สื่อรัสเซียรายงานว่าทางการได้ระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 45 รายว่า เป็นชายชาวเอเชียกลางที่มีอายุ 23 ปี
สำนักข่าวทาสส์และอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานตรงกันว่า เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วแต่ยังคงมีความสับสนว่าการลงมือก่อเหตุเป็นระเบิดฆ่าตัวตายหรือไม่ โดยสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานว่าชายที่ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง และเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวของเขาผ่านซากชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ดีโฆษกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ ต่อรายงานข่าวที่ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่สำนักข่าวทาสส์รายงานว่ามีหญิงอีกรายหนึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นเพียงครั้งเดียวขณะรถไฟวิ่งอยู่ระหว่างสถานีเซนนายา พลอชชาร์ดและสถานีเทคโนโลจิเชสกี อินสติติวท์ แต่พบระเบิดที่ยังไม่ระเบิดขึ้นอีก 1 ลูกที่สถานีพลอชชาร์ด วอสสตานิยา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้
ด้านหน่วยความมั่นคงของรัสเซียกำลังเร่งสอบสวนจากหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานทางนิติเวชวิทยารวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและวัตถุระเบิดที่พบ เพื่อไขปัญหาว่าใครคือผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ โดยมีการตั้งข้อสงสัยไปที่คนสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอสที่ถูกรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย ขณะที่กลุ่มที่สองคือชาวเชเชน ซึ่งเคยมีประวัติในการวางแผนก่อเหตุร้ายในรัสเซียมาก่อน
ด้านประธานาธิบดีปูตินซึ่งอยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กขณะเกิดเหตุระเบิดดังกล่าวได้เดินทางไปวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในช่วงค่ำวันเดียวกัน