ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำรถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวเมอร์เซเดส-มายบัค ที่สุดแห่งยนตรกรรมหรู เหนือระดับ ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่เลิศหรู ล้ำสมัยในทุกอณู รวมถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร

0

ด้านหลังที่มีมากขึ้นกว่าที่เคย ด้วยความยาวตัวถังและระยะฐานล้อที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นยนตรกรรมที่ถูกออกแบบให้ห้องโดยสารภายในมีความเงียบมากที่สุดในโลกอีกด้วย เมอร์เซเดส-มายบัค S 500 พร้อมเปิดให้จองได้ในราคา 16,900,000 บาท ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น

เมอร์เซเดส-มายบัค นับเป็นค่ายยนตรกรรมหรูลำดับที่ 2 ภายใต้แบรนด์ Mercedes ต่อจาก Mercedes-AMG โดยรุ่นที่นำมาเปิดตัวในประเทศไทยนั้น คือรุ่นเมอร์เซเดส-มายบัค S 500 ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่เลิศหรู ล้ำสมัย

ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแบรนด์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” และสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหลและความสมบูรณ์แบบให้แก่ลูกค้า โดยรถยนต์รุ่นนี้มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่กลุ่มผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มธุรกิจฟลีตกับโรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองไทย สำหรับให้บริการเหล่าลูกค้าคนสำคัญ

1

เมอร์เซเดส-มายบัค S 500 โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกอันหรูหราสง่างาม โดยการคงไว้ซึ่งการออกแบบบริเวณด้านหน้าให้ยังคงความหรูหราแบบ The new S-Class เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนฝากระโปรงลาย 3 แถบ เสริมโครเมียม ฝากระโปรงหน้าที่ยาวพร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า

กระจกหน้าต่างสีเขียว กรองแสงรอบคัน พร้อมกระจกนิรภัยด้านหลัง, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมฟังก์ชั่น Active Light System, ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก, ปลายท่อไอเสียคู่, ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์แบบ Run-flat Tyres และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่

พร้อมปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วยโลโก้ “Maybach” บนฝากระโปรงหลัง โดย Mercedes-Maybach มาพร้อมกับความยาวตัวรถประมาณ 5,453 มม. (S-Class ยาว 5,246 มม.) ระยะฐานล้อ 3,365 มม. (S-Class ยาว 3,165 มม.) ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

สำหรับดีไซน์ภายในยังคงเน้นการผสมผสานความหรูหรา ความนุ่มสบายขณะขับขี่ และความกว้างขวางเข้าไว้ด้วยกัน โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa แบบ Exclusive Package ตัดเย็บลายเบาะแบบ Diamond Design, นาฬิกาแบบแอนะล็อกที่มาพร้อมกับ IWC ดีไซน์ รวมถึงระบบมัลติมีเดียอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบ COMAND Online เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และระบบนำทางพร้อมรีโมตควบคุมสำหรับ

2

ผู้โดยสารด้านหลัง, เครื่องเล่นดีวีดีแบบ 6 แผ่น ระบบสั่งการด้วยเสียง เฉพาะภาษาอังกฤษ, ระบบเครื่องเสียงแบบ Burmester 3D เซอร์ราวนด์ซิสเต็ม ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง

ห้องโดยสารภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลัง ริมหน้าต่าง ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น อุ่นเบาะนั่งและระบายอากาศ พร้อมทั้งสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ โดยเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าได้มากกว่าปกติถึง 4 เซนติเมตร และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 เซนติเมตร เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบ Mul-ti-Contour ที่มาพร้อมระบบที่นั่งแบบ First Class และโต๊ะทำงานแบบพับได้

รวมถึงการเพิ่มความสบายตลอดการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นนวด ENERGIZING สำหรับเบาะด้านหลังที่ใช้หลักการนวดผ่อนคลายเหมือนการใช้หินร้อน โดยสามารถเลือกโปรแกรมนวดได้ถึง 6 รูปแบบ ที่พร้อมเพิ่มความสบายในการพักผ่อนด้วยรองขาปรับระดับ

สำหรับผู้โดยสารด้านหลังซ้าย-ขวา, ตู้เย็นภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งด้านหลัง, ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย-ขวา และด้านหลังที่สามารถปรับเลื่อนขึ้น-ลงด้วยระบบไฟฟ้า, ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติหน้า-หลัง รวมถึงการช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 7 สีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยถูกออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ และระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

เมอร์เซเดส-มายบัค S 500 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 4,663 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 455 แรงม้า ที่ 5,250-5,550 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

เรื่องน่าสนใจ