บทประพันธ์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
กำกับการแสดงโดย : มารุต สาโรวาท
ผลิตโดย : บริษัท มาสเคอเรด จำกัด
ควบคุมผลิตโดย : มารุต สาโรวาท
ออกอากาศทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ ละครไฟหวน
เจ้าคุณเทพ (สุรวุฑ ไหมกัน) และ คุณหญิงมณี (ปิยธิดา วรมุสิก) ผู้เป็นเจ้าของวังเทพมณี ต้องต้อนรับแขกเหรื่อ ที่มาร่วมแสดงความยินดีที่คุณหญิงตั้งท้องลูกคนแรก รวมทั้ง คุณชไม (ณัฎฐริณีย์ กรรณสูต) เพื่อนสนิทของคุณหญิงมณีที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ด้วย
คุณชไมมีความสามารถเรื่องดูดวง เมื่ออยู่กันตามลำพัง คุณชไมจึงดูดวงให้คุณหญิงมณี แล้วทำนายว่าลูกในท้องที่จะเกิดมาจะเป็นผู้หญิง แต่คุณหญิงมณีจะมีลูกได้แค่คนเดียวเท่านั้น คุณหญิงไม่เชื่อคำทำนายของคุณชไม เพราะคิดว่าเป็นเพียงคำพูดไร้สาระ ส่วนเจ้าคุณเทพเมื่อรู้เรื่องกลับไม่ใส่ใจกับคำทำนาย เพราะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่แล้วเรื่องราวดูเหมือนจะเป็นจริงดังคำทำนายของคุณชไม เมื่อถึงกำหนดคลอดลูก คุณหญิงมณีปวดท้องทุรนทุรายอยู่หลายวัน จนกระทั่งในที่สุดคุณหญิงก็คลอดลูกสาวออกมา แล้วเกิดอาการเลือดเป็นพิษ หมอฝรั่งที่โรงพยาบาลบอกว่าคุณหญิงมณีจะไม่สามารถมีลูกได้อีก ไม่เช่นนั้นจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณหญิงเสียใจมาก เธอนึกถึงคำพูดของคุณชไมขึ้นมาจับใจ
ครั้นเมื่อร่างกายหายป่วยเป็นปกติแล้ว คุณหญิงมณีจึงพา มัทนา ลูกสาวคนเดียวของเธอ เดินทางไปขอโทษคุณชไม แต่เมื่อคุณชไมดูดวงให้หนูน้อยมัทนา เธอก็ถึงกับต้องตกใจ เมื่อคำทำนายออกมาว่าหนูน้อยจะต้องตายเพราะพี่น้องร่วมสายเลือด แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อคุณหญิงมณีไม่สามารถมีลูกได้อีก!! ไม่นานนักคุณหญิงก็ได้รู้ความจริงว่า เจ้าคุณเทพแอบมีเมียน้อยชื่อ อุ่น (ธัญสินี พรมวิสุทธิ์) ซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด คุณหญิงมณีโกรธจนแทบคลั่ง เธอกลัวว่าลูกที่กำลังจะเกิดของเจ้าคุณเทพคนนี้ จะมาทำร้ายมัทนาลูกสาวของเธอดั่งคำทำนาย คุณหญิงมณีเลยสั่งให้ สร้อย (น้ำทิพย์ เสียมทอง) บ่าวคนสนิท ไปเผาบ้านของอุ่น
แต่ค่ำคืนนั้น อุ่นเกิดเจ็บท้องต้องคลอดก่อนกำหนด ทำให้อิ่ม (รัชยา รักษ์กสิกรณ์) พี่สาวของเธอต้องรีบพาหนูน้อยที่เพิ่งคลอดออกมาพร้อมปานแดงที่ต้นขา และมีอาการตัวซีด ออกมาจากบ้านเพื่อไปหาหมอเพียงลำพัง ก่อนที่คนร้ายก็ลอบเข้ามาวางเพลิงเผาบ้าน ทำให้อุ่นต้องนอนจมอยู่ในกองเพลิง ระหว่างที่อิ่มพาหลานกลับมาบ้าน เธอแอบเห็นว่าสร้อยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เธอจึงรู้ทันทีว่าคุณหญิงมณีสั่งมาฆ่าอุ่นและลูกแน่นอน อิ่มกลัวมากจึงอุ้มหลานวิ่งหนีเตลิดไป แต่เคราะห์ร้ายถูกรถเก๋งที่ ผกา (ภารดี อยู่ผาสุข) เจ้าของซ่องชื่อดัง แห่งหอโคมแดงนั่งมากับแขกชนเข้าอย่างจัง อิ่มกับเด็กน้อยกระเด็นล้มไป คนละทิศละทาง เธอพยายามตะเกียกตะกายไปหาหลานที่อยู่อีกฟากของถนน ผกาจึงช่วยพาทั้งสองไปส่งโรงพยาบาล ด้วยความกลัวและความตกใจสุดขีด ทำให้เมื่ออิ่มฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนเสียสติวิ่งออกไปจากโรงพยาบาลแล้วหาย สาบสูญไปเลย ด้านผกา มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลจึงพบว่าอิ่มเสียสติ และหนีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว โดยทิ้งเด็กน้อยเอาไว้ ผกาจึงพาเด็กน้อยที่เธอตั้งชื่อว่า บุปผา และนำไปเลี้ยงในซ่อง
ด้านคุณหญิงมณีถึงจะคิดว่าได้กำจัดลูกอีกคนหนึ่งของเจ้าคุณเทพ ที่กลัวว่าจะเป็นคนฆ่ามัทนาในอนาคตตามคำทำนายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงกระนั้นคุณหญิงมณีก็ยังไม่วางใจเพราะกลัวว่าเจ้าคุณเทพที่ยังหนุ่ม แน่นสามารถมีลูกกับหญิงอื่นได้อีก คุณหญิงมณีจึงสั่งให้สร้อยไปหาตาเถา (ชรัส เฟื่องอารมย์) หมอชาวบ้านเพื่อขอยาที่ทำให้เจ้าคุณเทพกินแล้วเป็นหมันมาให้ พอเจ้าคุณเทพกลับมาก็รู้เรื่องว่าอุ่นและลูกในท้องตายเพราะไฟไหม้บ้าน เจ้าคุณเทพเสียใจมากจนล้มป่วย คุณหญิงมณีจึงได้โอกาสวางยาเจ้าคุณเทพ โดยโกหกว่าเป็นยาบำรุง จนเจ้าคุณเทพเป็นหมันสมใจ
20 ปีต่อมา เด็กหญิงลูกสาวของอุ่น เติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง บุปฝา (แซมมี่ เคาวเวลล์) เป็น โสเภณีเบอร์หนึ่งของซ่องหอโคมแดง แต่ด้วยนิสัยมักใหญ่ใฝ่สูง เธอจะเลือกบริการเฉพาะแขกกระเป๋าหนักเท่านั้น เพื่อหวังว่าสักวันเธอจะไปเป็นคุณหญิงแทนการเป็นโสเภณีเช่นนี้ ดังนั้นเมื่อ สิน (ภาณุ สุวรรณโณ) คนขับรถของบ้านเจ้าคุณเทพมาเที่ยวและอยากใช้บริการของเธอ บุปผาก็ให้ผกาปฏิเสธไปทันที
วันหนึ่งบุปผาไปตัดชุดที่ร้านในตลาด เธอจึงได้พบกับ ไอศูรย์ (ธนพล นิ่มทัยสุข) หมอ หนุ่มที่จบจากเมืองนอก ผู้เป็นเจ้าของวังรัตนา บุปผาก็ตกหลุมรักชายหนุ่มขึ้นมาทันที เธอพยายามเข้าไปทำความรู้จัก และให้ท่าชายหนุ่มด้วยความมั่นใจ เพราะคิดว่าเขาจะต้องศิโรราบต่อความสวยของเธอดังเช่นผู้ชายทุกคน แต่ไอศูรย์ไม่มีท่าทีสนใจเธอเลย ผิดกับท่าที ที่ไอศูรย์มอบให้คุณหนูมัทนา (โบ ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์) ลูกสาวเจ้าคุณเทพที่เพิ่งมาถึงร้านโดยมีสินเป็นคนขับรถ ไอศูรย์พูดจาหวานหูและดูแลอย่างดี ทำให้บุปผายิ่งสนใจชายหนุ่มและอยากจะเอาชนะใจเขาให้ได้ เมื่อสินกลับไปเที่ยวที่ซ่องอีกครั้ง บุปผาก็เปลี่ยนท่าที มาต้อนรับสินอย่างดี และยอมให้เขาใช้บริการในที่สุด ทำให้สินหลงใหลในตัวบุปผามาก บุปผาได้รู้ว่าไอศูรย์กับมัทนาเป็นคู่หมายกัน และไอศูรย์ก็ยังเป็นหมอประจำตัวของคุณหญิงมณีแม่ของมัทนาด้วย ดังนั้นบุปผาจึงคิดแผนให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับไอศูรย์ด้วยการออดอ้อนขอสิน ให้พาตนเข้าไปอยู่ในบ้านของมัทนา แต่ขอให้บอกกับทุกคนว่าเธอเป็นน้องสาวของสิน เพราะไม่อยากให้ใครมองตนไม่ดีว่าหนีตามผู้ชายมา ซึ่งสินก็ยอมทำตาม
สินพาบุปผาเข้าไปกราบ และขออนุญาตคุณหญิงมณีให้น้องสาวอยู่ด้วย แม้คุณหญิงมณีจะไม่สู้เต็มใจนัก แต่มัทนาเห็นใจบุปผา จึงขอร้องให้มารดายอมให้น้องสาวของสินอยู่ด้วย เมื่อบุปผาอยู่ในบ้านของมัทนาในฐานะคนใช้ เธอก็แทบจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากเฝ้ารอให้ไอศูรย์มาที่นี่ และเสนอตัวเข้าไปรับใช้ ด้วยความที่บุปผาไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้านเช่นครั้งที่อยู่หอโคมแดง ทำให้ไอศูรย์จำบุปผาไม่ได้
อยู่มาวันหนึ่งคุณหญิงมณีและเจ้าคุณเทพจัดงานวันเกิดให้มัทนา มีแขกเหรื่อแต่งตัวโก้หรูมาร่วมงานมากมาย รวมทั้ง คุณพลอย (กรรณาภรณ์ พวงทอง) เพื่อนสนิทของมัทนาที่มาพร้อม คุณเพชร (ธีร์ วณิชนันทธาดา) พี่ชายซึ่งเป็นนายตำรวจหนุ่ม ซึ่งก็แอบมีใจให้มัทนาอยู่ ความอ่อนหวานของมัทนา ทำให้บุปผาเกิดอาการหมั่นไส้ เธอจึงคิดหาวิธีกลั่นแกล้งมัทนาอยู่เสมอ แต่ยิ่งทำให้ไอศูรย์ได้ใกล้ชิดมัทนามากยิ่งขึ้น บุปผาจึงใช้คุณเพชรเป็นเครื่องมือทำให้มัทนากับไอศูรย์เข้าใจผิดกัน พร้อม ๆ กับหาโอกาสออดอ้อนไอศูรย์ ว่าตนอยู่ข้างเขาเสมอ และในระหว่างที่บุปผาคุยกับไอศูรย์ตามลำพังนั้น สินก็มาเห็นเข้าจึงไม่พอใจ สั่งห้ามไม่ให้บุปผาอยู่ใกล้ไอศูรย์อีก แต่บุปผาไม่ยอม สินขู่ว่าจะบอกทุกคนว่าบุปผาเป็นเมียเขา หญิงสาวจึงรีบใช้มารยา ทำให้สินหายโกรธ แต่บุปผาเห็นท่าไม่ดีถ้าปล่อยสินเอาไว้เช่นนี้ เธอจึงไปปรึกษากับผกา ผกาจึงพาบุปผาไปขอยาที่ทำให้เป็นอัมพาตจากตาเถา หมอสมุนไพรที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
บุปผานำสมุนไพรมาให้สินกิน แล้วสินก็เกิดอาการเป็นอัมพาต และพูดไม่ได้อีกต่อไป คุณหญิงมณีสั่งให้เอาสินไปอยู่กระท่อมหลังสวน แล้วให้บุปผาผู้เป็นน้องสาวคอยดูแล บุปผาก็แกล้งทำเป็นเต็มใจ แต่พออยู่กันตามลำพังบุปผาก็ไม่เคยดูแลสินเลย สินรู้ว่าที่ตนเป็นอย่างนี้ก็เป็นเพราะฝีมือของบุปผา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนเสียใจที่หลงเชื่อผู้หญิงเลว ๆ อย่างบุปผา
ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของบุปฝา ไม่นานนักเธอก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของมัทนาด้วยความไว้ใจจาก คุณหญิงมณี จากนั้นเป็นต้นมา มัทนาจึงมีบุปผาคอยไปไหนมาไหนด้วยตลอด รวมทั้งเวลาไปที่วังรัตนาของไอศูรย์ ที่นั่นบุปผาได้พบกับ คุณหญิงแจ่มจันทร์ (วจี กัลย์จาฤก) มารดาจอมเจ้ายศเจ้าอย่างของไอศูรย์
วัน หนึ่งขณะที่มัทนาไปทำบุญที่วัดตามปกติทุกวันพระ ระหว่างทางกลับมัทนาได้พบกับหญิงบ้าสติไม่ดี ที่มาจากต่างถิ่นถูกชาวบ้านไล่ตีเพราะไปขโมยข้าวมากิน หญิงบ้ากลัวจนวิ่งตกลงไปในน้ำ หญิงบ้าว่ายน้ำไม่เป็นพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด มัทนาเห็นดังนั้นก็กระโดดลงไปช่วยไว้ แต่หญิงบ้าสลบไปก่อน มัทนาจึงรีบพาหญิงบ้าไปส่งที่โรงพยาบาลโดยมีไอศูรย์เป็นแพทย์ผู้รักษา เมื่อมัทนารู้ว่าหญิงบ้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลยรับเป็นเจ้าของไข้ ทำให้มัทนากับไอศูรย์ได้ใกล้ชิดกันอีกครั้งเพราะต้องคอยพูดคุยกันเรื่อง อาการป่วยของหญิงบ้า อาการของหญิงบ้าดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของไอศูรย์และมัทนาที่ปรับความเข้าใจกันได้ บุปผารู้เรื่องก็ไม่พอใจรีบเอาเรื่องที่มัทนาไปคลุกคลีกับหญิงบ้าชั้นต่ำไป บอกกับคุณหญิงมณี คุณหญิงจึงสั่งห้ามไม่ให้มัทนาไปยุ่งอีก แต่มัทนาไม่ยอม เพราะหากทิ้งหญิงบ้าไปแล้วเธอจะอยู่อย่างไร จึงยอมขัดคำสั่งมารดา
ไม่นานนักหญิงบ้าก็เริ่มจะจำความได้ว่าเธอชื่ออิ่ม แต่เธอโกหกมัทนาว่าชื่อเอม น้องสาวที่มีอยู่เพียงคนเดียวก็ถูกไฟไหม้ตายในบ้าน อิ่มได้รู้ว่ามัทนาคือลูกสาวของเจ้าคุณเทพ จึงขอเธอเข้าไปทำงานในวัง เพื่อหาโอกาสบอกความจริงทั้งหมดกับเจ้าคุณเทพ และวันที่อิ่มรอคอยก็มาถึง อิ่มพยายามหาทางเข้าพบเจ้าคุณเทพตามลำพัง พอเจ้าคุณเทพเห็นอิ่มก็จำได้ทันทีว่าคือพี่สาวของอุ่นนั่นเอง อิ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าคุณเทพฟังว่าคุณหญิงมณีเป็นคนอยู่เบื้องหลัง เรื่องทั้งหมดที่สั่งสร้อย ให้จ้างคนไปเผาบ้านตน เพื่อให้อุ่นน้องสาวตนกับหลานในท้องตาย เจ้าคุณเทพเสียใจมาก เขาไม่คิดเลยว่าหญิงที่แสนสูงส่งจะใจคอโหดร้ายมากมายถึงเพียงนี้ แต่เพื่อเห็นแก่มัทนา เจ้าคุณเทพจึงขอร้องให้อิ่มเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะไม่อยากให้มัทนาเสียใจ แล้วอิ่มก็บอกกับเจ้าคุณเทพว่าลูกสาวของอุ่นกับเจ้าคุณเทพยังไม่ตาย แต่ระหว่างทางหนีอิ่มเกิดอุบัติเหตุ เธอจึงเสียสติ และคิดว่าคงมีคนใจบุญเอาตัวหลานสาวไปเลี้ยงดูแล้ว เจ้าคุณเทพดีใจมากจึงแอบสืบข่าวลูกสาวอีกคนอย่างลับ ๆ
แล้ววันหนึ่ง สร้อยก็จำได้ว่าเอมก็คืออิ่มพี่สาวของอุ่นนั่นเอง คุณหญิงมณีจึงจับตัวอิ่มมาทรมาน อิ่มทนความเจ็บปวดไม่ไหวยอมรับความจริง คุณหญิงมณีตัดสินใจจะฆ่าอิ่ม แต่โชคดีที่อิ่มหลบหนีออกมาได้ ระหว่างทางหนีอิ่มพบกับบุปผาโดยบังเอิญ บุปผาช่วยชีวิตอิ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วงเวลาวุ่นวายนั้นเองอิ่มก็เห็นปานที่ต้นขาขวาของบุปผา จึงรู้ว่าบุปผาคือหลานสาวของตนก็ดีใจ อิ่มบอกกับบุปผาว่าพ่อที่แท้จริงของบุปผาก็คือเจ้าคุณเทพนั่นเอง บุปผาดีใจมากที่ตนคือลูกสาวอีกคนของเจ้าคุณเทพ และเธอคือคุณหนูแห่งวังนี้ อิ่มบอกให้บุปผาไปบอกความจริงกับเจ้าคุณเทพเพราะขณะนี้เจ้าคุณเทพกำลังตามหา บุปผาอยู่ แต่บุปผาบอกว่ายังไม่ถึงเวลา พร้อมกับพาอิ่มไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง
ขณะที่เจ้าคุณเทพตามหาลูกสาวอีกคน คุณหญิงมณีก็แอบส่งคนตามหาลูกสาวอีกคนของเจ้าคุณเทพเช่นกัน เพื่อหวังจะกำจัดเด็กคนนี้ให้ได้ก่อนที่เจ้าคุณเทพจะเจอตัว เมื่อเจ้าคุณเทพกลับมาที่วังก็พบว่าอิ่มหนีออกจากวังไปแล้ว เจ้าคุณเทพท้อใจมากคิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสพบลูกสาวอีกคนแล้ว คุณหญิงมณีจึงโล่งอก แต่ก็ยังสั่งให้สร้อยส่งคนคอยตามหาไม่หยุด โดยที่คุณหญิงมณีไม่รู้เลยว่าคนที่คุณหญิงตามหานั้นคือบุปผาที่อยู่ใต้จมูก ของเธอนั่นเอง!
ใกล้ถึงวันเกิดคุณหญิงมณี บุปผาจึงแสร้งยุให้คุณหญิงมณีจัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อให้สมฐานะ คุณหญิงมณีเห็นด้วยจึงให้บุปผาเป็นแม่งานโดยไม่รู้เลยว่าบุปผามีแผนชั่ว ร้ายอยู่ และแล้วงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหญิงมณีก็มาถึง บุปผาใช้จังหวะเหมาะขึ้นบนเวทีประกาศบอกทุกคนว่าเธอคือลูกสาวอีกคนหนึ่งของ เจ้าคุณเทพกับแม่อุ่น ทุกคนตื่นตะลึง คุณหญิงมณีต่อว่าบุปผาว่าพูดโกหก บุปผาให้อิ่มออกมาปรากฏตัวและยืนยันต่อหน้าเจ้าคุณเทพว่าตนคือลูกอีกคนของ เจ้าคุณเทพจริง ๆ เจ้าคุณเทพดีใจมากยอมรับบุปผาเป็นลูก และโอบกอดบุปผาด้วยความรัก มัทนาก็ดีใจที่มีน้องสาวเช่นกัน แต่คุณหญิงมณีนั้นแค้นใจมากที่ถูกบุปผาหลอกใช้
พอได้เข้ามาเป็นคุณหนูของวัง บุปผาก็ทำตัวเทียบเท่ามัทนาทุกอย่าง ทำให้คุณหญิงมณีไม่พอใจมากขึ้นอีกจึงด่าว่าบุปผา บุปผาแค้นใจเลยใส่ความคุณหญิงมณีว่าทำร้ายตน จนเจ้าคุณเทพไม่พอใจต่อว่าคุณหญิงมณีอย่างรุนแรง เมื่อมีบิดาปกป้องและให้ท้ายบุปผาก็วางอำนาจบาตรใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้คุณหญิงมณีโกรธแค้นบุปผาเป็นเท่าทวีคูณ เมื่ออีกาได้แปลงกายไปเป็นหงส์เทียบเท่ากับมัทนาแล้ว บุปผาคิดว่าไอศูรย์คงมีใจให้แก่เธอได้ไม่ยาก จึงพยายามยั่วยวนไอศูรย์แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะไอศูรย์นั้นมีความรักมั่นคงกับ มัทนาเพียงคนเดียว บุปผาแค้นใจมาก คุณหญิงมณีจึงรู้ว่าบุปผามีใจให้ไอศูรย์และพยายามแย่งไอศูรย์ไปจากลูกสาวที่ รักของเธอ คุณหญิงมณีจึงคิดใช้จุดอ่อนข้อนี้เพื่อกำจัดบุปผาให้พ้นทาง
วัน หนึ่งบุปผาได้รับจดหมายจากไอศูรย์ให้ไปพบที่ท้ายป่าเพราะมีเรื่องสำคัญจะ สารภาพ บุปผาหน้ามืดตามัวเพราะความรักที่มีต่อไอศูรย์จึงไม่ได้ฉุกใจคิดเลยว่านั่น คือแผนลวงของคุณหญิงมณี เมื่อบุปผาไปถึงจึงพบกับโจรที่คุณหญิงจ้างมาเพื่อฆ่าบุปผา แต่มัทนามาเจอเข้าจึงช่วยบุปผาจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งคู่ก็หนีรอดมาได้ บุปผาเอาเรื่องราวทั้งหมดไปเล่าให้อิ่มฟัง อิ่มมั่นใจว่าเป็นฝีมือของคุณหญิงมณีแน่ อิ่มแค้นคุณหญิงมณีเลยหลุดปากพูดเรื่องที่คุณหญิงสั่งคนเผาบ้านจนอุ่นแม่ของ บุปผาตายในกองไฟ บุปผาแค้นใจจะไปเอาเรื่องคุณหญิงมณีเข้าคุก แต่อิ่มขอร้องบอกรับปากกับเจ้าคุณเทพไว้ว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้กับใคร ถ้าบุปผาไปเอาเรื่องคุณหญิงมณี เจ้าคุณเทพต้องโกรธมาก เจ้าคุณเทพไม่อยากเอาเรื่องคุณหญิงมณีเพราะเห็นแก่มัทนานั่นเอง
เมื่อบุปผาไม่สามารถเอาเรื่องคุณหญิงมณีที่วางแผนฆ่าแม่ของตนเข้าคุกได้ เพราะทั้งเจ้าคุณเทพและอิ่มเห็นแก่มัทนา บุปผาจึงคิดว่ามัทนาก็ควรจะสูญเสียอะไรให้ตนบ้าง บุปผาจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกมัทนาเพื่อข่มขู่ให้มัทนาถอนหมั้นและเลิกยุ่ง เกี่ยวกับไอศูรย์เสีย ถ้าไม่อยากให้คุณหญิงมณีแม่ของเธอถูกจับเข้าคุก มัทนารู้ความจริงก็เสียใจมากเธอจึงถอนหมั้นกับไอศูรย์ทันทีเพื่อปกป้องมารดา ไม่มีใครเข้าใจเหตุผลที่มัทนาขอถอนหมั้นกับไอศูรย์เลย โดยเฉพาะตัวไอศูรย์เอง เขาไม่เข้าใจว่าเขาทำผิดอะไร ไอศูรย์พยายามถามมัทนาแต่เธอก็มักจะหลบหน้าหลบตาไม่ยอมพบเขาเลย จนกระทั่งวันหนึ่งไอศูรย์ดักพบมัทนาจนได้ มัทนาอยากให้ไอศูรย์ตัดใจจึงโกหกว่าตอนนี้เธอรักอยู่กับคุณเพชรทำให้ไอศูรย์ เสียใจมาก บุปผาจึงใช้ช่วงเวลานี้ปลอบใจไอศูรย์แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะใจไอศูรย์ได้ ไอศูรย์ปฏิเสธความรักที่บุปผามีต่อเขาแม้จะไม่มีมัทนาแล้วก็ตาม บุปผาเสียใจมากแต่ก็ไม่ยอมแพ้ บุปผาต้องการเอาไอศูรย์มาเป็นของตัวเองให้ได้จึงวางแผนมอมเหล้าไอศูรย์และ สร้างเรื่องว่าไอศูรย์ปลุกปล้ำเธอ ทำให้ไอศูรย์ต้องยอมตกลงแต่งงานกับบุปผา แม้คุณหญิงแจ่มจันทร์แม่ของไอศูรย์จะไม่ชอบบุปผาเพราะมีแม่เป็นแค่หญิงชาว บ้านต่ำต้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมจัดงานตามประเพณีเพราะเห็นแก่เจ้าคุณเทพ
ขณะที่บุปผากำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องแต่งงานกับไอศูรย์นั้นเอง มัทนาที่หัวใจเจ็บช้ำเพราะรู้เรื่องที่ไอศูรย์กำลังจะแต่งงานกับบุปผา จึงมาเยี่ยมสินที่ไม่มีคนดูแล มัทนาได้พาหมอมารักษาสินที่เธอเคารพรักเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเพราะเห็นกันมา ตั้งแต่เด็ก ๆ จนอาการอัมพาตของสินเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่หมอกลับพบว่าสินกำลังป่วยหนักด้วยโรคใหม่
ก่อนวันแต่งงาน ผกาที่กำลังลำบากเพราะถูกตำรวจปิดซ่องเพิ่งรู้เรื่องว่าบุปผาได้ดีไปเป็นลูก สาวเจ้าคุณเทพก็มาหาบุปผาเพื่อขอเงิน แต่บุปผาไม่ยอมให้เพราะแค้นใจที่เคยถูกผกาโขกสับและบังคับให้ขายตัว จึงไล่ผกาไปอย่างหมูอย่างหมา ผกาเสียใจและแค้นใจมากจึงตั้งใจจะทำลายงานแต่งงานของบุปผา
เมื่อวันแต่งงานของบุปผาและไอศูรย์มาถึง ผกามาเจอมัทนาที่เดินเศร้าอยู่หน้างานจึงบอกมัทนาว่าเธอคือแม่ที่เคยเลี้ยง ดูบุปผามาก่อนเพิ่งรู้ข่าวว่าบุปผาจะแต่งงาน แต่เข้าไปในงานไม่ได้เพราะลืมเอาบัตรเชิญมา จึงขอให้มัทนาพาเธอและเพื่อนๆเข้าไปแสดงความยินดีกับบุปผาด้วยเพราะบุปผา สั่งคนงานห้ามไม่ให้คนที่ไม่มีบัตรเชิญเข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้ผกามาป่วนใน งานของตน พอผกาและเหล่าโสเภณีเข้ามาในงานเลี้ยงได้สำเร็จ ผกาก็เปิดเผยความจริงว่าบุปผาคือโสเภณีที่เคยทำงานในซ่องของตนมาก่อน บรรดาโสเภณีที่อยู่ในสังกัดของผกาก็ออกมาช่วยกันพูดเป็นพยาน คุณหญิงแจ่มจันอับอายมากเลยประกาศยกเลิกงานแต่งงานทั้งหมด
บุปผาแค้นใจมากคิดว่ามัทนาพาผกามาทำลายงานแต่งงานของตน จึงเปิดโปงเรื่องที่คุณหญิงมณีแม่ของมัทนาเป็นคนสั่งวางเพลิงเผาบ้านจนแม่ ของตนต้องตาย คุณหญิงมณีโกรธมากจึงไปหยิบปืนจะมาฆ่าบุปผา แต่มัทนามาปกป้องบุปผาและขอร้องให้แม่ไว้ชีวิตน้องสาวตน คุณหญิงมณีคับแค้นใจระบายทุกอย่างออกมาว่าที่ทำไปเพราะหมอดูทำนายว่ามัทนาจะ ถูกน้องของตัวเองฆ่าตาย จังหวะนั้นเองบุปผาแย่งปืนจากคุณหญิงมณีมาได้ จึงเล็งปืนไปที่มัทนาด้วยความแค้นและคิดจะฆ่ามัทนาเสีย เจ้าคุณเทพขอร้องบุปผา เพราะไม่อยากให้พี่น้องฆ่ากันเองแต่บุปผาไม่ฟัง แต่วินาทีที่บุปผาลั่นไก ก็มีเสียงปืนจากอีกกระบอกดังขึ้น! บุปผาทรุดตัวลงแล้วหันไปเห็นว่าเป็นสินนั่นเองที่เป็นคนยิงเธอ แต่บุปผายังไม่ตาย แค่โดนยิงถาก ๆ สินกำลังจะยิงซ้ำแต่มัทนาขอร้องไว้ บุปผาไม่คาดคิดว่าสินจะหาย สินแค้นใจพูดพรั่งพรูความแค้นบอกว่าถึงแม้เขาจะหายจากอัมพาต แต่อีกไม่นานเขาก็ต้องตายอยู่ดีเพราะเขาติดโรคร้ายมาจากบุปผา พูดจบสินก็ยิงตัวเองตาย บุปผาตกใจมากที่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้าย
เวลาผ่านไป บุปผานอนป่วยใกล้ตายอยู่กระท่อมท้ายสวน โดยมีเพียงเจ้าคุณเทพ อิ่มและมัทนาเท่านั้นคอยช่วยกันดูแล เพราะคนอื่น ๆ พากันรังเกียจกลัวว่าจะติดโรคจากบุปผากันหมด วันหนึ่งขณะที่มัทนากำลังเช็ดตัวให้บุปผาอย่างไม่เคยคิดรังเกียจเลย บุปผามองมัทนาแล้วร้องไห้รู้สึกผิดว่าทั้งที่เธอคิดจะเอาชีวิตมัทนาแต่มัท นากลับช่วยชีวิตเธอแล้วยังดูแลเธออย่างดีอีก บุปผาจึงหยิบมีดที่ซ่อนเอาไว้แล้วยกขึ้นมา คุณหญิงมณีมาเห็นก็กรีดร้องเพราะคิดว่าคำทำนายกำลังจะเป็นจริง แต่แล้วบุปผากลับหันมีดแทงตัวตาย!
หลังจากบุปผาตาย คุณหญิงมณีเสียใจและรู้สึกผิดมาก เรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความงมงายหลงเชื่อคำทำนายของหมอดูของ ตน ดุจรับเอาไฟร้ายเข้าตัวและยอมให้ไฟนั้นหวนกลับมาทำร้ายผู้คนรอบข้างตัวเธอ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ คุณหญิงมณีจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจข้อหาจ้างวานฆ่าโดยไม่ซัดทอดใครเลย คุณหญิงยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว มัทนารู้สึกภูมิใจที่คุณหญิงมณีทำผิดแล้วยอมรับผิด เจ้าคุณเทพแม้จะเสียใจมากแต่ก็รู้ว่าที่คุณหญิงทำลงไปทั้งหมดด้วยความรักลูก จึงไปเยี่ยมคุณหญิงมณีที่คุกทุกวันไม่ขาด
ส่วนคุณหญิงแจ่มจันทร์ ซึ่งแม้จะประกาศไม่ยอมให้ไอศูรย์ยุ่งเกี่ยวกับมัทนาและครอบครัวของเจ้าคุณ เทพอีก แต่ด้วยความรักมั่นคงของไอศูรย์ที่มีต่อมัทนาเพียงคนเดียว และความดีงามของ มัทนา ทำให้คุณหญิงแจ่มจันทร์เห็นใจยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกันในที่สุด ติดตามชม ละครไฟหวน ได้ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครไฟหวน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2556
รายชื่อนักแสดง ละครไฟหวน
ธนพล นิ่มทัยสุข รับบท ไอศูรย์
ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ รับบท มัทนา
แซมมี่ เคาวเวลล์ รับบท บุปผา
ปิยะธิดา วรมุสิก รับบท คุณหญิงมณี
สุรวุฑ ไหมกัน รับบท เจ้าคุณเทพ
ภาณุ สุวรรณโณ รับบท สิน
ภารดี อยู่ผาสุข รับบท ผกา
รัชยา รักษ์กสิกรณ์ รับบท อิ่ม
น้ำทิพย์ เสียมทอง รับบท สร้อย
วจี กัลย์จาฤก รับบท คุณหญิงแจ่มจันทร์
ธีร์ วณิชนันทธาดา รับบท คุณเพชร
กรรณาภรณ์ พวงทอง รับบท คุณพลอย
ธัญสินี พรมวิสุทธิ์ รับบท อุ่น
ณัฎฐริณีย์ กรรณสูต รับบท คุณชไม
ชรัส เฟื่องอารมย์ รับบท ตาเถา
ปิยพันธ์ ขำกฤษ รับบท แสง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
บริษัท มาสเคอเรด จำกัด
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊กละครไฟหวน