เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่บ้านมหามนตรา จ.นครปฐม ยังคงมีลูกศิษย์แวะเวียนมาที่สำนักเหมือนทุกวัน เพื่อบูชากุมารมหามนตราและกุมารีมหามนตรา แต่ต้องเป็นไปตามกฏระเบียบของบ้านมหามนตราคือ ก่อนเข้าพิธีเจิมหน้า หรือลงยันต์ ต้องทำพิธียกหินศิลาแลง เพื่อเสี่ยงทายก่อนว่าจะมีบุญร่วมกันหรือไม่
ขณะที่วัดสว่างอารมณ์ แคแถว ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี มีประชาชนนำตุ๊กตาลูกเทพมามอบให้กับวัดและต้องรับไว้จำนวนมาก เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่วัดระบุว่า ที่ผ่านมามีประชาชนนำตุ๊กตาลูกเทพมาทิ้งไว้ที่วัดจริง บริเวณใต้ต้นไม้ข้างเศษกุมารที่หักชำรุดและรูปปั้นนางกวัก คาดว่าอาจเกิดจากบางคนที่บูชาไว้ตามกระแสแฟชั่นนิยมเกิดความกลัวหรือสับสน เบื้องต้นวัดกำลังเก็บรวบรวมไว้ด้านในศาลาเดียวกับต้นแม่ตะเคียน รวมแล้วกว่า 10 ตัว เพื่อความเป็นระบียบไม่เกะกะรกหูรกตา
เมื่อสอบถามแม่ค้าขายผลไม้ในอ.สามพราน หนึ่งในผู้เคยเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพและนำมาทิ้งที่วัด เผยว่าขณะนี้กระแสต่อต้านและเสียดสีตุ๊กตาลูกเทพแรงมาก จึงเกิดความอับอายที่จะอุ้มไปไหนมาไหนด้วย เลยอยากจะเลิกเลี้ยง แต่ไม่รู้จะเอาไปทิ้งที่ไหน จึงนำมาทิ้งไว้ที่วัด เพราะคิดว่าเคยผ่านการปลุกเสกมา กลัวว่าจะมีอะไรสิงอยู่ในตุ๊กตา
ด้านเจ้าของร้านขายกาแฟสดและขนมแห่งหนึ่งในอ.นครชัยศรี เผยว่า วันนี้นำตุ๊กตาลูกเทพมามอบไว้ที่วัดเช่นกัน เพราะอยู่ใกล้บ้านและไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน ก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพก็ไม่ได้ร่ำรวยมากหรืออับจนอะไร แต่พอมาอุ้มตุ๊กตาลูกเทพก็สังเกตชีวิตของตัวเองก็ยังคงปกติ ไม่ได้ผิดแปลกไปจากเดิม มีแต่จะต้องหาเงินซื้อเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาลูกเทพทันตามแฟชั่น ทั้งเครื่องประดับสร้อยคอ กำไล เสื้อผ้าหน้าผม ความจริงแล้วตั้งใจค้าขายทำมาหากินดีที่สุดแล้ว จะมีเงินและลืมตาอ้าปากได้จริง จึงขออนุญาตหลวงพ่อนำตุ๊กตาลูกเทพวางไว้ที่ใต้ต้นโพธิ์ภายในวัด ซึ่งทางวัดจะเอาไปทำไรก็สุดแล้วแต่
พระครูยติธรรมานุยุติ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีชาวบ้านหลายคนกลัวที่จะอุ้มตุ๊กตาลูกเทพ จึงนำมาทิ้งไว้ที่วัด อาตมาก็ไปว่าไม่ได้ เพราะญาติโยมเกิดความกลัว หลังมีข่าวออกไปมาก ซึ่งมองดูก็คล้ายกับเอากุมารมาทิ้งไว้ตามต้นโพธิ์ เนื่องจากไม่รู้จะเอาไปทิ้งที่ไหนก็มาโยนทิ้งที่วัดกัน บางคนเอามาทิ้งเพราะเบื่อหรือแค่อุ้มไปตามกระแสแฟชั่นเท่านั้น หลายวันที่ผ่านมามีคนอุ้มตุ๊กตาลูกเทพมาทิ้งไว้ที่วัดจำนวนมาก แต่ไม่เจอเจ้าของสงสัยว่าจะมาทิ้งในช่วงเช้ามืด เพราะกลัวจะมีคนเห็น แต่บางคนก็เข้ามาบอกกล่าวขออนุญาตทิ้งไว้ใต้ต้นโพธิ์
“เรื่องแบบนี้แล้วแต่คนจะเชื่อ แต่อาตมาขอเตือนให้ทุกคนอยู่ในความพอดี ดูเหตุดูผลไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีสติมากที่สุด คนที่เชื่อเราก็ไม่ได้ว่าหรือห้ามไม่ให้เชื่อ แต่เป็นห่วงเพราะสังคมไทยมีทั้งการยอมรับและไม่ยอมรับ เพราะเราเป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธ ขอให้ทุกคนมีสติในการดำรงชีวิต”พระครูยติธรรมานุยุติกล่าว
