ที่มา: dodeden

หลังจากประเด็นที่สาวไทยต้องการไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เจ้าของเฟสบุ๊ค Punnabhat Sri ได้โพสต์บอกเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายในการถูกกักตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ และสุดท้ายถูกส่งตัวกลับประเทศไทย ไม่ได้เที่ยวเกาหลีใต้ตามที่แพลนไว้

ซึ่งเจ้าหน้าที่ซักถามว่า มาทำอะไร มากับใคร มากี่คน มีเงินเท่าไหร่ และมีใบให้กรอกข้อมูล ระหว่างนั่งรออยู่นั้น ก็เริ่มมีคนเข้ามาเรื่อย ๆ จน 100 กว่าคน ในเวลา 5 ชั่วโมง ซึ่งในห้องนั้นแออัดมาก ไม่มีน้ำให้กิน และขอก็ไม่ได้

เมื่อมาถึงคิวของตน เจ้าหน้าที่จะให้คุยโทรศัพท์โดยให้ล่าม (คนไทย) ที่อยู่ในสายแปล ซึ่งขณะนั้นตนได้หยิบเอกสารขึ้นมาเรียงบนโต๊ะ โดยมีตั๋วเครื่องบินระบุไฟล์ทไป-กลับ เอกสารการจองโรงแรม พร้อมหลักฐานการจ่ายเงิน ประกันที่ซื้อตอนเดินทาง เส้นทางรถไฟของเกาหลีใต้ และแพลนการเที่ยวในแต่ละวัน

โดยคำถามแรกเจ้าหน้าที่ถามว่า คุณมาทำอะไร มากี่วัน มากับใคร คำถามสองคือ ไหนลองบอกว่าคุณจะไปที่ไหนบ้าง ตนจึงก้มดูแพลนที่เตรียมไว้ ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็มากระชากแพลนเที่ยวที่กำลังดูอยู่ออกไป แล้วถามว่าเพื่อนคุณอยู่ไหน ตนจึงตอบว่าเพื่อนผ่านหมดแล้วรออยู่ด้านนอก แต่ ตม. กลับตอบว่าเพื่อนไม่รอคุณ คุณมาคนเดียว ถึงแม้ตนจะพยายามเอารูปให้ดูก็ตาม

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังถามตนว่า เกาหลีมีอะไรดี ตนบอกไปว่ามีซีรีส์ สถานที่เที่ยว และอาหารอร่อย เช่น ปิ้งย่าง แต่ล่ามกลับสวนมาว่า ถ้าจะกินปิ้งย่างกินที่ไทยเถอะค่ะ ที่ไทยก็มี และยังมีคำถามอื่น ๆ ตามมา ซึ่งเป็นคำพูดและสายตาที่แย่มาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ ( 16 พฤษภาคม 2560 ) นางสาวทิวา บวรกุล หรือ เปิ้ล Thai in Korea หรือหนึ่งในคนไทยในประเทศเกาหลี  กล่าวว่า ความจริงตอนนี้คนไทยในเกาหลีก็เริ่มลำบากมากแล้ว เพราะโดนเคร่งครัดมากขึ้น เนื่องจากมีคนไทยหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมายจำนวนหลายหมื่นคน ซึ่งมีทั้งไปเอง และ ไปกับทัวร์

นางสาวทิวา แนะนำว่า แม้ว่าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยว หวาดกลัว กันมากที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะต้องกลัวขนาดไม่กล้าจะมา เพราะทางเกาหลีก็อยากให้คนไทยมาเที่ยวเยอะๆ  เหมือนกับไทยที่อยากให้คนมาเที่ยว เพราะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองโดนเพ็งเล็งจากภาครัฐ เพราะว่าปล่อยให้คนหลบหนีไปได้จำนวนมาก ซึ่งเขาโดนลงโทษ ดังนั้นเขาก็ต้องเคร่งครัดตามหน้าที่ เราไม่มีสิทธิอะไรไปว่าเขาเลย 

“ด่าน ตม. ทุกประเทศก็เข้มเหมือนกัน เพราะเขาต้องรับผิดชอบ หากมีการหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นเขาจึงให้สิทธิเด็ดขาดกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่จะสั่งให้เข้าประเทศ หรือ สั่งให้กลับไปก็ได้ เรื่องนี้เป็นที่น่าเห็นใจของนักท่องเที่ยวไทย ที่ตั้งใจมาเที่ยวจริงๆ แต่ช่วงนี้ขอเตือนไว้หน่อยว่า อาจจะโดนเหมารวมหมด” นางสาวทิวา กล่าว 

ทั้งนี้ ตนยังทราบมาอีกว่า บริษัททัวร์หลายบริษัท ก็มีคนไทยหลบหนีจำนวนมาก ทำให้เดือนร้อนไปตามๆ กัน ซึ่งทำให้ไกด์นำเที่ยว จะไม่ยอมปล่อยให้ลูกทัวร์ไปเที่ยวตามลำพัง และจะนับคนตลอดการเดินทาง ซึ่งทำให้การเที่ยวดูน่าอึดอัด

นอกจากนี้ นางสาวทิวา แนะนำด้วยว่า จากประสบการณ์ที่ได้เห็นเพื่อนๆ โดนส่งตัวกลับไทย ทาง ต.ม.จะโหดมากๆ และบางทีเขาก็ไม่มีอะไรให้กินเลย ต้องโดนกักอยู่หลายวัน ทั้งหิว ทั้งแออัด ซึ่งมีบริษัททัวร์ที่รู้จักกัน ก็โดนผลกระทบด้วย เพราะต้องเช็คให้ดี บางครั้งพามาทัวร์กลุ่มหนึ่ง 50 คน แต่ตอนกลับหายไป 5 คน   

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมให้ดีคือ บุคลิก การแต่งตัว เจ้าหน้าที่ตม.จะมอง เสื้อผ้าหน้าผมหมดเลย บางคนโดนก้มมองตัวจริงกับรูปในพาสปอร์ตเป็นสิบๆ ครั้ง และต้องแต่งให้ เหมาะสม ตามฤดูกาลเของเกาหลี หากฤดูหนาวก็ควรจะใส่เหมือนนักท่องเที่ยวที่กำลังไปเที่ยวเมืองหนาว ไม่ใช่ใส่เหมือนจะเข้าไปอยู่ในห้องทั้งวัน

รวมทั้งเอกสารต่างๆ ควรเตรียมไปให้พร้อม เพราะต้องได้ใช้แน่ๆ ในช่วงนี้  เช่น เอกสารการทำงาน  นามบัตร  ที่พัก หรือ หากมีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหน ก็ลองค้นหาในกูเกิ้ลไว้ก่อน แล้วปริ๊นเตรียมไว้ ทาง ต.ม.เขาจะถามง่ายๆ เช่น หากไปเที่ยวสวนสนุก เขาจะถามว่าสวนสนุกชื่ออะไร  หากมาเที่ยวจริงๆ จะตอบได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามาทำงานผิดกฏหมายจะตอบอะไรไม่ได้เลย ซึ่งหากโดนส่งกลับ ทางไกด์หรือ สถานทูตไทยในเกาหลีก็ช่วยอะไรไม่ได้ และทุกวันนี้คนไทยโดนส่งกลับทุกวัน 

เรื่องน่าสนใจ