไหน อีกอย่างโซเชียลยังไม่มี ก็พอรู้ว่าพี่ติ๊กเป็นดาราดัง เป็นพระเอกที่คนรักมาบ้าง แต่ก็มีห่วง เพราะบทปริศนาตอนนั้นอายุประมาณ 20 ต้น ๆ แต่เทย่าเพิ่ง 14 เอง แล้วต้องมาเล่นเป็นบทสอนเด็กนักเรียน ซึ่งนักเรียนในห้องตอนนั้นอายุมากกว่าเทย่าทุกคน แล้วภาษาไทยของเทย่าก็ไม่แข็งแรงด้วย
เมื่อถูกเปรียบเทียบกับ “ปริศนาเวอร์ชั่นเก่า” แล้วเรารู้สึกยังไงบ้าง ?
เทย่า : ก็เหมือนอย่างที่บอกค่ะ ตอนนั้นโซเชียลก็ไม่ค่อยมี คนก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบเรายังไงบ้าง รู้แค่ว่าของพี่หมิว เล่นดีมากทุกคนก็รัก แล้วคุณแม่ก็ปลื้มพี่หมิว ส่วนตัวเทย่าคิดว่า การเป็นนักแสดงเราต้องเล่นในแบบของเรา เราห้ามไปเทียบตัวเอง กับคนอื่นที่เคยเล่นบทนี้มาแล้ว แต่ว่าในเวลานั้นคือไม่รู้จะดูบทนี้ยังไง เพราะว่าตอนนั้นไม่มีให้ดูจริง ๆ ค่ะ
รู้ตัวไหมว่าตอนนั้นตัวเองดังมาก ?
เทย่า : ไม่รู้ตัวเลยค่ะ เพราะว่าตอนที่ปิดกล้อง เทย่าอายุ 15 แล้วก็บินไปอเมริกาเลย เพราะต้องรีบไปเรียนไฮสคูล ซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอมพอดี
แล้วไม่รู้สึก อยากจะเรียนที่เมืองไทย แล้วทำงานไปด้วยบ้างเหรอ ?
เทย่า : ไม่ค่ะ เพราะว่าตอนแรกที่ย้ายมาเมืองไทยก็ตามคุณแม่มา เพราะว่าคุณแม่ได้งานที่เมืองไทยแล้วจะอยู่แค่ประมาณ 2-3 ปี เดี๋ยวก็กลับอเมริกา แล้ว ไป ๆ มา ๆ อยู่ประมาณ 8 ปี แต่ช่วงนั้นเราก็พยายามหาทางที่จะกลับอเมริกา ส่วนตัวเทย่าคุณพ่อ คุณแม่ก็บอกว่าการเรียนมันสำคัญมาก ๆ ตอนนั้นที่ทำงานไปด้วยแล้วก็เรียนไปด้วย คือตกลงกับคุณพ่อ คุณแม่ว่าถ้าเกรดของเทย่าตกลงเมื่อไร ก็จะเลิกทำงานในวงการทันที เทย่าคิดว่าถ้าจบไฮสคูลที่โน้นการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกาจะง่ายกว่าร้อยเท่า ค่าเรียนก็จะถูกลงด้วยค่ะ
เพราะเป้าหมาย ของเราคือการเรียนไม่ใช่การเป็นนักแสดงใช่ไหม ?
เทย่า : การเป็นนักแสดงตอนนั้นคือเหมือนเป็นงานอดิเรก ทำเล่น ๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร
ถ้าย้อนกลับไป เสียดายไหม ?
เทย่า : ไม่ค่ะ เพราะคิดว่าตอนถ่ายละครเสร็จ ก็รู้สึกแฮปปี้มาแล้ว ก็ยังบอกทีมงานเลยว่า หวังว่าละครจะสนุกนะคะ แล้วเทย่าก็ไม่ได้อยู่ดู ก็กลับไปเลยค่ะหลังจากนั้นกลับมาอีกทีก็ตอนที่ปิดเทอม แล้วละครก็ออนแอร์ไปแล้ว จำได้ว่าตอนนั้นเดินมาในสนามบินหลังจากเครื่องลง ทุกคนทัก “ปริศนา” ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น งง ๆ ไม่รู้ว่าละครดังไปถึงไหน เพราะตอนนั้นไม่มีโซเชียล ไม่มีอะไรเลย แล้วสมัยนั้นกว่าละครหรือว่าหนังสือพิมพ์จะไปถึงเมืองนอกได้ก็อีกหลายอาทิตย์อยู่
หลังจากปริศนา มีเรื่องอะไรต่อจากนั้นไหม ?
เทย่า : หลังจากนั้นก็มาถ่ายโฆษณาเรื่อย ๆ แล้วก็กลับมาเล่นละครอีกทีนึงตอนจบไฮสคูล ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ก็ห่างกันประมาณ 2-3 ปี กับพี่พอล ภัทรพล
แต่กลับมาครั้งนี้ไม่ดังเหมือนแต่ก่อน ?
เทย่า : อันนี้ก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เพราะเทย่ากลับมาเพื่อที่จะถ่ายละครเรื่องนั้น พอเสร็จแล้วก็กลับไปเรียนต่ออีกรอบนึง คืออย่างที่บอก ว่าไม่ได้มองการเป็นดาราในสมัยนั้นว่านี่คืออาชีพของเรา มองอย่างเดียวว่ามันเป็นสิ่งที่เรารัก เราทำแล้วสนุก แล้วเราก็ชอบ ทำแล้วโอเคดีได้เงินไปจ่ายค่าเรียนต่อด้วย ได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ได้เรียนรู้ เจอเพื่อน และในเวลานั้น เทย่าคิดอยากจะเรียนเป็นทนายด้วยซ้ำ เลยไม่ได้คิดว่าจะทำงานในวงการ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรียนทนาย ผ่านไป 2-3 ปี ก็คิดถึงวงการ เลยเปลี่ยนไปเรียนการสื่อสารกับ Marketing เพราะคิดว่ามันเป็นการเชื่อมไปหาวงการได้
อะไรที่มันจุดประกายตอนนั้น ?
เทย่า : ก็มีโอกาสได้ไปเล่น MV ให้กับที่เมืองนอก แล้วประกอบกับว่าช่วงนั้นมีแพลนที่จะกลับมาเมืองไทยพอดี
งานที่เมืองนอกกับเมืองไทยต่างกันไหม ?
เทย่า : ก็ต่างกันนะคะ แน่นอนแหละเค้ามีเงินทุนสูงกว่าบ้านเรา แล้วเขาก็มีกฎหมายที่ดูแลนักแสดงดีพอสมควร เช่น จะทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมงไม่ได้ ถ้าเกินก็ต้องมีค่าตัวเพิ่มให้ แต่วิธีการทำงานก็ไม่ได้ต่างกันมาก
เห็นว่าซื้อบ้านที่เมืองนอก มีข่าวว่ามีคนเปย์ให้จริงหรือเปล่า ?
เทย่า : ตอนเทย่าจบมหาวิทยาลัยก็ซื้อบ้านค่ะ ซื้อเอง ใช้เงินที่ทำงานในวงการมา แล้วคุณพ่อ คุณแม่ก็เซ็นรับรองให้ด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่า จะมีคนคิดแบบนั้น จนมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ งง ๆ นิดหน่อย ก็บอกไปว่า ซื้อเองค่ะ
โดนเมาท์ว่าอยู่อเมริกาไปแย่งแฟนนางเอกดังมาจริงไหม ?
เทย่า : ก็โดนนักข่าวมาถามอีกเหมือนกันค่ะ ก็บอกไปว่าไม่รู้จริง ๆ เพราะว่าไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย แล้วเทย่าก็ไม่พูดอะไรต่อ หลังจากนั้นเค้าก็เลิกถามค่ะ
กับแฟนหนุ่มนักฟุตบอล “มิก้า” ความสัมพันธ์เป็นยังไง ?
เทย่า : ก็คบกันมา 3 ปีแล้วค่ะ มันเริ่มต้นจากเราเจอกันบ่อยแล้วก็คุยกันไปเรื่อย ๆ รู้จักกัน เป็นเพื่อนกัน แล้วอยู่ดี ๆ มันมีโมเม้นต์ไหนก็ไม่รู้เหมือนกันที่แบบขอเป็นแฟน คือทานข้าวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็อยู่แบบนั้นมาเรื่อย ๆ ค่ะ
แล้วมีคุยเรื่อง แต่งงานไหม ?
เทย่า : คือเราจะวางแผนเรื่องอนาคตในด้านอื่นมากกว่า อีกอย่างเทย่าก็ไม่ได้รีบเร่งที่จะมีลูกหรือว่าแต่งงานอะไร ยังไร้แพลนแต่ง ขอรอพร้อมอีกนิดค่ะ