เรื่องราวน่ารัก กุ๊กกิ๊ก โรแมนติก คอเมดี้ของพิธีกรสาว กับหนุ่มข้างบ้าน ที่ก่อตัวขึ้นอย่างไม่ธรรมดา เพราะหนุ่มที่ว่านายนี้ดันเป็น…ผี!
ณ สุสานรถ เวลาดึกสงัด ท่ามกลางซากรถที่พังยับเยินจากอุบัติเหตุ หนุ่มหล่อนายหนึ่ง นอนอยู่กับพื้น เขาฟื้นคืนสติขึ้นมาพร้อมกับความงุนงง เหนือร่างกายของชายหนุ่ม ปรากฎร่างของคามิน ผีร้ายที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะบาปหนาซ้ำซ้อน เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติด ฆ่าคนบริสุทธิ์มามากมาย แม้แต่วันสุดท้ายของชีวิตก็ฆ่าตำรวจไปหลายนาย ก่อนจะขับรถหนีมาเสียหลักอัดกับเสาไฟฟ้า จึงต้องมาวนเวียนอยู่ที่สุสานรถ คามินกระชากคอหนุ่มหล่อขึ้นมา จะดูดวิญญาณออกจากร่างเขา
ทันใดนั้น ก็มีชายหนุ่มในสูทสีเทาสุดเนี๊ยบ ปรากฎตัวมาช่วยเขาไว้ พร้อมแนะนำตนเองว่าชื่อ แมนสรวง และเรียกเขาว่า พีระ ทำให้ชายหนุ่มผู้ถูกช่วยเหลือได้รู้ว่าตนชื่ออะไร และได้ตระหนักว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปซะแล้ว แมนสรวงย้ำว่าไม่ใช่แค่นั้น จริงๆ แกน่ะ ตายไปแล้ว
น้ำมนต์ นักศึกษาสาวปีสุดท้าย ที่ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ เพื่อหาเงินเรียนและยังต้องเลี้ยงดู ข้าวต้ม น้องชายวัย 9 ขวบ งานหลักของน้ำมนต์ก็คือพิธีกรรายการเคเบิ้ลทีวี “คืนผจญผี” รายการที่เล่าเรื่องประสบการณ์เจอผีของผู้ชมทางบ้าน และพาไปพิสูจน์สถานที่ที่ลือกันว่าเฮี้ยน ทั่วราชอาณาจักร ถึงแม้น้ำมนต์เองจะเป็นคนกลัวผีสุดๆ แต่เพื่อหาเลี้ยงชีพ เธอก็จำต้องทน
คืนหนึ่ง ขณะกำลังถ่ายทำรายการ “คืนผจญผี” น้ำมนต์ต้องพาอาสาสมัครหนุ่มบึ้ก หนวดเฟิ้ม มาดเข้ม ผู้ร่วมบุกบ้านร้างที่เล่าลือว่าเป็นบ้านผีดุ เพราะเคยมีคนถูกปล้นฆ่า ไม่ทันได้เจอวิญญาณหลอน แค่แมวกระโจน แขกรับเชิญหนุ่มบึ้กหนวดเฟิ้ม ถึงกับแต๋วแตก กรีดร้อง วิ่งกระเจิง
เอมี่ โปรดิวเซอร์และเจ้าของรายการสาวรุ่นพี่ ที่ถือ ว. นั่งหน้ามอนิเตอร์ถึงกับบ่นอุบ ที่ไม่ได้ภาพผีที่น่ากลัวอย่างที่หวังอีกตามเคย ทำให้รายการ “คืนผจญผี” เรตติ้งไม่ขยับ สปอนเซอร์ก็ไม่ซื้อเวลาโฆษณา เอมี่จึงต้องขอผัดผ่อนเงินค่าตัวพิธีกรของน้ำมนต์ออกไปก่อน ทั้งที่ล่วงเลยมา 4-5 เดือนแล้ว
น้ำมนต์และข้าวต้มอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าของน้า ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของแม่ เมื่อน้ำมนต์กลับไปถึงก็พบว่าข้าวของของเธอและน้องชายถูกเอามากองหน้าห้อง สาเหตุเพราะข้าวต้มเอาปืนของจริงของสามีน้าไปเล่นไล่ยิงลูกของน้า ทำให้น้าโกรธ น้ำมนต์ต้องหอบหิ้วข้าวของและพาข้าวต้มออกจากบ้านของน้าสาวไปหาที่อยู่แห่งใหม่
แมนสรวงพาพีระหนีมาอยู่ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง พีระยังไม่เชื่อว่าตนเองเป็นวิญญาณ จนกระทั่ง รปภ. เจี๊ยบ พนักงานดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้านของน้ำมนต์ขี่รถจักรยาน ผ่านมาดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ยังไม่ทันที่พีระจะตั้งตัว รปภ. เจี๊ยบ ขี่รถทะลุตัวของพีระไปทำให้พีระช็อคมากและรู้ตัวว่าตนเองเป็นวิญญาณ เขาขอให้แมนสรวงช่วยสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ แมนสรวงออกตัวว่าตนเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ที่ท่านพญายมส่งตัวมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลพีระเท่านั้น เพราะวิญญาณของพีระไม่อยู่ในบัญชีของผู้ที่ถึงฆาต พีระต้องหาตัวช่วยทางอื่นแล้ว พีระจึงมองออกไปเห็นมีคนย้ายมาอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามพอดี จึงคิดว่านี่อาจจะเป็นที่พึ่งของเขาก็ได้
น้ำมนต์ขนของย้ายไปอยู่ที่บ้านของแม่ที่ทิ้งร้างไว้ หลังจากที่ทั้งแม่ และพ่อของเธอเสียชีวิตไปในอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อสองปีก่อน โดยมีเอมี่เป็นคนช่วยขับรถไปส่ง ตัวบ้านเป็นไม้เก่าๆ มีบริเวณพื้นที่ค่อนข้างกว้าง บ้านข้างๆ ที่ติดกันก็ถูกปล่อยรกร้าง ทำให้บริเวณนั้นดูเปลี่ยว สงัด น่ากลัว
พีรได้พบน้ำมนต์และข้าวต้มเป็นครั้งแรก เห็นน้ำมนต์กำลังยกของก็มีน้ำใจไปช่วยยก แต่ดันถูกเข้าใจผิดว่าจะขโมยของ เอมี่ได้แต่งง เพราะเอมี่ไม่เห็นว่ามีใครเลย น้ำมนต์นึกว่าพีระหนีไปแล้ว ก็ตั้งแง่ไม่ชอบพีระตั้งแต่แรกเห็น ในขณะที่พีระนั้นเห็นหน้าน้ำมนต์ก็รู้สึกปิ๊ง ถูกใจสุดๆ
ยุทธ กับ เมสินี ติดตามข่าวทางโทรทัศน์เมื่อตำรวจกู้ซากรถปริศนาที่ตกลงไปในริมบึงแห่งหนึ่ง โดยยังไม่พบศพของผู้ขับรถคันดังกล่าว ทั้งสองต่างก็เครียด และร้อนใจ ที่ไม่พบศพของพีระ เมสินียืนยันว่า ถ้ายังไม่พบศพ ก็ต้องตามล่าหาร่างของพีระให้เจอให้ได้ มิฉะนั้นชีวิตคู่ของเรา คงต้อง แยกย้ายไปแก่ตายกันในคุก
ที่มหาวิทยาลัย น้ำมนต์ถูกตามจีบโดย อัฐชัย นักศึกษาหนุ่มหล่อ รวย เนี๊ยบ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย แต่น้ำมนต์ยืนด้วยลำแข้งตัวเองมานาน จึงยังใจแข็ง แต่ก็เริ่มจะโอนอ่อน คล้อยตามอยู่ เพราะทุกคนยุว่าอัฐชัยรักเธอจริง และด้วยฐานะของอัฐชัย ก็จะช่วยดูแลให้ชีวิตเธอกับน้องชายดีขึ้นได้
การที่อัฐชัยมาชอบน้ำมนต์ ก็ทำให้ พิมพ์ดาว เชียร์ลีดเดอร์สาวเปรี้ยว ดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะของน้ำมนต์ เขม่น และคอยหาเรื่องกับน้ำมนต์ เพื่อนในกลุ่มยังมีขาเม้าท์อีกคนคือ ลูกโป่ง ที่พร้อมจะเม้าท์กับทุกคน ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ตกค่ำ พีระแวะไปที่บ้านพบว่าข้าวต้มนั่งทำปืนด้วยหนังยางเล่นสนุกอยู่คนเดียว พีระเข้ามาคุยด้วยและสอนให้ข้าวต้มทำปืนของเล่นด้วยไม้ที่ดูดีกว่านี้ให้ อัฐชัยขับรถมาส่งน้ำมนต์ที่บ้าน อัฐชัยขอน้ำมนต์เข้าห้องน้ำ แต่ก็พยายามทำรุ่มร่ามกับน้ำมนต์ พอดีที่ข้าวต้มเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เพื่ออวดปืนของเล่นที่ทำเอง น้ำมนต์โกรธมากเพราะสั่งข้าวต้มเด็ดขาดว่าไม่ให้เล่นปืน ข้าวต้มเล่าว่าพีระเป็นคนสอนให้ น้ำมนต์ไปที่บ้านร้างเพื่อต่อว่าพีระ แต่ไม่เห็นใคร แล้วก้มๆ เงยๆ แอบมองเข้าไปในบ้าน เจอพีระมายืนอยู่ข้างหลัง แซวว่าจะแอบถ้ำมองผมเหรอ หรือจะแอบขโมยกางเกงใน น้ำมนต์หน้าแตก แต่ก็โวยกลับที่พีระให้ข้าวต้มเล่นปืนแต่พีระโวยกลับว่าแค่ปืนของเล่นเนี่ยนะ และยังยืนยันว่าเด็กผู้ชายก็ต้องเล่นปืนสิ จะให้เล่นตุ๊กตารึไง เขาเองตอนเด็กๆ ก็เล่นปืน แต่ไม่ได้แปลว่าโตมาแล้วต้องไปไล่ยิงคน เด็กจะดีหรือไม่ดี อย่าโทษที่ปืนของเล่น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปืนแต่ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองจะมีความรับผิดชอบ คอยดูแลปลูกฝังเด็กหรือป่าวต่างหาก อัฐชัยประหลาดใจ เห็นน้ำมนต์ยืนพูดอยู่คนเดียว น้ำมนต์ยืนยันว่าพีระอยู่ตรงนี้ แต่อัฐชัยมองไม่เห็นพีระ อัฐชัยไปปรึกษากับเอมี่ ห่วงว่าน้ำมนต์โดนผีรังควาญ เอมี่จึงแนะนำให้อัฐชัยรู้จักกับ อ. เทพ ชูธง อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง หมอดู และหมอผี อ. เทพ เป็นแขกรับเชิญในรายการคืนพจญผีบ่อยๆ พร้อมกับ เกี๊ยง หลานชาย ผู้คอยติดตามรับใช้ อัฐชัยตกลงจ้าง อ. เทพ จัดการสะกดวิญญาณของพีระลงหม้ออาคม
ที่มหาวิทยาลัย พิมพ์ดาวและลูกโป่ง เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะทำละครเวทีประจำปีของคณะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญ และเป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัย โดยปีนี้ ลูกโป่ง พิมพ์ดาว และน้ำมนต์เป็นทีมสต๊าฟตัวหลัก ลูกโป่งเห็นว่าน้ำมนต์ทำรายการผีอยู่แล้ว คงมีวัตถุดิบและไอเดียมากมาย จึงเสนอว่า ปีนี้จะทำละครเวทีแนวผี สยองขวัญ ทุกคนเห็นดีด้วย อนุมัติทันที คืนนั้นเอมี่ให้น้ำมนต์มาทำรายการที่บ้านร้างที่ลือว่ามีผีเด็กสิงสถิตย์อยู่ โดยมีพิมพ์ดาวมาเป็นผู้ร่วมรายการด้วย ระหว่างถ่ายทำรายการทั้งน้ำมนต์และพิมพ์ดาวถูกผีเด็กในบ้านร้างหลอกให้ของเล่นลอยไปลอยมาได้ น้ำมนต์ พิมพ์ดาว รวมถึงทีมงานต่างหนีกระเจิง น้ำมนต์หนีมาเจอข้าวต้มที่โผล่มาไม่ตั้งตัว โดยที่พีระพามาส่ง พีระโวยวายว่าน้ำมนต์เป็นผู้ปกครองที่แย่มากๆ ทิ้งให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ไม่มีใครมองเห็นพีระเลย นอกจากน้ำมนต์และข้าวต้ม น้ำมนต์เริ่มมั่นใจแล้วว่าพีระไม่ใช่คน
ระหว่างที่พีระและแมนสรวงไม่อยู่ อัฐชัยพา อ. เทพ ชูธงและเกี๊ยงมาทำพิธีปัดเป่าวิญญาณ แต่ อ. เทพ ไม่พบวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ จึงกลับไป ให้ยันต์เก้าทวารแก่อัฐชัยให้เอาไปแปะไว้ที่รั้วบ้านน้ำมนต์เพื่อป้องกันวิญญาณ แมนสรวงกลับมาก็เห็นร่องรอยการทำพิธีในบ้านจึงรู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับพีระแล้ว
เมื่อน้ำมนต์แน่ใจแล้วว่าพีระเป็นผี ก็พยายามหนี จนเกิดเป็นสถานการณ์ที่ พี่ระตามตื๊อจะขอความช่วยเหลือ แต่น้ำมนต์เอาแต่จะหนี น้ำมนต์ต้องพึ่งพระเครื่อง สายสิญจน์ ผ้ายันต์ เพื่อรับมือกับพีระ เมื่อพีระจะเข้าไปในบ้านน้ำมนต์ กลับถูกของพลังของยันต์ที่อัฐชัยแอบแปะไว้ช็อตเข้าที่ร่างจนทรุดลงไป น้ำมนต์เห็นจึงรีบวิ่งไปช่วย แต่ไม่สัมผัสร่างของพีระได้ แมนสรวงต้องรีบเข้ามาประคองและต่อว่าน้ำมนต์ที่เอายันต์มาแปะกะจะฆ่าพีระให้ตาย น้ำมนต์ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ เธอสงสารพีระจับใจ
น้ำมนต์รู้ว่าเป็นฝีมือของอัฐชัยก็ไปต่อว่า พิมพ์ดาวกับลูกโป่งแซวว่าผีตนนั้นคงหล่อมากจนคนที่กลัวผีอย่างน้ำมนต์ออกโรงปกป้อง น้ำมนต์พูดแก้เก้อว่าเพราะสงสาร อัฐชัยเริ่มไม่ไว้ใจพีระมากขึ้น
ข้าวต้มเล่นซน จนลูกบอลไปโดนเอา งอแง ที่ขี่จักรยานมา ทำให้จักรยานล้ม งอแงร้องไห้โฮ แต่ร้องไห้เสร็จ ก็กลายเป็นชวนกันเล่นตามประสาเด็ก
บ้านของงอแงเป็นร้านกาแฟ “คอฟฟี่แคท” ที่อยู่ซอยถัดไป โดย เจ๊แมว เจ้าของร้านมีลูกสาวสองคน สองวัย เพราะเกิดจากสองสามี คนโตคือ พิมพ์ดาว และมีน้องเล็กวัย 9 ขวบ จากสามีคนที่สองที่เลิกไปนานแล้ว ก็คือ งอแง เด็กหญิงน่ารัก แต่ขี้อ้อน และขี้แงแต่เด็กจนได้ชื่อนี้
พีระกับแมนสรวงก็ตัดสินใจที่จะไปยังสุสาน เสี่ยงกับผีคามิน เพื่อจะสืบสาวเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนกันแน่ แต่ก็ต้องผจญกับผีคามิน ที่มีพลังแก่กล้ามากจนพีระกับแมนสรวงต้านทานไม่ไหว พีระกับแมนสรวงหนีมาได้อย่างสะบักสะบอม หวุดหวิดจะถูกดูดวิญญาณไป
พีระมีรูปที่ตนเองถ่ายหน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่ง แต่พีระจำอะไรไม่ได้เลย จึงไปขอความช่วยเหลือจากน้ำมนต์ น้ำมนต์ที่ยังตกอยู่ในอาการผวาพีระ ปฏิเสธด้วยความกลัว และเอาสายสิญจน์มาพันรอบบ้าน ทำให้พีระเข้าบ้านน้ำมนต์ไม่ได้ ข้าวต้มเลยแอบตัดสายสิญจน์และเอาด้ายขาวมาผูกแทนโดยที่น้ำมนต์ไม่รู้ ทำให้พีระสามารถเข้าถึงน้ำมนต์ผ่านทางความฝัน ในฝัน พีระขอร้องเพราะน้ำมนต์เป็นหนทางสุดท้ายที่จะช่วยเหลือพีระได้ แต่ไม่ได้ผล พีระได้แต่ปลงและทำใจ
อัฐชัยเห็นว่าน้ำมนต์กลัวผี จึงให้แม่บ้านที่บ้านตนมาอยู่เป็นเพื่อน ช่วยทำความสะอาดบ้าน และช่วยดูแลข้าวต้มที่กำลังจะปิดเทอม น้ำมนต์เกรงใจ พยายามปฏิเสธ แต่คุณอัฐอ้างว่าไม่งั้นแม่บ้านรายนี้จะตกงาน น้ำมนต์จึงยอมให้บ้านหลังนี้มีสมาชิกใหม่เป็นแม่บ้านสาวรุ่นจอมเปิ่นชื่อว่า แจ๊ว แต่เบื้องหลังของแจ๊ว ก็คือคุณอัฐแอบมอบหมายหน้าที่ให้คอยสังเกตการณ์ และรายงานความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของน้ำมนต์ ทั้งที่แจ๊วเป็นคนกลัวผีมากๆ
ใกล้ช่วงสอบของน้ำมนต์แล้ว น้ำมนต์กลับกลุ้มเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าลงทะเบียน น้ำมนต์พยายามทวงค่าตัวพิธีกรที่เอมี่ค้างอยู่ แต่เอมี่ไม่มีเงินเพราะบริษัทขาดรายได้เนื่องจากรายการไม่เคยเจอผีเลย เอมี่นึกไอเดียออก ให้น้ำมนต์ติดต่อผีมาออกรายการให้ได้แล้วจะเคลียร์เงินค่าตัวให้ทั้งหมด น้ำมนต์ไปขอความช่วยเหลือจากพีระ โดยแลกกับที่น้ำมนต์จะช่วยสืบเรื่องตัวตนของพีระให้ น้ำมนต์กับพีระเอากล้องวิดีโอไปถ่ายผีที่สุสาน ก็ได้เจอคามิน ที่จ้องจะดูดกลืนวิญญาณพีระพอดี น้ำมนต์พยายามช่วยแต่สู้แรงคามินไม่ได้ คามินจับตัวพีระไว้ได้ พีระหมดแรงขัดขืน พีระบอกให้น้ำมนต์หนีไป ทันใดนั้น อ. เทพ ก็เอามีดลงอาคมปาดเฉียดเอาตรงหน้าผากคามิน คามินร้องโหยหวน ใช้อาคมขับไล่คามินไป อ. เทพ กับ เกี๊ยง ก็สะกดวิญญาณของพีระ มาขังไว้ในหม้อดินลงยันต์ แมนสรวงรู้เข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว แต่แมนสรวงและข้าวต้มทำให้น้ำมนต์รู้สึกผิดที่จับพีระไว้แบบนี้ จึงกลายเป็นน้ำมนต์ที่ต้องมาช่วยปลดปล่อยวิญญาณของพีระออกจากหม้อลงยันต์ น้ำมนต์ตามไปที่แม่น้ำที่ อ. เทพ จะเอาหม้ออาคมไปถ่วง น้ำมนต์เข้าไปยื้อแย่งและปาหม้ออาคมจนแตก แมนสรวงพาพีระหนีไปได้ อัฐชัย อ. เทพ และเกี๊ยงพยายามตามหาพีระในบริเวณนั้นแต่ไม่เจอ น้ำมนต์พลอยโล่งใจ
พีระคิดว่าถ้าจะกลับไปที่บ้านร้างหลังเดิมพวก อ. เทพ อาจกลับมาอีกได้ เลยคิดว่าจะไปแอบอยู่ในบ้านของน้ำมนต์ เพราะที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ตอนแรกน้ำมนต์ปฏิเสธ แต่ด้วยการตื้อของพีระและน้องชายก็ทำให้น้ำมนต์ใจอ่อน
ฝั่งของทาง ยุทธ และเมสินีเอง ก็พยายามตามหาร่างของพีระตามโรงพยาบาลบริเวณนั้น จุดประสงค์คือถ้ายังพบว่ารอดอยู่ จะต้องฆ่าให้ตายสถานเดียว แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสงสัยพฤติกรรมองทั้งคู่ ยุทธและเมสินีจึงหนีไป เฉียดที่จะได้พบร่างของพีระที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น
ที่มหาวิทยาลัย เอมี่ไปหาเรื่องตำนานผีของมหาวิทยาลัย ก็ได้เจอน้ำมนต์ อัฐชัย ลูกโป่ง และพิมพ์ดาว กำลังปรึกษาเรื่องโปรเจกต์ละครเวทีสยองขวัญ ทั้งสี่คนต่างเล่าเรื่องตำนานสยองที่ได้ยินมาในมหาวิทยาลัยทั้งผีลิฟท์ ผีในห้องน้ำ ผีห้องดนตรีไทย ฯลฯ จนเอมี่พอใจจึงขอตัวกลับ พิมพ์ดาวเลยขอให้เอมี่ช่วยโปรโมตโปรเจกต์ละครเวทีแนวผีเรื่อง “รักข้ามภพ” โดยเป็นเรื่องของความรักระหว่างผีกับคนในยุคสมัยก่อน (ยุคเดียวกับแม่นาค) ในรายการด้วย
คืนหนึ่ง มีโจรเด็กแว๊น สองคน คือ บอย กับ ปื๊ด มาด้อมๆ มองๆ บ้านของน้ำมนต์ เห็นว่ามีแค่ผู้หญิงและเด็กอยู่ ก็คิดจะปล้นหาเงินใช้หนี้พนันบอล แจ๊วลงมาเห็นพวกโจรเข้า จึงถูกพวกโจรจับตัวขังไว้ พีระกับแมนสรวงเห็นว่ามีพวกโจรเข้ามาแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะทั้งสองไม่มีพลังพอ ปรากฎกายไม่ได้ โจรทั้งสองเข้ามาถึงห้องนอนของน้ำมนต์ ก็เห็นเธอหลับอยู่ หนึ่งในสองโจรก็คิดลามกขึ้นมาทันที ทำท่าจะลวนลามน้ำมนต์ พีระพยายามจะช่วย แมนสรวงแนะนำให้พีระใช้สามสิ่ง คือ ศรัทธา ปรารถนา และสมาธิ เพื่อปรากฏกายแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างผีได้ พีระทำตามจนสามารถปรากฏกายได้ พวกโจรเห็นพีระแสดงอิทธิฤทธิ์ ทั้งหลอก ทั้งหลอน ทั้งลงไม้ลงมือ จนสองโจรต้องวิ่งหนีเปิดเปิงออกไป การที่พีระช่วยเหลือน้ำมนต์ ทำให้น้ำมนต์รู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกดีๆ กับเขามากขึ้น
เหตุการณ์เรื่องโจรขึ้นบ้านน้ำมนต์และเรื่องผี ถูกแจ๊วแอบโทรรายงานไปถึงอัฐชัย เขาได้ยินก็รีบบึ่งมาทันที อัฐชัยโวยพีระทั้งที่มองไม่เห็นตัว ขอร้องให้อย่ามายุ่มย่ามกับน้ำมนต์ ขอร้องให้ผีอยู่ส่วนผี น้ำมนต์พยายามอธิบายว่าพีระมาดี แต่อัฐชัยไม่ไว้ใจ ไม่คิดว่าผีจะมาอยู่ร่วมโลกกับมนุษย์ได้ อัฐชัยพา อ. เทพ ชูธง และเกี๊ยงมาจัดการพีระ แต่ก็ต้องเจอผีพี่เลี้ยงระดับยมทูตอย่างแมนสรวง ช่วยปกป้อง จนต้องล่าถอยไป อ. เทพ รู้ว่าพลังของตนไม่แก่กล้าพอที่จะกำราบยมทูตอย่างแมนสรวง ทางที่จะชนะได้นั้นต้องอาศัยพลังผีร้ายอย่างคามินมาช่วย
น้ำมนต์คิดจะช่วยพีระเพื่อค้นหาร่างของเขาให้เจอ โดยเริ่มจากการประกาศตามหาเบาะแสผู้ที่รู้จักพีระตามรูปถ่ายที่เขาให้ไว้ ในรายการคืนผจญผี แต่รายการของเธอเป็นรายการเล็กๆ ฉายในเคเบิ้ล แถมยังเป็นตอนดึก ยากที่จะมีคนจำนวนมากมาเห็น มีทางเดียวก็คือ ทำให้รายการโด่งดังขึ้น โดยเริ่มจากการตามล่าผีในตำนานของมหาวิทยาลัยของน้ำมนต์เอง แมนสรวงกับพีระช่วยโดยการแกล้งเป็นผีโผล่ในรายการ แต่ก็ไม่ได้ดูหลอนน่ากลัวอะไรเลย กลายเป็นผีตลกไปเสียมากกว่า น้ำมนต์สบตากับพีระเป็นการขอบคุณที่พีระมาช่วยในรายการ
ที่สุสานรถ อ. เทพ จึงต้องบุกไปหาผีคามิน แต่กว่าที่จะเจรจากันรู้เรื่อง ก็ต้องต่อสู้ ปะทะกันจน อ. เทพ เกือบเพลี่ยงพล้ำ ทั้งสองจึงตกลงกันได้ว่าเป้าหมายคือการกำจัดพีระ และผีคามิน ก็จะได้ดูดพลังจากวิญญาณของพีระไป คามินจึงให้ความร่วมมือ
เช้าวันต่อมา น้ำมนต์รีบตื่นไปสอบแต่เช้า เนื่องจากตรากตำทำงานหนัก ทั้งงานพิธีกร และงานเรียน เธอเป็นลมอยู่บริเวณสนามหน้าบ้าน ก็ได้พีระเป็นคนช่วย อุ้มเข้ามาดูแลในบ้านน้ำมนต์ ระหว่างดูแล ก็อดมองอย่างเคลิบเคลิ้มชื่นชมไม่ได้ พีระรู้ตัวว่ารักน้ำมนต์เข้าแล้ว เมื่อฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นน้ำมนต์โกรธที่พีระไม่ยอมปลุก และรีบผลุนผลันเพื่อไปสอบ แมนสรวงได้แต่ขำที่พีระอยากเป็นฮีโร่ แต่กลับถูกน้ำมนต์โกรธจนได้
ข้ามต้มพางอแงมาเล่นกับพี่ระที่บ้าน งอแงมองไม่เห็นพีระ งอแงกลัวจนร้องไห้ ต้องคอยปลอบให้เข้าใจว่าพีระเป็นผีใจดี งอแงเริ่มใจชื้นขึ้น จนเจ๊แมว ต้องมาตาม เห็นงอแงเล่นลูกบอลกับพีระแต่ไม่มีใครมองเห็นพีระเลยดูเหมือนลูกบอลลอยเองได้ เจ๊แมวเห็นถึงกับผงะ งอแงเลยถูกเจ๊แมวพากลับบ้านอย่างไว รวมถึงแจ๊วที่สยองจนอยู่ไม่ไหวเหมือนกัน
เมื่อแจ๊วไม่อยู่ น้ำมนต์เลยต้องเป็นคนทำอาหาร และเชิญพีระมาทานอาหารค่ำที่บ้านร่วมกัน บนโต๊ะอาหารค่ำ ดูจะเป็นครั้งแรกที่พีระกับน้ำมนต์คุยกันดีๆ บ้าง ถึงแม้ น้ำมนต์ยังสงวนท่าทีพูดจาแข็งๆ ใส่พีระก็ตาม ซึ่งทุกครั้งจะมีแมนสรวงจะแอบเฝ้าดูอยู่ห่างๆ พีระนั่งนิ่ง ไม่กินอะไรเลย เพราะวิญญาณอย่างเขาไม่มีความหิว หรือต้องการพลังงานจากอาหารอย่างคนเป็นๆ น้ำมนต์คิดออก เอาธูปมาปักที่อาหารในจานพีระก็เลยได้กินข้าวกับน้ำมนต์เป็นครั้งแรก
อ.เทพ เกี๊ยง อัฐชัย กับคามิน บุกมาเล่นงานพีระ เจอกับแมนสรวงถึงบ้าน แมนสรวงถูกอ.เทพ และคามินร่วมมือกันทำร้าย แทบปางตาย แต่พีระเข้ามาเจอพยายามเข้าไปช่วยแมนสรวง แต่ก็สู้พลังของคามินไม่ได้ น้ำมนต์เห็นพีระถูกทำร้ายจะเข้าไปขวาง ก็ถูกคามินผลักกระเด็น อัฐชัยตกใจไม่คิดว่าคามินจะ ทำร้ายน้ำมนต์ จึงห้ามอ.เทพ ไม่ให้คามินทำร้ายน้ำมนต์ อ.เทพสั่งคามินหยุดและกลับออกไป น้ำมนต์โกรธอัฐชัยมาก ไล่อัฐชัยกับพวกออกไป อัฐชัยพยายามอธิบาย แต่น้ำมนต์ไม่พร้อมจะคุยกับอัฐชัยตอนนี้ พีระจึงต้องเป็นฝ่ายถูกดูแลโดยข้าวต้มกับน้ำมนต์บ้าง ในสภาพของผีที่บาดเจ็บ และเหลือพลังลดน้อยถอยลงเต็มที (แมนสรวงก็อยู่ในสภาพเดียวกัน)
ยุทธ กับ เมสินี ที่กำลังกังวลเรื่องพีระ ก็บังเอิญได้ดูรายการของน้ำมนต์ที่ประกาศตามหาเบาะแสของพีระ ยุทธตกใจมากที่มีรายการมาประกาศตามหาผู้ที่รู้เบาะแสของพีระ เมสินีจดเบอร์ไว้โดยหวังว่าน้ำมนต์จะเป็นผู้พาไปพบร่างของพีระ และจะได้กำจัดพีระให้สิ้นซากเสียที
ที่สำนักของ อ.เทพ ชูธง ซึ่งยุทธเคยเป็นศิษย์ และเคยมาสักยันต์เก้าทวารกับ อ.เทพ ยุทธเล่าว่ากำลังสืบหาร่างของคนคนหนึ่ง พอบอกว่าชื่อพีระ อ.เทพถึงบางอ้อทันที อ.เทพ เลี้ยงผีคามินอยู่ จะส่งผีตนนี้ออกตามล่า สะกดรอยผีพีระอีกทาง
และในที่สุด เมื่อมีคนโทรมาแจ้งเบาะแสจริงๆ น้ำมนต์กับพีระจึงรีบไปสืบตามแหล่งที่คนโทรบอกเข้ามา โดยผู้แจ้ง ยืนยันว่ารถคันนั้น เป็นรถของบ้านผู้หญิงที่ชื่อเมสินี คืนนั้น น้ำมนต์ไปกับพีระโผล่พรวดเข้าไปกดกริ่งหน้ารั้วบ้าน พอเมสินีออกมา ประหลาดใจ เพราะจำได้ว่าเคยเจอหน้ามาครั้งหนึ่งแล้ว น้ำมนต์บอกว่าพีระยืนอยู่ข้างๆ ตน เมสินีไม่เชื่อ น้ำมนต์ขอร้องให้ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูป เมสินีทำตามด้วยความรำคาญ แต่กลับเห็นร่างรางๆ พอดูออกว่าเป็นพีระยืนอยู่ข้างน้ำมนต์จริงๆ เมสินีก็เป็นลมล้มพับไป ละไม คนใช้ในบ้านวิ่งออกมาดู พอเห็นภาพพีระในโทรศัพท์ก็เอาแต่ร้องผีหลอก ยกมือไหว้ประหลกๆ น้ำมนต์ต้องยืนยันว่าพีระมาดี ไม่ต้องกลัว ละไมจึงจะสงบ ตั้งสติได้
ละไม กับน้ำมนต์ช่วยกันประคองเมสินีที่ยังไม่ได้สติ กลับมาปฐมพยาบาลภายในบ้าน ละไมปากโป้งโดนน้ำหลอกถามความจริง ก็จะพลั้งปากเล่า แต่ยังไม่ทันได้เล่า ยุทธ ก็กลับเข้าบ้านมาพอดี เมสินีฟื้นคืนสติขึ้น ยุทธกับเมสินีตวาดด่าให้ละไมหุบปาก แล้วเมสินีก็บีบน้ำตาร้องไห้คร่ำครวญว่าตนนั้นรักธีระศิลป์ พ่อของพีระรักพีระมากๆ เมื่อเห็นว่าทั้งพ่อทั้งลูกต่างเสียชีวิตไปแล้ว ตนทั้งเหงา ทั้งทรมานเหมือนสูญสิ้นทุกอย่าง จึงให้ยุทธ เพื่อนชายคนใหม่ย้ายเข้ามาแค่วันเดียว แต่เมสินีก็ยืนยันกับพีระที่ตนมองไม่เห็น แต่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ว่า ยุทธเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น แต่ลับหลัง ยุทธที่เบื้องหลังก็คือชายชู้ของเมสินี ยุทธบอกเมสินีว่า พีระยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อเขาจัดการเองกับมือ
ย้อนอดีต เมสินี ก็คือแม่เลี้ยงของพีระ เธออยู่กินกับ ธีระศิลป์ พ่อของพีระ ในช่วงที่พีระไปศึกษายังต่างประเทศ แต่พอคุณธีระศิลป์เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสองปีก่อน พีระก็กลับมาจากเมืองนอกเพื่อจัดการเรื่องงานศพ และรับมรดกมูลค่ามหาศาล รวมทั้งบ้านหลังนี้ เพราะคุณธีระศิลป์ มีพีระเป็นทายาทเพียงแค่คนเดียว
และเมื่อราวๆสองเดือนก่อน เมื่อคุณพีระนั่งรถไปกับเมสินี ภรรยาคนใหม่อายุราวลูกของธีระศิลป์ เพื่อไปดูที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งเป็นมรดกจากธีระศิลป์ ก็ได้เกิดอุบัติเหตุรถตกบึง และคุณพีระได้หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย จนทุกคนเข้าใจว่าคุณพีระจมน้ำ เสียชีวิตไปแล้ว
ยุทธพร้อมนึกย้อนอดีตนึกย้อน ไปถึงวันที่เมสินีหลอกให้พีระนั่งรถมาด้วย โดยมียุทธปลอมตัวเป็นคนขับรถ (ติดหนวด เครา สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ) แล้วแกล้งรถเสียบริเวณใกล้กับบึงแห่งหนึ่ง ยุทธใช้ปืนจี้พีระ บังคับให้ไปริมบึง ในบริเวณที่เปลี่ยวร้างผู้คน ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เคยสังหารธีระศิลป์นั่นเอง ในวันนั้น พีระสะบัดหลุด วิ่งหนีไปที่ริมบึง เพื่อจะโดดหนี แต่ยุทธเหนี่ยวไกยิงจนพีระตกน้ำไป ก่อนจะยืนคุมเชิงจนแน่ใจแล้วว่าพีระไม่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ และคงตายอยู่ในบึงนั้นแน่ๆ จึงโทรไปตามเมสินี มารับรู้ว่าตนได้ฆ่าพีระสำเร็จแล้ว
ตัดกลับมาเวลาปัจจุบัน เมสินีโวยว่า ยุทธทำงานไม่เรียบร้อย แต่ยุทธก็ยังยืนยันว่าตนทำดีที่สุดแล้วและรีบแก้ตัว ด้วยการฆ่าปิดปากน้ำมนต์ซะ ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เพราะขืนปล่อยไว้ สมบัติของธีระศิลป์ทั้งหมดอาจจะหลุดมือไป เมสินีสืบรู้มาว่า น้ำมนต์จะไปที่งานละครเวทีของมหาวิทยาลัย จึงกำชับยุทธ ให้ปฏิบัติการปลิดชีพน้ำมนต์ในวันนั้น
ยุทธกับเมสินี แอบซุ่มมา เมสินีแต่งตัวธรรมดานั่งเป็นผู้ชม แต่ยุทธปลอมตัวเป็น รปภ.ของโรงละคร พยายามหาทางเข้าหลังเวที
ที่หลังเวที ยุทธปลอมตัวเป็นรปภ. พกปืน ที่เอว บุกเข้ามาห้องแต่งตัว กระชากเอาน้ำมนต์ให้หันมาพร้อมยกปืนจะจ่อยิง แต่ก็ต้องช็อก เพราะกลายเป็นลูกโป่ง ที่แต่งตัวเล่นเป็นตัวประกอบ ลูกโป่งจะแจ้งตำรวจ เลยโดนยุทธเอาด้ามปืนฟาดจนสลบไป
ละครปิดฉากลง ทุกคนออกมาโค้งคำนับ ขอบคุณผู้ชม พลันมีเสียงปืนขึ้น จากยุทธที่พรางตัวเป็นรปภ.ทุกคนวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิมน้ำมนต์ อัฐชัย และพิมพ์ดาว วิ่งหนีมาด้วยกัน โดยมีพีระติดตามไปด้วย ยุทธตามไล่ล่าไป โดยมีเมสินีตามไปติดๆ การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้น ยุทธกับเมสินี ไล่ล่าหวังจะฆ่าพีระ กับน้ำมนต์ให้ได้ พีระกับน้ำมนต์ระหกระเหินหนีไปด้วยกัน โดยมีอัฐชัยกับพิมพ์ดาวติดร่างแห ตกกระไดพลอยโจนมากับเขาด้วย
ทั้งสี่ต้องหนีกันหัวซุกหัวซุน จนทุกคนบ่นที่พีระว่า เป็นผีทั้งที จะมีอิทธิฤทธิ์อะไรสักนิดต่อสู้กับเขาบ้างไม่ได้หรือ พีระเองสวนว่าจะเอาอะไรกับผม เพราะผมเองเกิดมาก็เพิ่งเคยเป็นผี เป็นแค่ผีมือใหม่ ไม่ชำนาญวิธีหลอกหลอนแสดงอิทธิฤทธิ์อะไร ที่แมนสรวงเคยสอนให้บ้างก็ยังฝักหัดไม่คล่อง
ยุทธกับเมสินี ไล่ล่าต่อไป ทั้งสี่กำลังจะจนมุมก็โดดหนีขึ้นรถปิคอัพคันหนึ่งมา คืนนั้น ทั้งสองหนีร้อนไปพึ่งเย็นโดยการหลบไปพักในวัด พีระเดินเข้าเขตวัดมา หมาก็หอนรับกันเกรียว พีระไม่สามารถเข้าศาลาไปได้ ต้องไปนั่งที่บันไดเมรุ หลวงพ่อเทียน มาพบ จัดหาที่พักค้างแรมให้ที่ศาลา โดยแยกชาย และคู่หญิง นอนคนละที่กัน
หลวงพ่อเทียนชี้ทางให้พีระย้อนความทรงจำให้ได้ โดยการนั่งสมาธิในวัด ความนิ่งสงบทำให้ภาพเก่าๆ ย้อนกลับมา พีระนึกออกจนได้ว่าตนถูกยุทธพาไปยิงทิ้งที่บึงแห่งหนึ่ง ซึ่งเส้นทางที่มาก็ผ่านวัดแห่งนี้และยังมีภาพของคนแก่คนหนึ่งซึ่งแนะนำตัวเองบอกว่า เรียกลุงว่า ลุงสน ผุดเข้ามาในภาพความคิด
รุ่งเช้า พีระกับน้ำมนต์จึงรีบมุ่งหน้าไปทางนั้น จนได้พบกับบึงแห่งเดียวกับภาพในความคิดนั้นและในที่สุด หลังจากไถ่ถามผู้คนในย่านนั้น พีระกับน้ำมนต์ก็ได้ทราบว่าบ้านของลุงสนอยู่ที่ไหน พีระกับน้ำมนต์ไปหาลุงสนถึงที่บ้าน ลุงสนประหลาดใจ เมื่อน้ำมนต์บอกว่ารู้จักพีระ และรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของพีระ ลุงสนยิ่งงง ทักว่ากลับจากโรงพยาบาลแล้วหรือ
ลุงสนเล่าย้อนให้ฟังว่า ตนได้ไปพบร่างของพีระหมดสติอยู่ที่ฝั่งริมบึง มีบาดแผนเสียเลือดไปไม่น้อย จึงเรียกชาวบ้านแถวนั้น ช่วยกันหามไปส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ โดยตนจะแวะไปเยี่ยมเยียนแทบทุกวันแต่ก็สิ้นหวัง เพราะเห็นว่านอนอยู่ร่วมเดือนแล้วยังไม่ได้สติ แต่หมอจะขอดูอาการจนครบ 2 เดือน จึงจะตัดสินใจถอนอุปกรณ์ช่วยชีวิตออก น้ำมนต์ถามว่าเมื่อไหร่จะครบ 2 เดือน ลุงสนบอกว่าก็ในวันสองวันนี้แหละ พีระถึงกับช็อกเมื่อได้ยินว่าตนมีโอกาสอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ร่างของพีระนอนไม่ได้สติ มีสายระโยงรยางค์ และอุปกรณ์ช่วยหายใจวิญญาณของพีระกับน้ำมนต์มายืนมอง น้ำมนต์ถึงกับร้องไห้ด้วยความสงสานและเห็นใจ ในขณะที่พยาบาลนางหนึ่งพอเห็นพีระแตะร่างที่นอนบนเตียง แล้วเริ่มเห็นภาพพรางๆ ขึ้นมา พยาบาลก็ขยี้ตางงๆ อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง แล้วร้องกรี๊ดตกใจ
พีระกับน้ำมนต์ ไม่รู้วิธีที่จะกลับคืนสู่ร่างเดิม จึงต้องโทรตามแมนสรวงให้มาช่วย แมนสรวงรับปากว่าจะรีบไป แต่ตอนนี้ ไปไหนไม่ได้ เพราะโดนเด็กแสบทั้งสอง คือข้าวต้ม และงอแง จับขังไว้ไนห้องเก็บของแล้วเอาสายสิญจน์พันประตูไว้ น้ำมนต์ต้องโทรไปบอกให้เจ๊แมว และแจ๊วช่วยไปแกะสายสิญจน์ ทั้งสองช่วย ทั้งที่กลัวใจจะขาด ประตูเปิดออกมา พีระกับน้ำมนต์ดีใจ นึกว่าเป็นแมนสรวง แต่ปรากฏว่าเป็นยุทธที่แต่งชุดบุรุษพยาบาลปลอมตัวเข้ามา ส่วนเมสินี ย้อนกลับพยาบาลหาทางทำลายร่างของพีระ เพื่อให้กลับเข้าร่างไม่ได้ โดยการจะวางเพลิง แต่อัฐชัยกับพิมพ์ดาวย้อนมาช่วยไว้ แต่ทั้งคู่ไม่ทราบว่าเมสินีพกปืนมาในกระเป๋าถือ แต่วินาทีที่เมสินีกำลังจะเหนี่ยวไก แมนสรวงก็ปรากฏตัวขึ้น มาจับข้อมือแย่งปืน เมสินี ที่ลั่นไก จนลูกกระสุนเฉียด ร่างของพีระไปมาอย่างน่าหวาดเสียว แมนสรวง หลอกหลอนเดินไต่เพดานห้วยหัว หลอกหลอนเมสินี จนช็อก เสียสติไป ก่อนที่หมอและรปภ.ประจำโรงพยาบาล จะมาช่วยเคลียร์สถานการณ์ไว้ เมสินีก็จิตหลุด จนเอ๋อไปซะแล้ว
ที่โรงพยาบาล หมอกำลังตัดสินใจเรื่องการถอนสายเครื่องช่วยหายใจสำหรับร่างของพีระ ที่เลยกำหนดมาแล้ว แต่อัฐชัยกับพิมพ์ดาว ก็มาขอร้องไว้ แต่เหตุผลที่ทั้งสองเล่า ทำเอาหมอและพยาบาล เข้าใจไปว่าสองคนนี้เพี้ยนตามเมสินีไปแล้ว เลยโดนพาเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับเมสินีซะ ร่างของพีระจึงอาจจะถูกถอดสายเครื่องช่วยหายใจได้ทุกเมื่อ
หลังจากค่ำคืนของการผจญผีต่างๆกลางป่าลึก พีระและน้ำมนต์ออกมาจากป่า ก็ต้องสู้ขั้นแตกหักกับ อ.เทพ และผีคามิน แมนสรวง อัฐชัยกับพิมพ์ดาวมาช่วย โดยอัฐชัยกับพิมพ์ดาวจัดการ อ.เทพ ส่วนพีระ กับแมนสรวงรวมพลังกันจัดการผีคามินอยู่หมัดจนได้ แต่ก็ยังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ยุทธก็โผล่มาพอดีการไล่ล่าจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ยุทธต้อนน้ำมนต์ มาจนมุมที่ตลิ่งสูงริมบึงแห่งนั้น ยุทธจ่อเตรียมยิงน้ำมนต์แต่พีระใช้พลังที่ต้องการปกป้องคนรัก ปรากฏตัวขวางหน้าไว้ แต่ยุทธสักยันต์เก้าทวาร ทำให้พีระทำอะไรไม่ได้ ผลักยุทธออกไป จนพลาดเหยียบขอบตลิ่งตกบึงไป แต่พีระยังมีน้ำใจ ช่วยดึงยุทธขึ้นมา แต่แทนที่ยุทธจะซาบซึ้งหรือสำนึก กลับยกปืนขึ้นยิง ไปโดนน้ำมนต์หนึ่งนัด พีระที่ยุทธมองไม่เห็น บิดข้อมือหันปืนเข้าหายุทธเอง ยุทธถอยกรูด กลัวลูกปืน จนพลาดตกบึงไป ศีรษะกระแทกหินนอนแน่นิ่ง สนองผลกรรมที่ตนเคยทำไว้ น้ำมนต์ฟุบอยู่ พีระเสียใจ คว่ำครวญบอกรักน้ำมนต์ น้ำมนต์สะดุ้งเฮือกขึ้นมาบอกฉันยังไม่ตาย แต่มันเจ็บจนพูดไม่ออก กระสุนปืนแค่ถากสีข้างไป ทำแผลที่โรงพยาบาลแป๊ปเดียวก็เสร็จ พีระจึงถามต่อว่า แล้วที่ตนบอกรักไป น้ำมนต์คิดอย่างไร น้ำมนต์อิดออดที่จะพูด แต่พีระถามย้ำว่าทีตนยังกล้าพูดเปิดเผยความในใจ น้ำมนต์จึงบอกรักบอกความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อพีระกลับไปเช่นกัน
พีระ น้ำมนต์ รีบรุกไปดูร่างของตนที่โรงพยาบาล และเมื่อพีระเห็นร่างของตนเองแน่นิ่งอยู่ แต่การกลับเข้าร่าง ไม่ง่ายอย่างที่คิด แมนสรวงให้เหตุผลว่า ร่างของพีระถูกทิ้งไว้นาน เกินวันหมดอายุแล้วอาจจะกลับเข้าร่างไม่ได้อีก
ในที่สุด หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง จนต้องใช้วิธีแผ่เมตตา และใช้จิตที่สงบ และสมาธิ เข้าช่วยพีระกลับคืนร่างของตนได้สำเร็จ ร่างทั้งสองก็กลับเข้ารวมร่างกันเป็นหนึ่งเดียว ร่างที่ป่วยหมดสติก็พลันสะอึก ฟื้นคืนสติขึ้นมา แต่ก็ฟื้นขึ้นมาในสภาพของผู้ป่วยที่ไม่ได้แข็งแรงปกติดี
น้ำมนต์ดีใจมากที่พีระฟื้น แต่กลับกลายเป็นว่าพีระที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา กลับจำน้ำมนต์ไม่ได้ ถึงน้ำมนต์จะพยายามพูด พยายามรื้อฟื้นให้พีระจำตนได้ แต่กลับไม่มีน้ำมนต์ในความทรงจำของพีระเลย น้ำมนต์เสียใจ แต่ก็ต้องถอยออกมา เพราะหมดหวังไปแล้วกับการที่จะทำให้พีระจำตนได้
แมนสรวงท้อกับมนุษย์โลก ที่สามารถทำสิ่งเลวๆ ได้ทุกอย่างเพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตน แมนสรวงเปรยว่า ตนกลับไปแล้วจะไม่ขอมาที่บนโลกใบนี้อีก แต่พอได้พูดคุยกับเอมี่เข้า ก็รู้สึกถูกคอกัน แมนสรวงกลับเริ่มรู้สึกดีๆ กับมนุษย์คนนี้ พาลชักไม่อยากกลับเข้าบ้างแล้ว
ทางด้านของอัฐชัย เมื่อไม่เห็นทางว่าน้ำมนต์จะสนใจ เขาก็ตัดใจออกมา และได้เจอกับคนหัวอกเดียวกันอย่างพิมพ์ดาวที่ก็อกหักจากพีระมาเช่นกัน ทั้งสองจึงเหมือนจะลงเอยกัน แต่อัฐชัยก็ดัน ว่อกแว่กอีกเพราะมีลูกโป่งให้ลังเลอีกราย
เวลาผ่านไป จนวันหนึ่ง พีระเดินเหินได้และแวะกลับมาเยี่ยมบ้านหลังที่ติดกับบ้านของน้ำมนต์ข้าวต้มกับน้ำมนต์ทักทายชวนคุย แต่พีระก็จำได้แต่เพียงว่าเขาเคยพบหน้าน้ำมนต์ที่โรงพยาบาล
เมื่อเพื่อนๆ น้ำมนต์ เห็นว่าน้ำมนต์ซึมเศร้า ข้าวต้มก็หงอยสุดๆ จึงหาทางช่วย ด้วยการวางแผนร่วมกับเอมี่ เพื่ออัดรายการ “คืนผจญผี” โดยจะให้น้ำมนต์ถูกสัมภาษณ์เรื่องประสบการณ์ผีของตน และยังต้องหาทางทำให้พีระได้ดูรายการสดนี้ทางทีวีให้ได้ ทั้งที่ยังกลัวๆ กล้าๆ ว่าพีระเป็นผีหรือคนกันแน่
จนคืนนั้น พีระได้ดูทีวี รายการ “คืนผจญผี” ก็ได้ยินเสียงของน้ำมนต์และข้าวต้ม ไปเล่าเรื่องผีในรายการ โดยมี อัฐชัยกับพิมพ์ดาวเป็นพิธีกร ซึ่งเรื่องที่เล่าก็เป็นเรื่องช่วงที่ได้คลุกคลีสนิทสนมกับพีระเพื่อนๆ ที่บังคับให้พีระนั่งดูทีวี ต้องผิดหวัง เพราะพีระก็ยังรื้อฟื้นความทรงจำกลับมาไม่ได้อยู่ดั
ที่หน้าบ้านน้ำมนต์ ข้าวต้มข้ามถนน ทำของเล่นที่พีระเคยทำให้ตกพื้น ข้าวต้มย้อนไปเก็บ ทำให้โดนมอเตอร์ไซค์ชน พีระช่วยอุ้มข้าวต้มไปส่งโรงพยาบาล
ที่โรงพยาบาล น้ำมนต์ร้องไห้ รู้สึกอ่อนแอ และเป็นห่วงข้าวต้ม หมอจูงข้าวต้มออกมา ได้แผลแตกที่ศีรษะ ไม่ได้กระทบกระเทือนร้ายแรงอะไร น้ำมนต์ ข้าวต้ม และพีระสวมกอดกัน เมื่อพีระได้สวมกอดทั้งสอง ภาพความทรงจำเก่าๆ ทั้งหมด รวมถึงความรัก ความรู้สึกระหว่างเขากับน้ำมนต์ และความผูกพันกับข้าวต้ม ความทรงจำของพีระจึงหวนกลับมา แต่น้ำมนต์รีบพาข้าวต้มเข้าบ้าน เพราะต้องรีบไปอัดรายการต่อ
ขณะที่ทุกคนเตรียมถ่ายรายการ คืนผจญผี ในบ้านผีสิงแห่งหนึ่ง พีระโผล่เข้ามา ทำเอาเอมี่ อัฐชัยและพิมพ์ดาวแทบช็อก นึกว่าพีระกลับมาเป็นผี พีระบอกรัก และสัญญาว่า เพื่อป้องกันว่าจะไม่ลืมเรื่องของตนกับน้ำมนต์อีก ตนจะย้ายมาอยู่บ้านตรงข้ามกันนี้ น้ำมนต์อึ้ง นึกไม่ถึงว่าจะถูกผู้ชายบอกรักในบ้านผีสิงแบบนี้ แม้กระทั่งผีในบ้านร้างนั้น ยังร่วมเป็นสักขีพยานกับการที่น้ำมนต์ตอบรับรักของพีระ
ต้องติดตามชมกันในละครโรแมนติกคอเมดี้ “คุณผีที่รัก” ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 สี และในระบบดิจิตอลทีวี ช่อง35 วันพุธที่ 20 สิงหาคม2557 เสนอให้ชมเป็นตอนแรก
1. ศรัณย์ ศิริลักษณ์ แสดงเป็น พีระ
2. พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ แสดงเป็น น้ำมนต์
3. วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล แสดงเป็น อัฐชัย
4. ภัทรานิษฐ์ วิริยะบำรุงกิจ แสดงเป็น พิมพ์ดาว
5. ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ แสดงเป็น แมนสรวง
6. ศิริพิชญ์ วิมลโนช แสดงเป็น เอมี่
7. ด.ช.อินทัช เสริมสุขเจริญชัย แสดงเป็น ข้าวต้ม
8. ด.ญ.คนดี โซว แสดงเป็น งอแง
9. ธรณสร กุมชพร แสดงเป็น ลูกโป่ง
10. มาริสา อานิต้า แสดงเป็น เมสินี
11. ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์ แสดงเป็น ยุทธ
12. กรกฎ ธนภัทร แสดงเป็น อ.เทพ ชูธง
13. ศิรวิชญ์ สังวริบุตร แสดงเป็น เกี๊ยง
14. ชาติชาย งามสรรพ์ แสดงเป็น คามิน
15. ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี แสดงเป็น แจ๊ว
16. ไปรมา รัชตะ แสดงเป็น เจ๊แมว
17. พงษ์อนันต์ หวังสิทธิเดช แสดงเป็น รปภ.เจี๊ยบ
18. เปรมกมล พาชีรัตน์ แสดงเป็น หลวงพ่อเทียน
19. มนัสนันท์ กองแก้ว แสดงเป็น ละไม
20. ไกรลาศน์ เกรียงไกร แสดงเป็น ลุงสน
21. ทนงศักดิ์ ศุภการ แสดงเป็น ธีระศิลป์
ขอบคุณที่มา ผู้จัดการออนไลน์