“เลขาฯแพทยสภา” เตรียมเรียก “คนโพสต์-เจ้าของคลินิก” เสริมหล่อ-เสริมสวยให้ “คู่กรณี” ของดาราสาว “แพท-ณปภา” มาสอบสวน หลังถูกเม้าท์สนั่นโลกออนไลน์ “โฆษณาแฝง-โอ้อวดเกินจริง”
หลังเกิดกระแสข่าวคลิปวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน โดยหนึ่งในนั้นมีนางเอกสาว “แพท-ณปภา” ร่วมด้วย โดยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี “เบญ-เบญจวรรณ” ที่ไม่พอใจหลานสาวของแพท รวมถึงปัญหากับอดีตคนรัก “แจ็ค-ธนพล” ที่ได้ออกมาพูดถึงนางเอกสาวแพทอีกด้วย โดยในเวลาต่อมาเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมระหว่าง “แจ็ค” กับ “แพท” ว่าเป็นคู่ไม่เหมาะสมกันอีกด้วย
จากนั้นไม่นาน มีเพจผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรม ออกมาโปรโมทว่า จะทำศัลยกรรมให้กับคู่กรณีของดาราสาวคือ “เบญ-เบญจวรรณ” ฟรี เพราะถูกค่อนขอดว่า หน้าตาไม่สวย กระทั่งมีแฟนเพจแจ้งว่า “แจ็ค” และ “เบญ” ได้เดินทางไปทำศัลยกรรมที่คลินิกของผู้เชี่ยวชาญคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการโฆษณาแฝง ขายบริการเสริมดั้งจมูก เพราะมีการระบุชื่อ “แพทย์” พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หากใครอยากจะทำ จะมีราคาพิเศษให้นั้น
ต่อมาเพจผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรมรายดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า “Botox ด้วยค่ะ ที่จัดให้ทั้งคู่ เดี๋ยวดูผลครั้งนี้ก่อน ถ้ายิ่งมีคนจวกเพิ่ม ป้าจะยิ่งเติมออฟชั่นให้ เอาให้คนจวก กระอักเลือดตายด้วยความอิจฉาไปเลย ^^ ยิ่งโดนด่า ยิ่งได้รับ”
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผย “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า กรณีที่เกิดขึ้น หากมีการร้องเรียนเข้ามา ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ระหว่าง “คนที่โพสต์” กับ “คลินิกดังกล่าว” ที่มีการโฆษณา ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกร้องเรียน ต้องให้เขามาชี้แจงก่อน แต่หากให้การปฏิเสธ ก็ต้องมาดูข้อมูล หลักฐาน และใช้ดุลยพินิจในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม การจะนำเรื่องของกระบวนการจริยธรรมมาเกี่ยวข้อง จะต้องมีคณะกรรมการจริยธรรมเข้ามาสอบสวน และต้องมีการสรุปประเด็นเนื้อหาก่อน ถึงจะได้เรียกบุคคลที่ถูกกล่าวหามาสอบ ไม่ใช่อยู่ ๆ จะบอกว่าเขาผิดเลยไม่ได้ ต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้ หากประชาชนเห็นว่าอะไรเข้าข่ายต้องสงสัย หรือมีการพูดโอ้อวดเกินจริง สามารถแจ้งมาได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา ที่เปิดไว้ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาอยู่แล้ว