การเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่เรื่องหน้าอายเลย การโดนคนอื่นล้อหรือดูถูก หากเรานำมาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองได้ และทำให้คนอื่นที่ล้อเราต้องหันกลับมามองเราอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุด เช่นเดียวกับหนุ่ม “หวาย” ที่ครั้งหนึ่งเคยโดนล้อว่า “อ้วนหน้าหมี”
หนุ่มหวายได้เปิดเผยเรื่องราวของตัวเองในเว็บไซต์ Dek-d.com โดยเล่าว่า ครั้งหนึ่ง เคยเป็นคนที่กินเก่งมากๆ กินทั้งหมูสามชั้น, น้ำอัดลม, ขนมอะไรต่างๆมากมาย ที่ใครว่ามันอร่อยก็กินหมด จนน้ำหนักแตะที่ 98 กิโล (สูง181) แล้วเวลาไปโรงเรียนเพื่อนๆก็ชอบล้อว่า ตัวของเขานั้นเหมือนหมี
เป็นไงหน้าเรา นี่มันหมีชัดๆ 55555 แล้วหลังจากนั้นเองวันนึง ก็ไปบ้านญาติที่โคราช ป้าก็เห็นเราบ่อยนะเพราะไปบ่อย แต่มาวันนี้แกทักว่า หวายลูก อ้วนมากๆแล้ว คอดำหมดแล้ว ลดความอ้วนได้แล้วลูก แบบนี้ใครจะไปชอบ เราแบบคิดในใจ เห้ออออออ ! มันก็จริงอย่างที่ป้าพูดแหละ
หลังจากนั้นพ่อก็พาเข้าฟิตเนสที่โรงเรียนประจำจังหวัด แรกๆ ก็ฟิตอยากไปออกกำลังกาย เขาให้วิ่งก็วิ่ง แต่ก็เหนื่อยแบบโคตรๆ ลองทนทำไปได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ปรากฎว่าพอลองไปชั่งน้ำหนัก ก็ตกใจ “เห้ย! มันลดไป 1 กิลโลฯ” คือแบบว่าเป็นนาทีที่โคตรดีใจแบบไม่เคยชั่งน้ำหนักแล้วตัวเลขมันลดลงให้เห็นเลย เคยมีแต่เพิ่มกับเพิ่ม จนทนออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการอดอาหาร
ย้ำว่าอดอาหาร!!
โดยจะกินข้าวเช้าเยอะๆ มื้อเที่ยงกินแต่แอปเปิ้ลเขียว 3 ลูก ตอนเย็นก็ไปออกกำลังกาย วันไหนหิวก็จะกินสลัด+ไก่ย่างแทน จนได้สภาพที่เห็นในรูปด้านล่าง
ตอนนั้นลดน้ำหนักจนอาจารย์ที่เป็นเจ้าของฟิตเนส เดินมาบอกว่า “หวาย ครูหวายเอ็งพอได้แล้วมันผอมเกินไป” ใช่แล้วหละครับผอมเกินไป ตอนนั้นสูง 184 น้ำหนักแค่ 61 หลังจากนั้นก็เลยเลิกเข้าฟิตเนส แล้วก็เลิกออกกำลังกายไปเลย
จากนั้นอีก 1 ปี ก็หันมาดูแลรักษาผิวพรรณ เริ่มดูแลตัวเอง แต่พอขึ้นมหาลัยเริ่มใช้ครีมแต่และแล้วหน้าก็แพ้สะงั้นเพราะสเตียลอยด์
หลังจากนั้นก็เริ่มปล่อยตัว จนหน้าเริ่มบวม กระทั่งตัดสินใจที่จะถึงวันเปลี่ยนแปลงชีวิตแล้ว เนื่องจากเราเป็นคนคางสั้นแถมปากใหญ่มากๆ เราจึงขอทุนทรัพย์จากป้า (ฮ่าๆ) มาเสริมคางและตัดปาก
หน้าก่อนศัลยกรรม
ครั้งแรกที่ทำรู้สึกกลัวมาก ทรมานมากๆ เราทำตอนหน้าหนาวด้วย อื้อหืม…. ไม่อยากจะบรรยายความเจ็บปวด ปากนี้เหมือนคนปากแตกนะ แต่เจ็บกว่าหลายเท่าเลย ในตอนนั้นเราคิดว่า เห้ย คางกับปากมันจะเป็นไงน้าา กลัวมันเน่าจัง ดูจากรูป เพราะมันปวดมาก
แต่หลังจากครบ 1 อาทิตย์ของการทำคางกับปากมา ก็ได้ฤกษ์ถอดเฝือกออกพอตอนถอดออกครั้งแรกถึงกับช็อกเลย เพราะดูแล้วคางเบี้ยว แอบนอยด์นิดๆ แต่เขาบอกว่า มันยังบวมอยู่ให้หมั่นดูแล ประคบเย็นเข้าไว้ ยอมรับว่าจิตตก ไม่กล้าออกไปไหน จนกระทั้งผ่านไป 1 เดือนมันก็เริ่มยุบลง
หลังจากนั้น 4 เดือน เริ่มพอใจในคางกับปากใหม่
หลังจากนั้น ก็เริ่มหันมาดูแลผิวพรรณอีกครั้ง โดยการไปจี้ขี้แมงวันบนใบหน้าออก แล้วก็เริ่มพึ่งโบท็อกซ์เพราะเราเป็นคนใบหน้าใหญ่มากๆ ถือว่าเป็นปมด้อยเลยสำหรับเรา
หน้าเป็นแผลจากการจี้ขี้แมงวัน
แผลเริ่มแห้งแล้ว หน้าดำมาก เพราะไม่ได้ล้างหน้า
หลังจากนั้น 8 เดือน หน้าเริ่มเล็กแล้ว
รูปปัจจุบัน
โดดเด่นต้องขอบอกทุกคนเลยว่า กำลังใจจากตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพียงแค่ไม่ย่อท้อ เก็บเอาคำดูถูกต่างๆ มาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง แล้วกล้าที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อลบความสบประหม่าต่างๆ แค่นี้คุณก็จะกลายเป็นคนใหม่ จนทำให้ทุกคนถึงกับอึ้ง! บางคนดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องศัลยกรรมเลยก็มีนะคะ
ส่วนใครที่อยากติดตามหนุ่มหวายสามารถติดตามได้ที่
Facebook : Silver Waii
Instagram : Silver__waii
