วันนี้ เภสัชกร สิรวิชญ์ พันธนา เภสัชกรชำนาญการ ( ด้านเภสัชกรรมคลินิก ) มาให้ความรู้เรื่องของ “โรคพิษสุนัขบ้า” ที่ตอนนี้ในประเทศไทยกำลังตื่นตัวกันมากเลยทีเดียว โดยเภสัชฯ สิรวิชญ์ เผยว่า โรคพิษสุนัขบ้า หากเป็นแล้วเสียชีวิตทุกราย เนื่องจากในปัจจุบันนี้ยังไม่มียาสำหรับรักษาโรคพิษสุนัขบ้า แต่เราสามารถป้องกันโรคนี้ได้ โดยเลี้ยงสุนัขในจำนวนที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป และควรพาสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนด รวมถึงไม่ควรปล่อยให้สุนัขของตนออกไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการถูกกัดจากสัตว์ที่มีเชื้อได้ ดังนั้น ไม่ควรไปแหย่หรือกวนให้สุนัขโกรธ หากพบเห็นสุนัขกำลังกัดกัน อย่าเข้าไปแยกสุนัขออกจากกันด้วยมือเปล่า และอย่าเข้าไปใกล้สุนัขที่ไม่มีเจ้าของ
ในปีนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าหลายราย สำหรับผู้ที่มีประวัติสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าทุกคน แนะนำให้รีบไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และหากพบเห็นสุนัขที่มีอาการหางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง จะต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือผู้นำชุมชน และให้ช่วยกันจับด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ถูกกัดหรือข่วน
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ถูกสุนัขหรือแมวกัดหรือข่วน
– ให้รีบล้างแผล ด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หลายๆครั้ง อย่างเบามือ
– ซับแผลให้แห้งแล้วใส่ยา เช่น เบตาดีน ฯลฯ
– รีบไปพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และจะต้องกลับไปฉีดวัคซีนตามนัดทุกครั้งจนครบ
– แนะนำให้ขังสุนัขตัวที่กัดไว้เพื่อดูอาการประมาณ 10 วัน หากสุนัขตาย จะต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร 1422
เภสัชกร ดร.สิรวิชญ์ พันธนา
เภสัชกรชำนาญการ ( ด้านเภสัชกรรมคลินิก )
กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลบึงกาฬ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข