ที่มา: พันทิป

ต้องมีความตั้งใจจริงๆ ในการลดน้ำหนัก ทุกคนสามารถเปลี่ยนตัวเองได้เช่นเดียวกับผู้ใช้พันทิป xiaokang ที่ได้มาเปิดเผยเรื่องราว ของการดูแลตัวเอง จากเด็กที่มีน้ำหนักเกือบ 100 กิโล กลายเป็นหนุ่มหุ่นเฟิร์มกระชับและได้ถ่ายแบบกับตากล้องผู้โด่งดัง ในวงการนายแบบหุ่นกล้ามอีกด้วย ซึ่งแรงบันดาลใจของเขา ไม่ได้มากจากคนรัก หรืออกหัก รักคุดแต่อย่างใด และเขาเองก็ล้มเลิกการลดน้ำหนักหลายครั้ง จนเดี๋ยวนี้ หุ่นเฟิร์มมากก….

01

ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเด็กอ้วนคนนึง ที่เกลียดการชั่งน้ำหนักตัวเอง และอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก แม้กระทั่งคนผอม คอยหลอกตัวเองว่าไม่อยากผอม “อ้วนแล้วหนักหัวใคร?!” ที่สำคัญเขารักการกิน กินตลอดเวลา จะเดินจะนอน และมักโดนเพื่อนๆแกล้งเสมอ จนกลายเป็นเด็กขี้โมโห  และเกรียวกราด

นอกจากนั้นยังมีโรคหอบหืดด้วย น้ำหนักก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุด หมอเคยบอกว่า หัวใจของเขาเริ่มทำงานหนักมาก จำเป็นจะต้องออกกำลังกายและลดน้ำหนัก

02

“ผมจำได้ว่าต้องเข้าไปนั่งพ่นยาในห้องมืดๆ เล็กๆ ของโรงพยาบาลทุกวันเกือบอาทิตย์ แล้วร้องไห้ไปด้วย…”

แต่จุดเปลี่ยนของเขาและแรงบันดาลใจไม่เหมือนใคร ไม่ได้แอบชอบใคร ไม่ได้อกหัก แต่เพราะกินหอยแครงดิบแล้วท้องเสียจนต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ น้ำหนักลดลงไปเกือบ 5 ก.ก. มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่รู้สึกได้เลยว่า “เฮ้ย! เราก็ผอมได้นี่หว่า” ยิ่งมีคนทักว่าผอม ยิ่งรู้สึกดีใจจึงเริ่มตัดสินใจลดความอ้วนอย่างจริงจัง

03

ในตอนแรก เริ่มจากการเต้น แอโรบิค โดยการซื้อแผ่น ดีวีดีมาเต้นที่บ้าน ซึ่งอายมากแต่ก็พยายาม จากนั้น 3 เดือนน้ำหนักก็ลดลงจาก 90 ก.ก. เหลือ 85 ก.ก. ในตอนนั้นลดปริมาณการกินลง แต่ไม่เคร่งมาก อาศัยว่ากินเยอะ ก็เต้นให้หนักหน่อย น้ำหนักลงก็จริงแต่ก็ยังไม่ถึงขนาดพอใจ

หลังจากเต้น แอโรบิค มาได้สักพักก็หันมาเล่นโยคะ แต่รู้สึกมันไม่ใช่แนวและไม่เห็นผลชัดที่สำคัญรู้สึกเบื่อ เล่นแค่ 1 เดือนก็เลิกไป จากนั้นก็ห่างหายจากการออกกำลังกาย ทำให้กลับมาอ้วนอีกครั้ง

แต่สิ่งที่ทำให้เริ่มเปลี่ยนตัวเองอีกครั้งก็คือ “พ่อ” ที่คอยบังคับ ปลุกให้ออกมาวิ่งทุกเช้า อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งน้ำหนักลงเร็วมาก เดือนเดียวลงไปเกือบ 3 ก.ก. (เท่ากับเต้นแอโรบิคเอง 3 เดือนเลย)

04

ผมวิ่งตอนเช้า 3-4 ครั้ง/อาทิตย์ รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 6 เดือน น้ำหนักผมลงไป 7-10 ก.ก. เลยนะจะบอกให้ ผมเริ่มผอมลงจากเดิม โรคหอบหืดดีขึ้น เรื่องพ่นยาหอบหืดก็ไม่ต้องแล้ว ชีวิตดีขึ้นเยอะ
รู้มั้ย? การออกกำลังกายตอนเช้า จะลดน้ำหนักได้ดีมากเลยนะ เพราะ มันจะดึงพลังงานส่วนเกินในร่างกายมาใช้ แต่ถ้าคุณทั้งหลาย ออกกำลังกายเวลาอื่น มันจะดึงจากสิ่งที่คุณกินเข้าไปมาใช้ พวกไขมันส่วนเกินต่างๆ ก็จะยังเผละอยู่ในตัวเรา ลองดูนะ ยากจะตาย การออกกำลังกายก็ยากแล้ว การตื่นเช้ายิ่งยากกว่า แต่เอาจริงๆ ยากแต่ทำได้นะ คุ้มที่จะลองด้วย

หลังจากที่น้ำหนักเริ่มลง ชีวิตก็เข้าสู่ช่วง ม. ปลาย ก็เริ่มห่างหายจากการวิ่งไปเรื่อยๆ และเริ่มที่จะใช้ชีวิตหนักขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเป็น 80 ก.ก. แบบ งงๆ ขนาดเรียน ร.ด ด้วยแล้ว ซึ่งค้างน้ำหนักขนาดนี้เอาไว้จนกระทั่งเข้า มหาวิทยาลัย

1435234934-2-o

1435234999-22-o

พอเข้ามหาลัยก็เริ่มใช้วิธีการ “อดอาหาร” ซึ่งได้ผล น้ำหนักลง แต่เหนื่อยมาก เพราะร่างกายต้องใช้พลังงาน และร่างกายเริ่มโทรม

หลังจากนั้นก็เริ่มหันมาพึ่งยา จำพวกบล็อคแป้ง บล็อคไขมันทั้งหลายแหล่ น้ำหนักก็ลดลง แต่กินได้สัก 1-2 เดือนก็หยุดเพราะราคาค่อนข้างแพง ที่น้ำหนักลดลงเกือบ 3-4 ก.ก. น่าจะเป็นช่วงเริ่มกินน้อยด้วย มีทั้งกิจกรรมในมหาลัย ที่ไม่ได้หลับได้นอน ช่วงนั้นน้ำหนักอยู่ที่ 65 ก.ก.

“แต่พูดเลยว่า นอกจากการลองอดอาหาร ลองกินยานั่น ยานี่ ทำกิจกรรม ผมก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลยนะ เป็นช่วงที่น้ำหนักลดลงเยอะแบบงงๆ “

1435235937-1165207710-o

ช่วงนั้นผอมจนหลายคนคิดว่าติดยา ซึ่งตอนนั้นต่อให้น้ำหนักขึ้นแค่ไหนก็ไม่เกิน 68 ก.ก. จนกระทั่งเรียนจบ และได้ทำงาน ก็เริ่มที่จะเข้าฟิสเน็ต เริ่มคิดอยากมีกล้ามเหมือนคนอื่นๆ เลยตัดสินใจกินเวย์ โปรตีนร่วมด้วย น้ำหนักเด้งขึ้นมาอยู่ที่ 70 ก.ก.

1435236029-4444-o

1435236300-11111111-o

1435236355-333333333-o

ตอนนั้นไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนทักว่าล่ำขึ้น ก็ดีใจ เลยเน้นปั้มหุ่นตัวเองให้บวมขึ้นทุกวัน แต่สุดท้ายก็เริ่มไม่ชอบ เพราะหน้าเริ่มใหญ่ แก้มเริ่มยุ้ย

“ตอนนั้น เป็นจังหวะที่ผมได้เจอกับ “พี่จอห์ณ วิญญู” และหนังสือ “Good Shape Save Cost” ของเขา ได้ลองอ่านดู แล้วชอบ เลยตั้งเป้าว่า จะลองเปลี่ยนร่างหมีของตัวเอง ให้ดูลีน (Lean) ดูกระชับ ดูเฟิร์ม สักตั้ง”

จุดพลิกชีวิตการลดน้ำหนัก และหุ่นเริ่มจากตรงนี้แหละ โดยเริ่มจาก

  • ไม่อดอาหาร กินปกติ แล้วนับแคลอรี่ ต่อ 1 วัน เราจะใช้พลังงานประมาณ 2,000 แคลอรี่ (เท่าที่ผมทราบ) ดังนั้น วิธีคือ ไม่ว่าคุณจะกินสวรรค์วิมานอะไรเข้าไป ต้องไม่เกินนี้ ผมตั้งไว้เลยว่า วันหนึ่งต้องไม่เกิน 1,500 แคลอรี่ ที่เหลืออีก 500 จะได้เป็นของเก่าที่เผาพลาญทิ้งไป (ใครสนใจ เสิร์ชหา App คำนวนแคลอรี่ได้เลยครับ)
  • ซื้อกล้วยติดบ้านไว้เลยครับ เอาไว้กินหลัง 6 โมเย็น แต่! กล้วยน้ำว้านะ ลูกหนึ่ง 60 แคลอรี่ หลายคนใจป้ำซื้อกล้วยหอม ลูกหนึ่งตั้ง 120-180 แคลอรี่แน่ะ
  • หยุดกินเวย์โปรตีน (หลายคนที่ไม่ได้กินอยู่แล้วก็ข้ามไปครับ แต่ผมว่า ผมบวมขึ้นเยอะเพราะเวย์นะ ตอนลดเลยลงเยอะเชียว)
  • กลับมาออกกำลังกายตอนเช้า (สำคัญมาก) โดยการวิ่ง 30-40 นาที ต้องไม่ต่ำจากนี้ และบวกเพิ่ม ถ้าวันไหน กินเกิน 1,500 แคลอรี่ 5-6 วัน/อาทิตย์นะ แต่ตอนนั้นผมวิ่งทุกวัน จำได้มั้ย? ออกกำลังกายตอนเช้า ช่วยลดน้ำหนักได้ดี เพราะเราจะได้ล้างผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกายออก
    เท่านี้จริงๆ ตอนนั้น…

1435236633-1166712710-o

1435236655-1165076410-o

1435236743-1165536710-o

มันอัศจรรย์มาก จากที่คนที่เคย ล่ำตัวใหญ่ กลายเป็นคนมีกล้ามและมี six pack แบบที่ใครๆอยากมี น้ำหนักจาก 70-71 ในตอนนั้นเหลือแค่ 65 ก.ก. ภายในไม่ถึง 1 เดือน พอร่างกายเริ่มเฟิร์มกระชับ ทุกอย่างมาเองเลย ไม่ต้องเน้นให้กล้ามแน่นๆ ตัวใหญ่ๆ ซึ่งวิธีนี้เป็นเรื่องง่ายมาก มีความมั่นใจมากขึ้นและความความสุข

ไม่จำเป็นต้องเล่นกล้ามจนถึงขนาด บึ๊กเป็นกล้ามปู แค่นี้ก็ทำให้บุคลิกเราดีขึ้น ทำให้มีโอกาสดีๆ หลายอย่างเข้ามา เช่นได้ลองถ่ายแบบกับช่างภาพชื่อดังระดับประเทศอย่าง “Haruehan Airry” ซึ่งโด่งดังในวงการช่างภาพ ถ่ายภาพนายแบบ

1435236847-1143026910-o

1435236790-1120868410-o

1435236832-1165331910-o

ทั้งหมดทั้งมวล คือความสุขที่ถูกเติมเต็ม ของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่ดารา นายแบบ หรือคนดัง เป็นเพียงพนักงานออฟฟิตธรรมดา ที่ได้มีโอกาสในเรื่องแบบนี้ ใครที่อยากหาแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก ลองมองสิ่งรอบๆ ตัวก็สามารถเป็นแรงบนดาลใจได้ เพราะสุดท้ายก็กลายเป็นความภาคภูมิใจของเรา

1435236982-1165074810-o

1435236999-1165211110-o

โดดเด่นเชื่อว่า ไม่มีอะไรเกินความสามารถของเราไปได้ หากเรารู้จักพยายามด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง เพราะผลที่ได้หลังจากนั้น มันจะทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจ ที่เราทำได้เป็นผลสำเร็จ แค่แรงบันดาลใจเล็กๆ อาจจะพลาดบ้าง ล้มบ้าง แต่ก็ขอให้สู้ เพื่อสุขภาพของตัวเอง และมันจะกลายเป็นโอกาสดีๆ ที่คุณจะได้เจอมัน กับการลดน้ำหนัก

เรื่องน่าสนใจ