มาทำความรู้จักกับสบู่กันเถอะ
สบู่หรือที่นักวิทยาศาสตร์ เรียกมันว่าเกลือของกรดไขมัน เกิดจากการนำเอาน้ำมันหรือไขมัน (เอสเทอร์ที่มีมวลโมเลกุลสูง) เช่นน้ำมันมะกอก มาทำปฎิกิริยากับเบส (NaOH) ก้อจะได้ สบู่ออกมา (ถ้าใช้ KOH แทน NaOH จะได้สบู่ที่มีลักษณะอ่อนหรือ เป็นสบู่เหลว แทน )
ประวัติความเป็นมาของ สบู่
สบู่ถูกค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อประมาณ 2800 ปี ก่อน คริสตกาล โดยในอดีตชาวโรมันได้ทำสงครามกับทาง นครคอนสแตนติโนเบิล ทามกลางสงครามทำให้สัตว์เลี้ยงอย่างวัวหรือแพะต้องถูกไฟครอกตายและทำให้ไขมันของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไหลออกมาผสมกับขี้เถ้า เกิดสีขาวๆขึ้นจากกองซาก เมื่อฝนตกลงมาโดนเจ้าก้อนสีขาวๆนี้จะทำให้เกิดฟองจำนวนมาก ซึ่งนายทหารชาวโรมันได้พบว่า เจ้าก้อนสีขาวๆซึ่งเกิดจากไขมันสัตว์สมกับขี้เถ้านี้ สามารถใช้ทำความสะอาดร่างกายและเสื้อผ้าได้ดีนัก
สบู่สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้อย่างไร
โมเลกุลของสบู่ประกอบไปด้วยสองส่วนคือ โมเลกุลส่วนที่มีขั้ว( -COONa) และ ส่วนที่ไม่มีขั้ว (Hydrocarbon Chain ) โดยที่เมื่อสบู่มาละลายในน้ำ สบู่ก็จะแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆโดยจะหันปลายโมเลกุลที่ไม่มีขั้วเข้ากันลันด้านที่มีขั้วออกมาโดยมีโมเลกุลของน้ำมารอมรอบ โดยที่เมื่อใช้สบู่ล้างไขมัน , น้ำมัน หรือสารที่มีโมเลกุลไม่มีขั้ว กลุ่มของสบู่ก็จะหันปลายด้านที่ไม่มีขั้วออกมาละลายน้ำมัน ทำให้น้ำมันกระจายเป็นหยดเล็กๆ ในขณะเดียวกันปลายอีกด้านหนึ่งที่มีขั้วจะละลายน้ำซึ่งเป็นสารที่มีขั้วเหมือนกัน ทำให้สิ่งสปกรกกระจายหลุดออกไปจากวัตถุที่ต้องการล้าง
ลักษณะของสบู่ที่ดี
– สบู่ที่ดีควรจะมีค่า pH ที่ 5.5 หรือ มีลักษณะเป็นกรดอ่อนๆ
– ควรทำมาจากไขมันพืช 100 %
– ปราศจากสารที่อาจทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง
– ควรมีสารให้ความชุ่มชื่นในปริมาณสูง (กลีเซอลีน)
– ไม่ทิ้งสารชะล้างไว้บนผิวหนัง
แนะนำ
– The Body Shop Coconut Soap
– Loccitane Shea Butter Extra Gentle Soap
– Dove Beauty Bar
– Parrot Original Soap
– Olay Total Effect Cleanser
Credit by : ปฐมพงษ์ บำเริบ