วันที่ 18 กันยายน ความคืบหน้าคดี นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพลศึกษา โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่ก่อเหตุปาแก้วกาแฟโดนหน้า นางสาวนฤดี จอดสันเทียะ อายุ 17 ปี หรือน้องทราย ลูกศิษย์ของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าผิดรูปเสียโฉม
ล่าสุดนายไพฑูรย์ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ต้องการชี้แจงใดๆ เพราะเกรงจะมีผลกระทบต่อน้องทรายผู้เสียหาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของตนเอง
โดยเรื่องที่เกิดขึ้นขอให้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งตนเป็นครู มีความรัก และผูกพันกับลูกศิษย์ทุกคน รวมถึงตัวน้องทรายด้วย ตนไม่คิดจะทำร้ายลูกศิษย์อย่างแน่นอน และยังมีความรัก และเป็นห่วงน้องทรายในฐานะครูกับลูกศิษย์เหมือนเดิม
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเวลาจะช่วยคลี่คลายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ซึ่งตอนนี้ตนขอมุ่งมั่นพาเด็กนักเรียนไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียนในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ก่อน
ด้าน ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต31 นครราชสีมา (สพม.เขต31 นม.) เปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปความผิดของนายไพฑูรย์ ครูผู้ก่อเหตุปาแก้ว ว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงนั้น ทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นตรงกันว่าครูปาแก้วกระทบหน้าต่างก่อนกระเด็นไปโดนหน้าเด็กนักเรียน ไม่ได้เป็นการปาใส่หน้าโดยตรง และเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ
ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการชุดที่ 2 เพื่อสอบสวนทางวินัยครูไพฑูรย์ โดยมีนายสุพนธ์ จอกทอง ผอ.โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 เป็นประธาน ซึ่งจะลงพื้นที่ในวันจันทร์ที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อสอบปากคำทั้งครูไพฑูรย์ ผู้ก่อเหตุ รวมทั้งน้องทราย ผู้เสียหายซึ่งหากผู้เสียหายมีหลักฐานยืนยันได้ว่า ครูปาแก้วใส่หน้าโดยตรงสามารถนำมายืนยันเพื่อนำไปสู่การพิจารณาเพิ่มโทษได้