ที่มา: doctor

นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม

ภาพ   โดดเด่นดอทคอม

เลือดกำเดาไหล สำหรับบางคนอาจไม่น่ากังวล แต่เราไม่ควรละเลย เพราะถ้าเลือดกำเดาไหลผิดปกติ ต้องรีบดูแลรักษา

โดย เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com ) รายงานว่า ภาวะเลือดกำเดาไหล เกิดจากหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเยื่อบุจมูกฉีกขาด

ทำให้เลือดไหลออกจากจมูกข้างเดียวหรือ ๒ ข้างก็ได้ ในเด็กและผู้ที่มีอายุน้อยมักออกจากส่วนหน้าของจมุก แต่ถ้าเลือดออกส่วนหลังของจมูก มักพบในผู้สุงอายุ สาเหตุของเลือดกำเดาไหลมี ๒ กลุ่มใหญ่คือ

กลุ่มแรก เฉพาะที่บริเวณจมูก ได้แก่ การบาดเจ็บต่อจมูกเป็นสาเหตุของเลือดกำเดาที่พบได้บ่อยเกิดจากการถู แคะ สั่งน้ำมูกแรงๆ ได้รับอุบัติเหตุบริเวณศรีษะและกระดูกใบหน้า

Man having sinus pain

การเปลี่ยนแปลงความกดอากาศอย่างรวดเร็ว เช่น การขึ้นเครื่องบิน การอักเสบในช่องจมูก เช่น การเป็นหวัด เป็นโรคภูมิแพ้ เนื้องอกบริเวณจมูก ไซนัสและโพรงหลังจมูก

ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีเลือดกำเดาไหลปริมาณมากๆ หรือเป็นซ้ำๆ การผิดรูปของผนังกั้นช่องจมูก รวมทั้งภาวะอากาศเย็น ความชื้นต่ำทำให้เยื่อบุจมูกแห้ง มีเลือดไหลออกจากจมูกได้ง่ายขึ้น

กลุ่มที่สอง เกิดจากโรคอื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งทำให้ผนังของหลอดเลือดแข็ง เปราะ มักพบในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังพบในภาวะการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ เช่น โรคตับเเข็ง โรคเลือดต่างๆ

การรักษา ให้ผู้ป่วยเงยหน้าขึ้นใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือบีบจมูกทั้ง ๒ ข้างให้แน่นประมาณ ๕-๑๐ นาที ให้หายใจทางปากแทน นอนพัก ยกศรีษะสูง นำน้ำแข็งมาประคบบริเวณหน้าผากหรือดั้งจมูกประมาณ ๑๐ นาที ถ้าเลือดไม่หยุดควรไปพบแพทย์

หลังจากเลือดกำเดาหยุดไหลภายใน ๑ – ๒ วัน ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก การยกของหนัก การเล่นกีฬาที่หักโหมหรือกลางแดด เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้อีก

สำหรับผู้ป่วยที่กินยาแก้ปวด ควรหลีกเลี่ยงยาแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด เพราะยาเหล่านี้จะทำให้เลือดไหลง่ายกว่าปกติ

ควรกินอาหารที่มีวิตามินเคสูง ซึ่งพบในผักใบเขียวทุกชนิด ผักกาดขาว แครอต น้ำมันตับปลา ตับ เนยแข็ง ไข่ขาว ถั่วหมัก จะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น

Man with Allergies, Full or Cold Blowing His Nose

เรื่องน่าสนใจ