ไฟไหม้บ่อขยะเอกชน อ.บางพลี ปะทุอีกในจุดใหม่ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด ขณะที่ควันไฟลอยคลุ้งไปทางชุมชนใกล้เคียง ด้านทหารส่งกำลังช่วย …จากกรณีเหตุไฟไหม้บ่อทิ้งขยะของบริษัทเอกชน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ จากทั้งหมดเกือบ 200 ไร่ ภายในซอยสุเหร่าบางกะสี ถนนเทพารักษ์ กม.16 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณ 14.30 น. วานนี้ (21 เม.ย.)
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการฉีดน้ำสกัดเพลิงไหม้บ่อขยะมา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เบื้องต้น จุดดังกล่าวสามารถคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้นำรถแบ็กโฮเข้าไปช่วยเปิดหน้า เพื่อทำการฉีดน้ำอัดลงไปให้ไฟดับ 100%
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดไฟปะทุขึ้นอีกจุดหนึ่งของกองขยะ ด้านติดถนนเลียบคลอง กินเนื้อที่นับสิบไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถน้ำ เพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างเร่งด่วนแล้ว แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดดังกล่าว รถน้ำไม่สามารถเข้าถึง เจ้าหน้าที่ต้องต่อสายยางเข้าไปในพื้นที่เพื่อฉีดน้ำ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจร ถนนเลียบคลองส่งน้ำแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม มีกำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 11 จ.ฉะเชิงเทรา 50 นาย เข้าให้การสนับสนุนแล้ว
สำหรับกลุ่มควันจากเพลิงไหม้นั้น แต่เดิมลอยไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของฝั่งถนนเทพารักษ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม แต่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 5 กิโลเมตรนั้น ขณะนี้กลุ่มควันเปลี่ยนทิศทาง ลอยสูงขึ้น ไม่ฟุ้งกระจาย และยังไม่มีรายงานว่า มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบจากควันไฟ
เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ประกาศให้ชุมชนบ้านคลองสำโรง หมู่ 9 ต.บางปลา เป็นพื้นที่ประสบภัยเพลิงไหม้แล้ว และหากสำรวจพบว่ามีตำบลอื่นได้รับผลกระทบจากควันก็จะประกาศเพิ่มเติม
สำหรับ การดูแลประชาชน ยังคงให้สาธารณสุขออกประชมสัมพันธ์และแจกหน้ากากอนามัยให้กับชาวบ้านคลอง สำโรงหมู่ 9 แล้ว ส่วนที่โรงเรียนราษฎร์บูรณะ ใกล้กับ อบต.บางปลา ซึ่งใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากควันนั้น
เมื่อคืนที่ผ่านมา มีชาวบ้านมาอาศัยอยู่ราว 70 ครัวเรือน และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคอยให้การรักษา เบื้องต้นพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาการแสบตา วิงเวียน และไอ
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ทางกรมควบคุมมลพิษ ได้มาเก็บตัวอย่างอากาศและวัดค่ามลพิษแล้ว แต่ยังไม่ได้รายงานผลสภาพอากาศในพื้นที่ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ว่ามีผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร.
