ตกเป็นข่าวให้ต้องออกมาเคลียร์กันอีกแล้วละคะสำหรับอดีตสาวเซ็กซี่ชื่อดังอย่าง “เพี๊ยช กนกลดา” ที่ล่าสุดมีชาวเน็ตแอบไปส่องไอจีของสาวเพี๊ยชเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง ที่ตอนนี้เจ้าตัวไม่อัพรูปคู่กับสามีหนุ่ม “มิกกี้ ณัฐพงศ์” ลงในไอจีของตัวเองเลย งานนี้เลยทำเอาหลายคนเม้าท์ให้แซ่ดว่าทั้งคู่เตียงหักเเล้วหรือเปล่า ล่าสุดได้เจอสาวเพี๊ยชเลยต้องให้เจ้าตัวออกมาเคลียร์กันหน่อย รวมไปถึงตอนนี้เห็นว่าเจ้าตัวยอมควักเงินในกระเป๋าลงทุนทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ครีมด้วยตัวเองที่ประเทศเกาหลีตอนนี้ไปถึงไหนเเล้ว
ตอนนี้อัพเดทผลงาน ว่าตอนนี้ทำอะไรบ้าง?
ผลงานตอนนี้ก็คือ จะเน้นไปทางพิธีกร พิธีกรรายการผู้หญิงรู้จริง เเละรายการสวยเป๊ะเวอร์ มี 2 รายการ เป็นรายการสดเลย จันทร์ถึงศุกร์ ทางช่องเอสชาแนล ถ้าเป็นวันอื่นก็มีอัดเทป เเละก็มีงานอื่นๆ งานส่วนมากที่เข้ามาจะเป็นงานแม่เเละเด็ก
เห็นมีไปจัดรายการกับเด็กๆ ด้วย ?
ใช่คะ เป็นรายการ มัมทูเบบี้ เป็นรายการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก เอาประสบการณ์ตัวเองมาแชร์ในการเลี้ยงลูก เข้าไปดูได้นะคะ เซิดคำว่ามัมทูเบบี้
เหมือนเราผลันตัวมาเลยหรือเปล่าตั้งเเต่มีน้อง ?
ต้องบอกว่ามันเป็นไปตามสเต็ป จริงๆ ตอนนี้ก็ยังรับงานปกติแต่ด้วยลุคเราที่เป็นคุณแม่เต็มตัวเเล้ว ส่วนมากงานที่เข้ามาก็จะเกี่ยวกับแม่ๆ ลูกๆ
กลัวดร๊อปไหม หลังเเต่งงานมีครอบครัว ?
ก็คือตัดสินใจก่อนที่จะเเต่งงานเเล้วละคะ ว่าช่วงนะยะเวลาเราเคยไปลั๊นลาเเล้ว เรียกได้ว่าเต็มที่เเล้วทำให้เรารู้ว่าวงการบันเทิงไทย ถ้าใครเเต่งงานมีลูกแล้วดูดร๊อปไปโดยเฉพาะผู้หญิง ก็ไม่เป็นไร เพราะเราเชื่อว่าคนที่จะเเต่งงานกับเราเขาดูแลเราได้ เราก็ยังทำงานเหมือนเดิม อย่างตอนนี้ทำงานพิธีกรอย่างน้อยมันก็มั่นคง มีงานทุกวัน ถ้าเป็นรายการสด ส่วนงานที่น้อยลง น่าจะเป็นถ่ายเเบบโชว์ตัวมากกว่า ด้วยเรามาสายเซ็กซี่เเต่ตนเองมองว่าถ้าเทียบเซ็กซี่เมื่อก่อนกับตอนนี้ กระเเสเซ็กซี่น้อยลงนะ ช่วงหลังๆถามว่าดารามีเซ็กซี่ไหม ก็มีบ้าง ไม่เซ็กซี่เหมือนเมื่อก่อน อย่างงานพรมแดงเเต่งเรียบหรูคุณหนูผู้ดี เเละเพื่อนสมัยเดียวกันที่เคยเซ็กซี่ก็เเต่งงานเเล้ว เลยคิดว่าถึงเวลาเเล้วคะ
หลายคนมองว่าเราเเขวนเต้าไปแล้ว โดนครอบครัวสามีสั่งห้ามหรือเปล่า ?
ถามว่าแขวนเต้าไหม ตนมองในด้านกาละเทศะมากขึ้นเเละให้เกียรติ ทางพ่อแม่สามีไม่ได้มีการกีดกันเรื่องการรับงานเซ็กซี่นะ คือจะเป็นทางพ่อแม่เรามากกว่า ห้ามตั้งเเต่เล่นผู้หญิงห้าบาปเเล้ว ( หัวเราะ) เราก็เลือกทางเดินของเราตั้งเเต่ตอนนั้นเเล้วว่า เราอยู่ในขอบเขต พอแต่งงานเราจะให้เกียรติเขา ให้เกียรติพ่อแม่เขา เพราะพ่อแม่เขาก็มีเพื่อน เดี๋ยวนี้โลกโซเชียลไวมาก ยกตัวอย่างเราไปเที่ยวทะเลใส่ชุดว่ายน้ำ ก็จะมีคนไปแซวพ่อสามีที่ทำงานว่าลูกสะใภ้สวยเนาะอะไรงี้ ก็เลยทำให้เรามีขอบเขตมากขึ้นให้เกียรติเขามากขึ้น เเต่เขาก็ไม่ได้กั้นสิทธิอะไรเรา ก็จะรู้ตัวเองมากขึ้นถ้าอย่างก่อนท้องยังเยอะ ยังมีบอดี้เพ้นท์พอท้องปุ๊บก็มีถ่ายเก็บไว้ดู เเล้วลูกเราก็เป็นผู้ชาย ไม่อยากให้ลูกไปโรงเรียนละเเบบเพื่อนเซิดรูปแม่ เเต่ถ้าลูกเซิดก็เจอตนจริงๆ เเต่มันจะขึ้นปี พ.ศ จะได้อธิบายให้ลูกฟัง ว่าคือการทำงาน ตั้งเเต่ตนเข้าวงการ พอมีเราแม่ก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ยังอธิบายได้
น้องพัฒนาการเป็นยังไงบ้าง ?
สำหรับน้อมแม็กนั่ม เดือนตุลาคมนี้ก็จะครบ 2 ขวบเเล้ว พัฒนาการเป็นไปตามวัย หรืออาจจะเกินวัย ก็จะชอบบ่นว่าลูกดื้อ เเต่ผู้ใหญ่บอกว่าห้ามบอกว่าดื้อให้บอกว่าฉลาด อาจจะเป็นเพราะพ่อแม่รวมกัน ตอนท้องก็ไม่ได้อยู่เฉยๆทำงาน เที่ยวนั้นบ้างปกติ พอแม็กนั่มออกมาก็สนุกสนานไม่มีแบบนั่งเล่นของเล่นคนเดียวเราต้องนั่งเล่นด้วยตลอด ทักษะดีคะ ส่วนการส่งไปเรียนเพิ่มเติม ตรงนี้ยังไม่อยากยัดให้ลูกสักเท่าไหร่ เอาไว้สักพักก่อนละกัน
ตอนนี้มีเเววพ่อหรือแววแม่ ?
ตอนนี้น่าจะเป็นแววพ่อ ชอบงานช่างเหมือนพ่อ เพราะพ่ออยู่บ้านก็ซ่อมคอม ซ่อมรถ ชอบรถเหมือนพ่อเพราะเป็นเด็กผู้ชาย ก็จะชอบรถมากกว่าเล่นแรงเพราะเป็นเด็กผู้ชาย
อยากให้ลูกเข้าวงการไหม ?
นี้เเล้วเเต่ลูกเลยคะ ให้เขามีอิสระ ไม่อยากบังคับ เขาจะเป็นยังไง ทำอะไร เเล้วเเต่เขา จะให้อยู่ในกรอบมากกว่า
เห็นคุณปู่คุณย่าเห่อหลานดูเเลดีมาก ?
ก็ด้วยเป็นหลานชายคนแรก ดูโรงเรียนให้แม็กนั่มยัง ต้องเป็นแบบนี้นะ เเต่เราก็เฉยๆ สไตล์เขาแบบให้เขาโตมาละเลือกเองดีกว่าแม่ ไม่ซีเรียสอะไรขนาดนั้นเเต่ถ้าเลือกได้ อยากให้เขาเรียนสายวิทยาศาสตร์ เพราะตนจบสาธารณสุข อยากให้เป็นหมอ แต่ต้องรอดูเขาอีกที อยากให้จบปริญญา เพราะพ่อแม่ทุกคนมีความหวังคะ
ล่าสุดมีโปรเจคใหม่ผุดขึ้นมาอีกแล้ว มันคืออะไร ?
เป็นเซรั่มคะ ซึ่งตนเดินทางไปที่เกาหลีเลย ไปดูโรงงานเองเลย ควบคุมการผลิตเองทุกอย่างเลย ยอมรับสมัยก่อนไปรับงานผลิตภัณฑ์แล้วไม่ได้ใช้จริง พอคนถามเราก็ตอบไม่ได้ เเต่นี้เป็นของตัวเอง ใช้จริง ดูเเลผลิตเอง จะได้พูดได้ว่ามันดียังไง ตัวเเรกเป็นเซรั่มคะ เพราะทุกคนใช้ได้ทั่วไป เเละตัวต่อๆ ไปน่าจะอยู่ในไลน์ของเครื่องสำอางค์ เปิดบริษัทเองเเละทำเองทุกอย่าง สามีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย เพราะตนอยากทำเอง อยากตัดสินใจเอง
มีเวลาให้บ้างไหมทำงานเยอะขนาดนี้ ?
สามีไม่มีเวลาให้เรามากกว่า ( หัวเราะ) ด้วยสามีเป็นผู้อำนวยการสถานีหนึ่ง ทำงานเบื้องหลังทุกอย่างเลย เเละเขาเป็นคนเต็มที่กับงานมาก เสาร์อาทิตย์บางทีรับงานนอกด้วย เลยไม่มีเวลาให้กัน ถ้ามีเวลาตรงกันก็ออกไปทานข้าว ไปช้อปปิ้งกันบ้าง พาน้องลูกไปเที่ยวกันบ้างคะ
หลายคนมองว่าเราเลิกกันเเล้วเพราะในไอจีไม่เห็นลงรูปคู่กันเลย ?
คือสามีไม่ชอบถ่ายรูปอยู่เเล้ว และด้วยสามีที่ทำงานเยอะ เเละตนถ่ายรูปตอนกลางวัน กลางคืนเจอกันก็ไม่ได้ถ่าย เช้ามาเขาก็ไปทำงาน กลับมาดึกแสงก็ไม่สวย ก็จะมีถ่ายกับลูก นานๆก็จะมีไลท์สดลงเฟสบุ๊คพ่อแม่ลูกไปเที่ยว
2-3 วันมานี้วันเกิดเราสามีซื้ออะไรให้ ?
โอนเงินให้ ( หัวเราะ) สามีจะเป็นแนวแบบไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันแบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะเขามองว่าทุกวันคือวันพิเศษ เเละสำคัญทุกวันอยากได้อะไรก็ไปซื้อเอง หลักหมื่นปลายคะ ไม่ใช่หลักแสน ( หัวเราะ) เขาก็ให้เราไปซื้อเองกลัวไม่ถูกใจเรา
สุดท้ายฝากถึงผลิตภัณฑ์เราหน่อย?
ฝากถึงผลิตภัณฑ์ด้วยคะ เพราะเป็นธุรกิจที่ลงมือเองตั้งแต่เเรก หาโรงงานที่ถูกใจเอง หาผลิตภัณฑ์เอง ราคาขายคุ้มมาก กำไรน้อยมากถ้าเทียบกับต้นทุนที่ตนไปทำครีมที่เกาหลี ก็ขายตามเฟสบุ๊คลูก เเต่อยากจะฝากถึงความตั้งใจของตัวเองกับธุรกิจครั้งนี้ ฝากด้วยละกัน
แหม สาวเพี๊ยชก็เคลียร์หมดเปลือกขนาดนี้ เอาเป็นว่าขาเม้าท์ทั้งหลายเข้าใจตรงกันนะคะ ยังไงเเล้วเจ้ก็ขอให้ธุรกิจครีมของสาวเพี๊ยช ขายดิบขายดี เฮงๆ ปังๆ เลยละคะ
