สหรัฐและจีนเป็นสองประเทศที่ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ ที่เป่าผมและตู้เย็น มากที่สุดในโลกในปี 2557 และในจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ทิ้งกันทั่วโลกนั้น มีเพียง 1 ใน 6 เท่านั้น ที่มีการรีไซเคิล หรือ นำกลับมาใช้ใหม่
มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ กล่าวในรายงานว่า ปี 2557 ทั่วโลกมีการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเวสท์ 41.8 ล้านตัน และมีเพียงประมาณ 6.5 ล้านตันเท่านั้น ที่มีการรีไซเคิล หรือ นำมาแปรรูปโดยกรรมวิธีต่างๆ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และในบรรดาวัสดุที่ถูกทิ้งแล้วนั้น มีวัสดุมีค่า เช่น ทองคำ เงิน เหล็กและทองแดง ซึ่งเป็นส่วนประกอบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นมูลค่าประมาณ 52,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท โดยเป็นทองคำ 300 ตัน หรือเท่ากับร้อยละ 11 ของทองคำที่ผลิตในโลกในปี 2556 ในขณะเดียวกันก็มีส่วนประกอบอันตรายอยู่ในขยะเหล่านี้ด้วยราว 2.2 ล้านตัน เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียมและโครเมียม และยังมีแก๊สไฮโดรฟลูโอโรคาร์บอนที่เป็นตัวทำลายโอโซนอีก 4,400 ตัน
รายงานของมหาวิทยาลัยสหประชาชาติระบุว่า ในปี 2557 สหรัฐทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ 7.1 ล้านตันในขณะที่จีนทิ้งขยะประเภทนี้ 6 ล้านตัน ตามมาด้วยญี่ปุ่น เยอรมนี และอินเดีย ในขณะเดียวกันประเทศที่อยู่อันดับ 1 ของปริมาณการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อคนสูงที่สุดคือนอร์เวย์ ที่ 28 กิโลกรัม ตามมาด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ เดนมาร์ก และอังกฤษ ในขณะที่ สหรัฐอยู่ในอันดับที่ 9 และจีนไม่ติดใน 40 อันดับแรก ภูมิภาคที่มีการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์น้อยที่สุดคือแอฟริกาคือ 1.9 ล้านตัน หรือ คิดเป็น 1.7 กิโลกรัมต่อคน