วอชิงตันโพสต์รายงานวันที่ 13 ก.ย. ว่าเกิดโศกนาฏกรรมกับเด็กน้อยผู้อพยพอีกครั้ง เมื่อเรือขนส่งผู้อพยพพลิกคว่ำและจมลงนอกชายฝั่งเกาะฟาร์มาโกนิซี ประเทศกรีซ ใกล้พรมแดนประเทศตุรกี เป็นเหตุให้ผู้อพยพเสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย ในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก ประกอบด้วยทารก 4 ราย เป็นเด็กชาย 6 ราย และเด็กหญิง 5 ราย
เหตุดังกล่าวซ้ำรอยเหตุสะเทือนใจก่อนหน้านี้ที่ศพเด็กชายไอย์ลาน เคอร์ดี ชาวซีเรีย อายุ 3 ขวบถูกคลื่นซัดมาเกยหาดในประเทศตุรกี หลังจากหนูน้อย พี่ชายอายุ 5 ขวบ และแม่เสียชีวิตพร้อมกันในเหตุเรือล่ม มีเพียงพ่อเด็กที่รอดตาย
วันเดียวกัน รัฐบาลเยอรมนี ชาติยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่เปิดรับผู้อพยพมากกว่าประเทศใดๆ ประกาศใช้มาตรการควบคุมชายแดนฉุกเฉินฝั่งติดพรมแดนประเทศออสเตรีย เพื่อชะลอการทะลักเข้ามาของผู้อพยพ ทั้งที่เดิมเยอรมนีเป็นประเทศที่เปิดพรมแดนมาอย่างเสรีมาหลายสิบปี แต่ในเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีผู้อพยพทะลักเข้าไปแล้ว 40,000 คน จนต้องปรับการรับมือหาที่พักและความช่วยเหลือให้ทันการณ์ มาตรการดังกล่าวยังตอกย้ำภาวะวิกฤตของยุโรปที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์แล้ว และยังไม่มีวี่แววจะยุติลงโดยง่าย