เรื่องราวของนักร้องลูกทุ่งหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม ออกมาชี้แจงภาพหลุดคนหน้าเหมือนทำอนาจารว่า “เห็นภาพแล้วก็ตกใจครับ ก็อยากจะยอมรับอยู่ เพราะหุ่นเขาดี ตามธรรมชาติเด็กวัยรุ่นผู้ชายจะมีการระบายอารมณ์ตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่สิ่งที่ผิดคือเขาใช้โซเชียล ใช้กล้องถ่ายรูปไม่ถูกต้อง การใช้โซเชียลมันมีทั้งดีและร้าย ถ้าเราถ่ายทอดในมุมที่ดี แต่สำหรับภาพนี้เป็นภาพอนาจาร ซึ่งผมไม่ค่อยถ่าย ถ้าจะถ่ายก็ถ่ายดูคนเดียวในห้องดีกว่า พูดเล่นครับ”
ยืนยันว่าไม่ใช่เรา ?
“ไม่ใช่ครับ ยืนยันว่าไม่ใช่ผมแน่นอน ตลกมากกว่า ขนาดผมถ่ายรูปตัวเองยังต้องดูว่าหน้าได้ไหม ภาพนี้ต้องมาเปลือยมันดูอนาจารเกินไป”
ภาพจากข่าวสด
กลัวคนเอาไปเม้าธ์เข้าใจว่าเป็นเราจริงๆไหม
“ผมไม่กลัว เราคงไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ อย่างเช่นผมเป็นข่าวในโลกออนไลน์ มีบางคนมาคอมเม้นต์ว่า เบิ้ล ปทุมราช คือใคร ทำไมเขาไม่รู้จัก มันก็จะมีโมเม้นต์ทำให้เราสะเทือนใจ และเข้าใจว่าแต่ละคนมีมุมมองความคิดของเขาต่างๆนานา ทำไมเราต้องแคร์คนที่พูดให้เรารู้สึกไม่ดีด้วย เราก็แคร์เฉพาะคนที่ติดตามเรา แล้ววันหนึ่งที่เราทำความดีจริงและไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าวจริงๆ คนที่ไม่รู้จักอาจจะมารู้จักและติดตามเราก็ได้
ภาพนี้ผมไม่กลัวคนเข้าใจผิดและไม่ซีเรียสเลย อยากให้เจ้าของภาพนี้ออกมายอมรับเองดีกว่า ไม่ต้องมายัดเยียดให้ผม หุ่นเขาก็เพอร์เฟ็คอยู่นะ ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมชอบนะ
เพราะมันมีข่าวว่าผมเป็นเก้งเป็นกวางด้วย ผมเป็นผู้ชายชอบผู้หญิงครับ แต่ก็ไม่ถึงกับถ่ายภาพอะไรแบบนั้น อย่างเวลาเล่นคอนเสิร์ต แฟนเพลงขอเสื้อกล้ามก็จะมีถอดเสื้อโยนให้บ้าง แล้วรีบใส่เสื้อแขนยาว แต่จะไม่มีโมเม้นต์ถ่ายรูปนอกจากจะมีซิกแพ็กซ์ แต่ตอนนี้มันไม่อะไรให้โชว์”
เราเป็นศิลปินอีกคนที่มีคนโฟกัสที่เป้าเวลาเล่นคอนเสิร์ต
“ผมก็รู้มาตลอด สมัยที่ผมเป็นเบิ้ล ปทุมราช เพลงอ้ายมีเหตุผลในยุคแรกๆ ปีแรก มีคนตั้งฉายาว่า เฮียหำต่ง ผมใช้คำนี้เองในโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นคำของคนแก่ในภาคอีสาน เขาจะมีคำเรียกของเขา เช่น บักหล่าคำแพง บักหล่าหำต่ง บักหล่าหำแหล่ หำน้อย หำใหญ่ มันไม่ใช่คำที่ลามก
แต่ในมุมมองของคนกรุงเทพฯจะมองว่าทำไมต้องพูดคำนี้ แต่ในมุมมองคนอีสานมันเป็นคำที่น่ารักใช้เรียกด้วยความเอ็นดู อย่างคนที่ไม่รู้ว่า ต่งคืออะไร ก็จะสงสัย พอไปรู้ความหมายว่าต่งคือใหญ่นี่หว่า คนจะไปซูมที่เดียว ผมเคยรู้ว่าตัวเองมีภาพหลุดในทวิตเตอร์ มีคนแคปเป้าไปลง ก็เลยระวังมากขึ้น จากที่ใส่กางเกงในบางๆ เปลี่ยนมาเป็นกางเกงบ็อกเซอร์ ระมัดระวังมากขึ้น บางทีมันเป็นเงา กล้องบางคนก็ซูมได้ดีมากก็เลยกลายเป็นภาพหลุดไป หำต่งมันเป็นเพียงแค่ฉายาไม่ได้มีอะไรให้คุณก้มไปดูน่าติดตามขนาดนั้น”
เขินไหมที่เวลาขึ้นคอนเสิร์ตแล้วมีคนโฟกัสจุดนั้นตลอด
“ก็เขินครับ อย่างมีคนถ่ายรูปหน้าเวทีใกล้ๆก็จะเขียนแคปชั่นโฟกัสอย่างเดียว วันนี้มาดูเฮียเบิ้ลแต่ไม่ได้ดูหน้าเฮียเบิ้ลเลย เราก็เขิน จะทำยังไงให้คนไม่มาโฟกัสจุดนี้ ก็คงต้องเปลี่ยนแปลงโชว์คอนเสิร์ต จากที่เด้งมากๆ มาเป็นโชว์ความสามารถพิเศษหยิบพิณมาดีดบ้าง ฟ้อน รำภูไทบ้าง มันจะเป็นการดึงดูดให้คนลืมมองตรงนั้นไป แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบมองแบบนั้นอยู่แล้ว เราก็ห้ามเขาไม่ได้ ก็ถือซะว่าเขามองแต่เขาเอาไปไม่ได้”