ในปีพุทธศักราช ๒๓๐๑ หลังการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินมาสู่รัชสมัยของสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ หรือสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ ความไม่เด็ดขาดในการปกครองทำให้เหล่าเจ้านายและข้าราชบริพารเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก เกิดการแข็งข้อของหัวเมืองฝ่ายเหนือ ไม่มีความสามัคคีในหมู่ข้าราชการ ต่างพากันแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่ รับสินบน เบียดบังผลประโยชน์ชาติ เอาความสุขใส่ตัว ชาวบ้านเดือดร้อน ข้าวยากหมากแพงทุกหัวระแหง พระเจ้าอลองพญามังลองยกทัพพม่ามาตีไทยทางทวาย มะริด ตะนาวศรี หวังยึดกรุงศรี ทัพไทยแตกพ่ายถึง 3 กองทัพ เดชะบุญของไทยยังมีพระเสื้อเมืองคุ้มครอง พระเจ้าอลองพญาถูกรางปืนแตก บาดเจ็บสาหัส มังลอราชบุตรจึงรีบยกทัพกลับ
ลางร้ายแห่งความวิปโยคเริ่มขึ้นเมื่อน้ำหลากสีปูนแดงดั่งเลือดไหลจากเหนือลงสู่อยุธยาเป็นที่โจษขาน ก่อนทัพของพระเจ้ามังระจะยาตราทหารหนึ่งแสนสองหมื่นนายมาแก้แค้นให้พระเจ้าอลองพญามังลอที่สวรรคต ทัพพม่ามีเนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพฝ่ายเหนือ นำทัพมาจากเชียงใหม่ ตีหัวเมืองแตกระเรื่อย จนมาต่อเรือรบที่กำแพงเพชร มังมหานรธานำทัพฝ่ายใต้เผาเมืองชุมพร ปะทิว ขึ้นมาถึงปราณบุรี กาญจนบุรี และจัดทัพแยกไปตีเพชรบุรี ราชบุรี
ความเดือดร้อนยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เมื่อทัพอังวะปล้น ฆ่า ข่มขืน ชิงทรัพย์สินของชาวบ้านตลอดรายทางเพื่อมุ่งสู่กรุงศรีอยุธยา ที่บ้านคำหยาด แขวงวิเศษไชยชาญ ทหารกรุงศรีเร่งกวาดต้อนชาวบ้านเพื่ออพยพ หนีภัยศึกเข้ากำแพงเมือง เวลาเดียวกับที่ ทัพ หรือเจ้าเสือแห่งบ้านคำหยาด ทหารผู้มีฝีมือดาบไม่เป็นสองรองใคร ฝ่าทัพอังวะที่ปล้นฆ่า ได้กลับมาก้มลงกราบแทบเท้าพ่อแม่ หมู่เที่ยง อดีตทหารกล้า กับ นางจันทร์ ผู้เป็นแม่ จวง น้องสาวบอกทัพ เรื่องที่อดีตเพื่อนรัก นายกองสังข์ และ หมู่ขาบ กำลังเร่งกวาดต้อนครัวไทยไปกรุงศรี ทัพเห็นอาการป่วยของแม่ยังไม่ดี ก็ขอประวิงเวลาไปเอายาจากสุพรรณมาให้แม่ แต่สังข์ที่ถืออำนาจบาตรใหญ่หาเรื่องว่าทัพคิดหนีเกณฑ์ ไม่ยอมเป็นทหารสู้ศึก ทัพรู้ดีว่าความบาดหมางครั้งนี้รุนแรง เพราะสังข์อ้างการอพยพเพื่อหวังรวบรัดจวงเป็นเมีย ขณะที่ขาบเองก็แอบรัก เฟื่อง คนรักของตน ทัพขอร้องเพื่อน แต่สังข์กลับสั่งทหารเข้ารุมจับตัวทัพ จนเกิดการต่อสู้ สังข์และขาบแพ้ แต่สังข์ไม่ยอมเสียเชิงให้อายคน ใส่ร้ายว่าทัพเป็นขบถหนีกองทัพทันที ทัพต้องหนีหลบไปซุ่มซ่อนในป่า เฟื่องที่เฝ้ารอคนรักต้องระทมทุกข์เพราะความพลัดพราก ถึงจะรู้ว่าขาบคิดอย่างไร และแม้ขาบจะทำดีให้แค่ไหน เฟื่องก็ไม่อาจแบ่งใจรักคนอื่นนอกจากทัพได้ ใต้ตาล 5 ต้นที่ทัพและเฟื่องให้สัญญาต่อกันว่าหนาวหน้าคงได้ร่วมชีวิตคู่ แต่บัดนี้กลับต้องรอเวลาทอดยาวหลังศึกผ่านพ้น ต่างจาก แฟง น้องสาวเฟื่องที่แก่นกล้าเกินหญิง แฟงเจ็บใจและตามเอาเรื่องสังข์ ขาบ แทนพี่สาว สังข์กับขาบจึงเร่งเอาทหารจับตัวจวง เฟื่องไป ก่อนจะย้ายครัวหลบหนี แต่ทัพก็ตามไปช่วยคนรักและน้องสาวมาได้ ยิ่งทำให้สังข์ ขาบเจ็บใจ ประกาศจะตามล่าตัวขบถอย่างทัพมารับโทษให้จงได้
เวลาเดียวกับที่บ้านสามโก้ อีกด้านแขวงวิเศษไชยชาญ หมู่บ้านของ สไบ ลูกสาว ผู้ใหญ่แสง กำลังถูก นายกองอูจี นำทหารเลวทัพอังวะเข้าปล้น สไบกำลังจะถูกข่มเหง แต่ ใจ พรานหนุ่มเข้ามาช่วยไว้ พร้อม เจิด พี่ชาย และ จาด พรานใหญ่ผู้เป็นพ่อ ทั้งหมดต้องอพยพหนีโดยการนำของใจ ระหว่างทางใจได้ช่วยสไบไวอีกหลายครั้ง สไบกับใจต่างตาต้องตา ใจต้องใจ แต่ ดอกรัก ญาติผู้พี่ของสไบที่เหม็นหน้าใจคอยหาเรื่องกีดกัน ไม่ให้ทั้งสองได้อยู่ใกล้ชิดกัน ระหว่างทางอพยพ ดอกรักและใจผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะในการช่วงชิงหัวใจสาวงามอย่างสไบ
ทัพพาทุกคนอพยพหนีมาที่บ้านกระทุ่มด่าน พึ่งเรือนญาติคือ กำนันพัน อยู่ชั่วคราว ก่อนจะรวบรวมพรรคพวกทหารจากทัพที่แตกพ่าย อย่าง หมู่เคลิ้ม เอิบ ช่วง และ ฟัก พี่ชายของเฟื่องและแฟง อาสาเข้าซุ่มโจมตีตัดกำลังทางเดินทัพของอังวะ
ที่กระทุ่มด่าน กลุ่มของสไบหนีตามมาสมทบกับกลุ่มของเฟื่องและแฟง ทั้งหมดรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ หลบภัยอยู่กับชาวบ้านอีกมากมายที่กำลังหนีภัยข้าศึก
ไทยกอดคอไทย น้ำตาหลั่ง ตายเถิด จะตายเมื่อไหร่ก็ได้ ตายแทนไทย บ้านใคร ใครก็รัก เมื่อชาติอื่นภาษาใด จะเข้ามาครอบงำ ข่มกันถึงบ้าน แล้วจะนิ่งดูดาย ให้หนีไปไหนได้อีกเล่า
ชื่อเสียงของกลุ่มทัพที่หาญกล้าซุ่มโจมตีศัตรูเลื่องลือ จนถึงหูสังข์และขาบ ทั้งสองตามล่าเพื่อนรักมาจนถึงกระทุ่มด่าน และฉวยโอกาสที่เฟื่องเข้าใจทัพผิด เพราะเห็นทัพกอดแฟงที่เอาแต่ปั้นปึ่งหาเรื่องให้โมโห จนสังข์กับขาบจับตัวเฟื่องและจวงไปจนได้ แฟงเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุ แต่คนที่ใจแทบขาดคือทัพ เพราะคนรักและน้องสาวตกไปอยู่กำมือของเพื่อนรักเพื่อนแค้น แม้กายห่าง แต่ใจฝากไว้กับนาง ทัพออกตามตัวเฟื่องและจวง แฟงเฝ้าโทษตัวเองที่ทำให้พี่สาวตกระกำลำบาก ถูกพรากจากครอบครัวและชายคนรักไปจนได้ สไบเตือนให้แฟงเตรียมตัวหนีอีกครั้งเมื่อข้าศึกเข้ามาใกล้ แฟงอยากรอพี่สาว แต่ข้าศึกอังวะประชิดกระทุ่มด่าน ขบวนอพยพต้องเคลื่อนออกทันที แฟงใจจะขาดรอนๆ เมื่อต้องไกลจากพี่สาวอย่างไม่รู้ชะตากรรม
ระหว่างทางที่ตามหาเฟื่อง ทัพเจอกับกลุ่มก๊กโจร เสือปิ่น ที่อดอยากจนต้องปล้นชิงพี่น้องไทยกันเอง ทัพถูกกักตัวและเกลี้ยกล่อมให้ร่วมเป็นพวกโจร เวลาเดียวกับที่เฟื่องและจวงเข้าใกล้กำแพงกรุงศรี ขบวนของสังข์กับขาบต้องหยุดพักรอที่บ้านพรานตามคำสั่งของ คุณพระนายหมื่นศรี ขบวนอพยพของแฟงกับสไบเจอโจรที่บุกเข้าปล้น ฟักกับกลุ่มผู้ชายสู้ตายเพื่อปกป้องชาวบ้าน แฟงคว้าดาบไล่ฟันโจรอย่างห้าวหาญ ปกป้องคนแก่และเด็กๆ ก่อนจะถูกโจรลากตัวหายเข้าป่าลึก ฟักกับกลุ่มผู้ชายออกตามหา แต่ไม่เจอแฟงแม้แต่เงา สไบหลั่งน้ำตา ไม่รู้ชะตากรรมเพื่อน ขบวนอพยพต้องเร่งเดินทาง บัดนี้สามชีวิตต้องแยกห่าง คนรักห่างกันก็ทุกข์เหลือแสนไม่แตกต่างกัน เฟื่องที่ตกอยู่ในกำมือของขาบ ประวิงเวลาให้ขาบไม่คิดหักหาญน้ำใจ รักษาตัวไว้รอชายคนรัก ขณะที่ทัพก็หาทางเอาตัวรอดจากกลุ่มโจรเสือปิ่น แฟงถูกกลุ่มของ นายแท่น ชาวบ้านศรีบัวทอง แขวงเมืองสิงห์ช่วยไว้ได้ แฟงเห็นความเด็ดเดี่ยวของกลุ่มนายแท่น ที่มี นายโชติ นายอิน นายเมือง ซุ่มโจมตีกองทัพอังวะ เลือดหญิงไทยหวงแหนแผ่นดินหลั่งไหลทั่วกาย แฟงยอมสละแล้วทั้งชีวิต อาสาเป็นหญิงล่อตาล่อใจทหารอังวะมาให้นายแท่นกับพวกฟันจนละเอียด หลายครั้งที่แฟงเกือบไม่รอดเงื้อมือข้าศึกเลวที่จ้องย่ำยีศักดิ์ศรีหญิงไทย แต่หัวใจห้าวของแฟงไม่เคยครั่นคร้ามหวาดกลัว นายดอกไม้ บ้านกรับ นายทองแก้ว บ้านโพธิ์ทะเล สองผู้นำชาวบ้านมาขอร่วมกับกำลังกลุ่มนายแท่นด้วย แฟงและหญิงชาวบ้านคนอื่นพากันทำอุบายล่อทัพอังวะมาให้ถูกนักรบไทยฆ่าลงเสียมาก จนกองทัพอังวะส่งทหารมากมายมาล้อมบ้านศรีบัวทอง นายแท่นต้องพาทุกคนหนีตาย แฟงได้แต่อาลัยที่ต้องพลัดพรากจากเฟื่อง พี่สาวและครอบครัวที่รักไกลออกไปทุกที
ขอให้คิดปลื้มไว้ เมื่อตายไปชีวิตหนึ่ง ก็ได้ตายสมศักดิ์ของผู้หญิงเมืองไทย ยามศึกมาติดเมือง
ทัพช่วยชีวิตเสือปิ่นไว้ได้จาก ชิด ลูกน้องทรยศ น้ำใจของทัพทำให้เสือปิ่นสำนึกบุญคุณ ปล่อยตัวทัพออกตามหาคนรัก แต่เฟื่องไม่อาจยื้อยุดความปรารถนาล้ำลึกของขาบไว้ได้อีก เฟื่องตกเป็นของขาบ ขณะที่สังข์ใช้กำลังครอบครองกายใจจวง ทัพอังวะเข้าโจมตีขบวนอพยพทหารกรุงศรี สังข์ ขาบสู้ไว้ชื่อไทย แต่ศัตรูมากมายเข้าโอบล้อมไว้ไม่ขาดสาย เฟื่องกับจวงกำลังจะถูกศัตรูรุมข่มเหงในกระท่อม ร่างของทัพบนหลังม้าคู่ใจ อ้ายเลา พุ่งทะยานเข้ามาฟันข้าศึกล้มตาย เลือดนองสังเวยผืนดินไทย สังข์ ขาบซึ้งในน้ำใจของไอ้ทัพเพื่อนแท้ เมื่อต้องสู้เพื่อรักษาดินทุกก้อนของไทย เพื่อนรักทั้งสามละทิ้งความขุ่นเคืองโกรธแค้นในอดีตลงเสียสิ้น หันหลังชนกันประจันหน้าศัตรู พุ่งเข้าฟันข้าศึกจนยับแตกพ่าย สังข์ ขาบซึ้งแก่ใจว่ายามคับขัน ทุกคนต่างพากันเอาตัวรอด คุณพระนายหมื่นศรีละทิ้งลูกน้องเข้าไปหลบก่อนประตูกรุงศรีจะปิดลง เมื่อไม่อาจเข้าสู่กำบังหลังกำแพงกรุงศรีได้ดังหวัง แม้ศัตรูกำลังโอบล้อมไว้ แต่เลือดไทยจะไม่ยอมแพ้ ทัพ สังข์ ขาบพาเฟื่อง จวง และขบวนอพยพที่เหลือบ่ายหน้าเพื่อสู้ร่วมกับไทยอีกนับร้อยที่ค่ายบ้านระจัน
คนตายกลางทัพนั้นมีเกียรติ ฝากชื่อไม่ให้ลูกหลานอับอาย
ที่ค่ายบ้านระจัน กลุ่มของสไบมาถึง และเจอกับแฟงที่มาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ทุกคนดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง กำนันพันเรือง ใช้ค่ายบ้านระจันเป็นที่ประชุมสู้ศึกทัพพม่า มี นายทองเหม็น เป็นผู้ใหญ่บ้าน นายทองแสงใหญ่ นายจันหนวดเขี้ยว และหัวหน้าอีก 6 คนที่อพยพมาร่วมกันเป็นผู้นำ อันได้แก่ นายแท่น นายโชติ นายอิน นายเมือง ชาวบ้านศรีบัวทอง นายทองแก้ว บ้านโพธิ์ทะเล นายดอกไม้ ชาวบ้านกรับ และ ขุนสรรค์กรมการ จากเมืองสรรค์บุรี ทุกคนในค่ายมี พระอาจารย์ธรรมโชติ เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจปลุกปลอบขวัญ เครื่องรางป้องกันภัยก่อนออกศึกทุกครั้ง ทุกคนวางแผนให้บ้านระจันคือด่านหน้าปะทะทัพอังวะไม่ให้ล่วงเข้าอยุธยาได้
ใครอื่นจะช่วยเราอีกไม่ได้เป็นแท้ นอกจากพวกเราต้องร่วมใจกัน ช่วยกันเอง เหลือจะทนดูดายให้ข้าศึกข่มเหง
ศึกแรก นายแท่นนำทัพเข้าสู้ และฟาดฟันจนชนะอังวะ เสียงเพลงบ้านระจันปลุกเร้าฮึกเหิมให้ชาวบ้านทุกคนรวมเป็นน้ำหนึ่ง สไบดีใจที่ได้เจอแฟงอีกครั้ง ใจที่ตามดูแลสไบขวางหูขวางตาดอกรักจนพาลหาเรื่อง พวกฟักต้องคอยห้ามปราม สไบไม่ชอบที่ดอกรักทำตัวเป็นเจ้าของ ดอกรักอ้างเรื่องที่ผู้ใหญ่ยกสไบให้ตั้งแต่เด็ก สไบไม่รับรู้เพราะในใจผูกพันอยู่กับพรานใจไปหมดแล้ว ดอกรักสังเกตเห็นใจชอบเข้านอกออกในส่วนต่างๆ ของค่าย เหมือนคอยสำรวจแล้วก็หายตัวไปบ่อยๆ สไบคิดว่าดอกรักระแวง แต่ไม่มีใครระแคะระคายเลยว่าใจคือสายลับอังวะ ใจหรือ อองนาย ติดตามสืบความเคลื่อนไหวในค่าย แล้วลอบออกไปส่งข่าวให้กับ เจิด หรือ อูทิน พี่ชายศิษย์ร่วมสำนัก โดยมี จาด หรือ จอกยีโบ อาจารย์คอยส่งข่าวไปยังแม่ทัพในค่ายที่ปากน้ำพระประสบ
ครั้งหนึ่งใจลอบออกนอกค่าย ขณะที่เจิดกำลังสั่งให้ใจเลิกช่วยเหลือสไบ และเร่งหาข่าวของค่ายบ้านระจัน ดอกรักลอบตามมาเห็นความลับ เจิดคิดฆ่าดอกรัก แต่ใจไม่อยากทำให้ทุกคนสงสัย จึงทำอุบายเป็นโดนทำร้ายพร้อมดอกรัก โชคช่วยที่ดอกรักฟื้นขึ้นมาจำใครไม่ได้ กลายเป็นคนบ้าบอเสียสติ ใจยังคงลอบสืบข่าวด้วยความหวังว่าวันข้างหน้าจะพาสไบคนรักกลับอังวะไปร่วมชีวิตใหม่กัน
ทัพ สังข์ ขาบ เฟื่อง จวงพาชาวบ้านมารวมกันที่ค่ายบ้านระจัน ทัพ สังข์ ขาบได้เป็นกำลังสำคัญให้กับนักรบไทยที่มีเพียงมีดไม้และใจฮึกเหิม แฟงก้มกราบเฟื่องด้วยความเสียใจ เฟื่องไม่ติดใจความผิดพลั้งของน้องสาว แฟงเห็นสายตาทัพที่ยังมองเฟื่องด้วยอาลัยก็ยิ่งพาลเกลียดสังข์กับขาบ เฟื่องต้องคอยเตือนอารมณ์ชิงชังของเด็กสาว และสอบถามถึงความในใจ แฟงบ่ายเบี่ยงทั้งๆ ที่แอบชอบทัพในความเก่งกล้ามานานแล้ว เฟื่องอ่านใจน้องออกแต่แฟงไม่ยอมรับถ่ายเดียว เฟื่องเองก็จำต้องเงียบนิ่ง เพราะในใจแล้วก็ยังมีความอาลัยในตัวคนรักเก่าอยู่มาก ขาบมองเห็นสายตาเฟื่องก็รู้ดีว่าทำอย่างไรก็ไม่อาจเข้าไปแทนที่ทัพในใจเฟื่องได้เลย ทัพมองเห็นความห่างเหินเย็นชาของเฟื่องที่มีให้ขาบ ก็ไม่อยากเป็นปัญหาให้เฟื่องพะวักพะวง จึงคอยอยู่ห่างจนเฟื่องน้อยใจ แฟงที่ชังน้ำหน้าพี่เขยอย่างขาบก็คอยมากวนใจ เลียบเคียงถามทัพเรื่องเฟื่อง พอโดนทัพเอ็ดไปหลายครั้ง แฟงก็พาลน้อยใจประสาเด็ก ต่อปากต่อคำ ยั่วเย้าอารมณ์ทัพให้คอยนึกถึงไม่ว่างเว้น ความผูกพันของทัพกับแฟงก่อตัวขึ้นอย่างไม่ทันได้รู้ตัว เจิดแฝงตัวกลับเข้ามาในค่ายเพื่อฆ่าสไบตามคำสั่งของจาด เพราะกลัวว่าความรักของใจที่มีให้สไบจะเป็นปัญหาทำให้ใจละทิ้งหน้าที่สายลับ ใจรู้เรื่องก็ตัดสินใจเป็นเจ้าของกายและใจสไบจนหมดสิ้น และบอกกับเจิดว่า หากคิดจะฆ่าสไบเมียรัก ก็จงข้ามศพเขาไปเสียก่อน
เอาเลือดพลีให้เมือง ถวายชีพให้แก่เจ้าเหนือหัว ชีวิตที่เราเกิดมาในร่มฟ้าแผ่นดินสยาม เลือดเนื้อก็ต้องเป็นของชาติ
เนเมียวสีหบดีแต่งตั้ง งาจุนหวุ่น เป็นแม่ทัพ มาตีบ้านระจัน นายเมืองนำทัพออกไปสู้ ทัพ สังข์ และขาบนำพวกไล่ต้อนฆ่าทัพอังวะจนราบ เยกินหวุ่น นำทัพมาช่วยก็โดนไล่ต้อนจนพ่ายแพ้ ค่ายบ้านระจันครึกครื้นด้วยเสียงโห่ร้องยินดีแห่งชัยชนะ ชื่อเสียงชาวบ้านคนไทยผู้รวมตัวสู้ดังเลื่องลือ เนเมียวสีหบดีไม่ยอมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ส่ง ติงจาโบ และ สุรินทจอข่อง มาตีอีก แต่ก็พ่ายอย่างไร้ท่า สุรินทจอข่องตายกลางสนามรบ ยิ่งสร้างขวัญและกำลังใจให้คนไทยผู้รักและหวงแหนแผ่นดิน
หญ้าบางระจัน ไม่ใช่สำหรับช้างศึกหรือม้าพม่ามากิน
ในยามพักรบ ชาวค่ายรวมกันฝึกปรือฝีมือดาบและอาวุธ ทัพเองเป็นผู้นำฝึกอาวุธ สังข์หยอกล้อจวง เฟื่องเองก็คอยดูแลขาบที่บาดเจ็บจากรบ ทัพที่มองเห็นรอยยิ้มของเพื่อนและคนรักเก่าก็เกิดเหว่ว้าในใจ แฟงยังตะบึงตะบอนคิดว่าทัพมองเฟื่องด้วยสายตาอาวรณ์ เลยพูดจาประชดจนทัพหันมาเห็นแฟงที่เป็นสาวรุ่นไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนคนเดิม แฟงหนีหน้าทัพเพราะแง่งอน แต่ทัพเฝ้าออดให้แฟงรอกินข้าวด้วยยามกลับจากสนามรบ แฟงกับทัพกำลังจะเข้าใจ แต่ด้วยพลั้งปากไป แฟงพูดเรื่องเฟื่อง ทัพโกรธที่แฟงไม่เชื่อคำรักที่เขาบอกก็โต้เถียงกัน แฟงด่าว่าจนทัพต้องดึงเด็กสาวเข้ามาจูบ ยิ่งทำให้แฟงโกรธว่าทัพดูถูกน้ำใจ สองคนที่ควรจะรักกันให้เป็นสีสันของค่าย กลายเป็นคู่ปรับขวางกันไปทุกเรื่อง
ใจหรืออองนายรู้ดีว่าเนเมียวสีหบดีกำลังแต่งนายกองยกทหารร่วมพันมาทำลายค่ายบ้านระจัน ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของชาวบ้านที่จะตั้งตัวต่อสู้ขวางทางเดินทัพสู่กรุงศรี ดอกรักฟื้นขึ้นพูดจารู้เรื่อง เจิดฆ่าดอกรักปิดปากทันที สไบเสียใจมาก ทัพไม่เชื่อว่าดอกรักตายเอง แต่ก็ยังเก็บความสงสัยไว้เพื่อหาคนลงมือตัวจริง ใจกังวลเรื่องที่ค่ายบ้านระจันอาจจะแตกพ่าย จึงเลียบเคียงชวนสไบหนี แต่สไบยืนยันจะขอตายที่ค่ายร่วมกับพี่น้องทุกคน ใจเริ่มห่วงระหว่างหน้าที่กับชีวิตคนรัก แยจออากา นายทัพเรือถูกส่งมารบ แต่ถูกนักรบบ้านระจันตีแตกพ่าย จิกแกปลัดเมืองทวาย อาสาเป็นนายกองมารบ ทัพเป็นกองหน้าและวางกลศึกไว้รัดกุม แต่ใจที่ลอบส่งข่าวทำให้จิกแกเกือบเอาชนะทัพได้ สังข์ ขาบเข้ามาช่วยไว้ทัน ทัพเริ่มสงสัยว่ากลศึกต้องแพร่งพรายออกไปจากใครสักคนในค่าย
สถานการณ์ในค่ายบ้านระจันเริ่มระส่ำระส่าย เมื่อคนอพยพเข้ามามากและเสบียงน้อยลง ทั้งหมดเพราะใจวางแผนให้ทหารอังวะปล่อยข่าวซื้อเสบียงด้วยทองคำ เสบียงในค่ายถูกคนโลภเห็นแก่ตัวขโมยไปขายแก่ทหารอังวะ พ่อค่ายจับได้ก็ลงโทษหนัก ใจเปลี่ยนแผนยุแหย่ให้สังข์กับขาบแตกสามัคคี ทัพเพ่งสายตามองใจ แต่ใจคลายข้อสงสัยด้วยอาสาออกรบในศึกที่ อากาปันญี เป็นนายกอง ทัพเห็นใจฟันทหารอังวะล้มตายหลายคน แต่ใจก็พลาดเมื่ออากาปันญีจะแทง แต่ทัพเข้าขวางและเด็ดหัวอากาปันญีให้ใจรอด ศึกนี้เฟื่อง แฟง สไบ นำผู้หญิงห่มตะเบงมานจับดาบลุกขึ้นสู้เคียงบ่ากับทัพและเหล่าชาย นักรบระจันสู้ศึกด้วยกตัญญูชาติ จนอังวะต้องยกทัพกลับไปอย่างคนแพ้
เลือดตลอดตัวนี้ จะขอหลั่งทาดิน ฝากธรณีไว้บูชาชาติที่อาศัย แผ่นดินได้สุข
ใจเห็นความสามัคคี เสียสละได้กระทั่งชีวิตของชาวค่ายระจันก็ใจเริ่มเอนเอียง กังวลว่าถ้าสไบรู้ความเรื่องเป็นสายลับ เค้าคงต้องสูญเสียสไบไปจนชั่วชีวิต
แฟงกับทัพได้ใช้เวลาแห่งรักกันเพียงไม่นาน เพราะทัพต้องออกไปลาดตระเวนทำลายคาราวานเสบียงของพม่า แฟงขอสัญญาเพียงทัพต้องกลับมากินข้าวรสมือนาง คืนหนึ่งทัพออกไปกลางดึก แฟงรอจนเช้าทัพยังไม่กลับ แฟงร้อนใจจับดาบออกตามเพราะกลัวทัพเป็นอันตราย แต่ทัพหลงไปในดงศัตรู แฟงลอบปลอมเป็นพม่า จับดาบไปช่วยทัพออกมา ทัพมองไม่ชัดเกือบทำร้ายแฟงด้วยเข้าใจผิด ใจเห็นก็ลอบช่วยทัพกับแฟงออกไป ทัพสั่งขังแฟงไว้ แฟงอาลาะวาดจนเฟื่องอ่อนใจมาช่วยแก้มัด ทัพกลับจากลาดตระเวนไม่เห็นแฟงก็ออกตามหาแทบคลั่ง จนมาเจอแฟงที่ถูกงูกัดเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทัพทั้งเคืองทั้งโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะปากฉอเลาะของแฟง จึงได้แต่วนเวียนลงโทษด้วยจูบอ่อนหวาน
เฟื่องที่รู้แน่แก่ใจว่าหัวใจของทัพมีแฟงครอบครองแทนที่ตนไปแล้ว ก็พูดกับทัพให้แต่งงานกับแฟงเสีย ทัพดีใจมาก แฟงยังตั้งแง่แต่ทัพรวบรัดสู่ขอแฟง แล้วจัดงานให้ได้ครึกครื้นมีรอยยิ้มไปทั้งค่าย หลังเวลาแห่งสุข ทุกคนเตรียมป้องกันค่ายแข็งขัน แต่ไม่ทันกับสุกี้นายกองที่ใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายค่าย ชาวค่ายล้มตายยิ่งกว่าใบไม้ร่วงเพราะมีเพียงปืน มีด ไม้
ชาวระจันต่างสะอื้นตะโกนเพราะความรักบ้านเกิด หากจะตายเสียแล้ว จะจดจารึกโคนไม้ จะสลักหินและพื้นกระเบื้อง ฝากธรณีแม่ระจัน ฝังไว้ให้คนอยู่หลัง มันร้องไห้ถึงนักรบค่ายระจัน ตลอดไปชั่วลูกหลาน
ทัพอาสาเป็นทหารเสือระจัน ควบม้าฝ่าข้าศึกมากรุงศรีเพื่อขอปืนใหญ่ เจิดได้ข่าวก็ควบม้าตามหวังเด็ดหัวทัพ แต่ใจตามมาขวางไว้ ทัพรอดผ่านทัพพม่ามาได้หลายครั้ง โดยไม่รู้ว่าใจคือคนที่ลอบช่วยเหลือมาตลอดทาง เพราะสำนึกว่าทัพเองก็เคยช่วยชีวิตตนไว้ เมื่อมาถึงกรุงศรีทัพได้เจอกับความขัดแย้งของเหล่าเสนาบดีที่รักตัวกลัวตาย ไม่ยอมให้ปืนใหญ่กับชาวค่ายบ้านระจัน เพราะกลัวชาวบ้านจะแพ้แล้วถูกทัพอังวะยึดปืนย้อนกลับมายิงพระนคร ทัพกลับมาพร้อมข่าวเศร้า แฟงที่กำลังท้องได้แต่ปลุกปลอบใจสามี
ใจลอบไปส่งข่าวนอกค่าย แต่เฟื่องกับขาบสังเกตเห็น ขาบไม่แน่ใจ ปรึกษาเฟื่องทั้งเรื่องที่ทัพสงสัยว่าใครกันเอากลศึกไปขยายแก่ศัตรู เฟื่องบอกข้อสงสัยกับสไบอย่างระวัง เพราะรู้ว่าสไบรักอยู่กับใจ สไบเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติของใจกับเจิดที่หายตัวไปจากค่ายด้วยข้ออ้างต่างๆ สไบแกล้งวางแผนปล่อยข่าวเรื่องทัพกำลังจะพาสังข์ ขาบบุกลุยกันเพียงสามคนให้ถึงใจกลางทัพอังวะ หวังตัดหัวแม่ทัพใหญ่ ใจตกหลุมที่สไบวางไว้ เอากำลังทหารอังวะมาตั้งรอ แต่พอเห็นร่างสไบที่น้ำตานองหน้า ชายหนุ่มใจหล่นวูบ ประจักษ์แล้วว่าสไบรู้ความจริงทั้งหมด สไบด่าว่าขับไสใจให้กลับไปค่ายอังวะ อย่าได้มาให้เจอกันอีกเลย เพราะคราหน้าดาบในมือเธอจะฟันลงบนอกที่ซ่อนหัวใจยอกย้อนหลอกลวงไว้ ใจขอร้องสไบให้หนีไปด้วยกันเพราะค่ายบ้านระจันกำลังจะแตก สุกี้นายกองเตรียมการณ์หักค่ายไว้ทั้งหมดแล้ว สไบด่าว่าใจและยืนยันว่าจะขอตายที่ค่ายระจันเสียดีกว่าจะต้องไปยืนมีลมหายใจบนแผ่นดินอังวะ ใจกอดคนรัก สไบเอ่ยลาทั้งน้ำตา หากว่าต้องเป็นศัตรูก็ขอให้สิ้นสุดแค่ชาตินี้ คืนสุดท้ายของสองคนรักต่างเชื้อชาติ ปวดร้าว โหยไห้ จนรุ่งตะวันขึ้นใจเห็นเพียงผ้าสไบที่คนรักทิ้งไว้ต่างหน้า
แฟงตั้งท้อง เฟื่องรู้ก็เอ่ยเตือน แต่แฟงไม่อยากให้ทัพห่วงหน้าพะวงหลังเลยไม่ยอมบอกผัวรัก จนวันหนึ่งแฟงเป็นลมไป ทัพร้อนใจว่าแฟงป่วย แต่พอรู้จากปากเมียว่ากำลังจะมีบุตรน้อย ทัพคิดถึงอนาคตของลูกและเมีย จึงปรึกษาสังข์ขอให้ทำอุบายพาแฟงและลูกน้อยในครรภ์ไปให้พ้นค่ายบ้านระจัน ระหว่างทางไปหาญาติที่นครสวรรค์ แฟงฉุกใจ บังคับถามจนสังข์ต้องบอกความจริง แฟงควบม้าฝ่าศัตรูกลับมา เวลาเดียวกับที่ทัพออกไปลอบปล้นเสบียงตัดกำลังอังวะ ทันทีที่กลับค่ายพอเห็นหน้าแฟง ทัพโผกอดเมียรัก แฟงน้ำตานองหน้า น้อยใจ ผลักไสทัพให้ไปพ้นๆ หากชาตินี้คิดจะปล่อยให้เธออยู่กับลูกอย่างไร้เขา ชีวิตแฟงที่เหลือก็หามีค่าพอจะมีลมหายใจ ทัพซึ้งใจ แฟงบอกว่าหากจะตาย ขอตายไปพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันบนสวรรค์
สุกี้นายกองสั่งไพร่พลขุดอุโมงค์ลอบเข้าค่าย และยิงปืนใหญ่ใส่จนชาวบ้านล้มตาย นายทองเหม็นขี่นังเผือกควงขวานออกมาไล่ฆ่าฟันศัตรูที่ล้อมค่าย แต่ไพร่พลอังวะมากมายมหาศาล รุมฟันจนนายทองเหม็นถึงแก่ความตายลงพร้อมนังเผือก ชาวค่ายเสียกำลังใจ บางคนเริ่มหนีเอาตัวรอด แต่พวกทัพทุกคนตั้งสัตย์สาบาน ยอมตายร่วมกัน
ใจแอบทำลายกระสุนปืนใหญ่ แต่เจิดจับได้ ใจถูกจอกยีโบลงโทษอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สิ้นความพยายามที่จะช่วยให้คนค่ายระจันได้รอดชีวิตบ้าง ใจถูกสั่งขัง ทัพอังวะรุกหนัก ขุนสรรค์กับนายจันหนวดเขี้ยวสู้จนตัวตาย พระยารัตนาธิเบศร์จากเมืองหลวงมาถึงค่ายบางระจันเพราะรู้กิตติศัพท์ความกล้า ขอให้ชาวบ้านเอาทองมาหล่อปืน ทุกคนมีความหวัง แต่ก็สิ้นสูญเมื่อปืนแตกใช้การไม่ได้
วันจันทร์ 2 ค่ำ ข้างแรม เดือน 8 ปีจอ พ่อค่ายกำนันพันเรือง ทองแสง ปลุกใจชายหญิงชาวค่ายให้สู้ ทัพ แฟง เฟื่อง ขาบ สังข์ จวง ชาวค่ายทุกคนขอบูชาชีวิตให้ชาติ พระอาจารย์ธรรมโชติประสิทธิ์ประสาทวิทยาคมอาคมบำรุงขวัญ
เสียงโห่สามลาดังครบกึกก้อง เหมือนเป็นสัญญาณ ลาก่อนค่ายระจันและเมืองสยามที่เกิด ลาสองนี้เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ของทหารเองที่ต้องรักษาไว้ ใครอื่นจะแย่งศักดิ์นี้ไปจากตัวมิได้ ถึงตายแล้ว ศักดิ์ชายยังหอมหวน ติดโลก ติดปากคนอยู่หลัง
สุกี้นายกองสั่งยิงปืนใหญ่ถล่มค่าย ชาวค่ายระจันชายหญิงถือดาบสองมือตะลุยเข้าต่อสู้ ยอมสละชีพเอากายเป็นโล่กำบัง เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่ให้ศัตรูฝ่าไปได้ กองศพชาวบ้านทับถม แต่ไม่มีใครถอย สังข์กับจวงจับดาบคู่สู้จนลมหายใจสุดท้ายก่อนจะตายเคียงกัน
ที่กลางสนามรบ ใจหรืออองนายในชุดทหารอังวะฝ่าไพร่พลเข้ามา ช้อนร่างสไบที่เลือดเต็มร่างไว้แนบอก สไบยิ้ม เอ่ยลาคนรักและขอพบกันอีกครั้งในชาติหน้า ใจสวมกอดร่างสไบไว้ทั้งน้ำตาและหัวใจแหลกสลาย เพราะไม่อาจช่วยคนรักได้ทัน ทัพมาเห็นภาพใจในชุดทหารอังวะ ความผิดหวังแล่นไปทั้งร่าง ใจขอตายด้วยคมดาบทัพ ทัพท้าให้ใจสู้อย่างชาติทหาร ใจกับทัพประดาบใส่กันไม่ยั้ง ทัพมีชัยเอาดาบจ่อคอใจ และเอ่ยให้ใจตัดสินความผิดตัวเอง ใจไม่ทันกดดาบลงที่คอตัวเอง จอกยีโบผู้เป็นครูยิงปืนกระสุนเจาะร่างศิษย์รัก ใจทรุดตายลงเคียงร่างสไบ หวังว่าชาติหน้าจะไม่สิ่งใดขวางกั้นรักนี้ได้อีก
เฟื่องกับขาบสู้ทหารอังวะที่หลั่งไหลยิ่งกว่าสายน้ำ เอาร่างรับคมดาบแทนกันจนล้มทรุด ขาบยอมรับคมดาบสุดท้ายแทนเฟื่องจนสิ้นลมหายใจ เฟื่องกอดขาบไว้กระซิบคำรักที่ขาบไม่ทันได้ยิน ก่อนตายเคียงคู่ด้วยรอยยิ้มที่ได้สละชีพนี้รักษาชาติ
ทัพกับแฟงสู้จนเลือดหยดหยาดสุดท้าย มือกำดาบมั่น กายมีแผลยับไปทั้งตัว สู้ศึกพลีชีวิต ใจยังโลดลำพอง สาบานจะขอยืนกอดคอกันทั้งชาตินี้ชาติหน้าไม่ห่าง จะกอดกันอยู่ร่วมทุกข์เมืองทั้งสวรรค์แล นรก ปลงใจบูชาชีวิตให้แก่ชาติ ขอฝากนามไว้กับอนุชนสยามที่จะเกิดมาภายหลัง
หมู่ศัตรูกรูเข้ามาท่ามกลางฟ้าสีหม่นมัวปกคลุม วังเวงใจไปทั้งค่ายที่ร่างชาวระจันทับถม เลือดนองยิ่งกว่าสายน้ำเชี่ยว ทัพและแฟงพนมมือรำลึกคุณชาติ ไหว้ลาแผ่นดินสยามที่จะกลบหน้าแต่มื้อนี้ อธิษฐานขออำนาจเทพยดาฟ้าดินคุ้มครองชาติ พระศรีสรรเพชรดาญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ คุ้มศรีอยุธยาตลอดกว่าฟ้าจะล่ม เมื่อสิ้นคำอธิษฐาน ทัพทิ้งร่างโชกเลือดลงในอกแฟงเมียรัก สองสามีหนุ่มสาวผู้กล้ากอดกันสิ้นลมหายใจไปกับความภูมิใจที่มอบชีวิตและหัวใจไว้เพื่อแผ่นดิน
กิตติศัพท์ชาวบ้านระจันที่มีเพียงมีด ไม้ มือเปล่า และหัวใจแกล้วกล้า รักบ้านเกิดเมืองนอน มีใจเจ็บร้อนแทนชาติและเพื่อนร่วมเมือง สู้ศึก สละชีพ กลายเป็นความภาคภูมิ ขนาดแม่ทัพใหญ่พม่ายังเอ่ยสดุดี
ขอให้คนในชาติจดจำวีรกรรมเยี่ยงนี้เป็นตัวอย่าง ตราบนี้จนวันหน้าอย่ารู้ลืม…
1. พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบทเป็น ทัพ
2. ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด รับบทเป็น แฟง
3. พศุตม์ บานแย้ม รับบทเป็น ใจ (อองนาย)
4. ศิรพันธ์ วัฒนจินดา รับบทเป็น สไบ
5. ฐกฤต ตวันพงค์ รับบทเป็น ขาบ
6. กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล รับบทเป็น เฟื่อง
7. ปรมะ อิ่มอโนทัย รับบทเป็น สังข์
8. สาวิตรี สุทธิชานนท์ รับบทเป็น จวง
9. ภัทรภณ โตอุ่น รับบทเป็น ฟัก
10. ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบทเป็น ดอกรัก
11. จิรายุ ตันตระกูล รับบทเป็น หมู่เคลิ้ม
12. วีระกิตติ์ วรัตน์ชยุต รับบทเป็น เอิบ
13. ศรัณย์ แก้วจินดา รับบทเป็น ช่วง
14. สรพงษ์ ชาตรี รับบทเป็น กำนันพัน
15. ปริศนา กล่ำพินิจ รับบทเป็น เยื้อน
16. สันติสุข พรหมศิริ รับบทเป็น ผู้ใหญ่แสง
17. รมิดา ประภาสโนบล รับบทเป็น รุ่ง
18. ปวีณา ชารีฟสกุล รับบทเป็น จันทร์
19. อำภา ภูษิต รับบทเป็น เฟี้ยม
20. ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ รับบทเป็น พระเที่ยง
21. รวิชญ์ เทิดวงส์ รับบทเป็น พระยารัตนาธิเบศร์
22. วิทยา วสุไกรไพศาล รับบทเป็น พระเจ้าเอกทัศน์
23. ปนัดดา โกมารทัต รับบทเป็น กรมหลวงพิพิธมนตรี
24. วิศววิท แซ่อุ้ย รับบทเป็น เจ้าฟ้าอุทุมพร
25. ไชย ขุนศรีรักษา รับบทเป็น เสือปิ่น
26. พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา รับบทเป็น ชิด
27. สมชาย เข็มกลัด รับบทเป็น ผู้ใหญ่บ้านทองเหม็น
28. ศรุต วิจิตรานนท์ รับบทเป็น นายทองแสงใหญ่
29. วัชรชัย สุนทรศิริ รับบทเป็น กำนันพันเรือง
30. วิศรุต หิรัญบุศย์ รับบทเป็น นายจันหนวดเขี้ยว
31. พศิน เรืองวุฒิ รับบทเป็น ขุนสรรค์กรมการ
32. ภูริ หิรัญพฤกษ์ รับบทเป็น นายแท่น
33. ชัยวัฒน์ ทองแสง รับบทเป็น นายอิน
34. ปัญญาพล เดชสงค์ รับบทเป็น นายโชติ
35. ศิระ แพทย์รัตน์ รับบทเป็น นายเมือง
36. ชลัฏ ณ สงขลา รับบทเป็น นายทองแก้ว
37. สนธยา ชิตมณี รับบทเป็น นายดอกไม้
38. ชาติชาย งามสรรพ์ รับบทเป็น พระอาจารย์ธรรมโชติ
39. อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล รับบทเป็น พระเจ้ามังระ
40. นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบทเป็น เนเมียวสีหบดี
41. สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบทเป็น มังมหานรธา
42. เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ รับบทเป็น สุกี้นายกอง
43. สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบทเป็น อูจี
44. ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ รับบทเป็น เจิด (อูทิน)
45. ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบทเป็น จาด (จอกยีโบ)
46. โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว รับบทเป็น งาจุนหวุ่น
47. ภุชิสสะ ศุภธนพัฒน์ รับบทเป็น เยกินหวุ่น
48. กำปั้น บาซู รับบทเป็น แยจออากา
49. จตุรวิทย์ คชน่วม รับบทเป็น ติงจาโบ
50. ปีเตอร์ หลุยส์ ไมอ๊อคชิ รับบทเป็น จิกแก
51. ศรัณยู ประชากริช รับบทเป็น อากาปันญี
52. ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง รับบทเป็น สุรินทจอข่อง
53. สมชาติ ประชาไทย รับบทเป็น ฉับกุงโบ
54. ณฐกร ไตรกิศยเวช รับบทเป็น มยิหวุ่น
55. ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์ รับบทเป็น ใจ (วัยรุ่น)
56. วิศรุต หิมรัตน์ รับบทเป็น อูทิน (วัยรุ่น)
57. ศศินทร์ เชาว์ รับบทเป็น สุกี้ (วัยรุ่น)
ขอบคุณที่มาจาก ผู้จัดการ