ที่มา: ข่าวสด

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายถูกคนร้ายใช้โซ่มัดติดกับรถจักรยานยนต์ร้องขอความช่วยเหลือ เหตุเกิดบริเวณถนนสายทางหลวงชนบท บ้านทุ่งแฝก-โคกป่าแพง หมู่ 7 ตำบลกบินทร์ หลังรับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

14397861871439786875l

พบนายพิชัย อ่างพาศรี อายุ 42 ปี อยู่หมู่ 6 ตำบลย่านรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ในสภาพถูกโซ่รถรัดคอติดกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นฟีโน่ สีฟ้า ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กค-6678 ปราจีนบุรี และล็อกด้วยกุญแจ เห็นแล้วน่าเวทนา ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ได้นำคีมตัดเหล็กตัดเอาโซ่ออกจากคอ อยู่ในสภาพอิดโรยหมดแรง

จากการสอบถามนายพิชัย เปิดเผยว่า ตนได้ออกจากบ้าน ที่บ้านตรอกปลาไหล ตำบลย่านรี เมื่อเวลา 05.00 น. เพื่อจะนำเงินมาใช้หนี้ญาติที่อยู่บ้านทุ่งแฝก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. ขณะที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสายดังกล่าว เห็นวัยรุ่นชาย-หญิง น่าจะเป็นแฟนกัน อายุประมาณ 18-20 ปี สวมหมวกไหมพรม สีดำ ปิดบังใบหน้า เดินจูงรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

14397861871439786889l

ด้วยความหวังดี จึงจอดถามว่า “น้ำมันหมดเหรอ” จากนั้นทั้งสองคนก็แสดงตัวเป็นคนร้ายทันที กระโดดล็อกคอตนพร้อมกับเอามีดจี้ จากนั้นก็ได้ลากตนพร้อมกับรถจักรยานยนต์เข้าไปในป่าลึกข้างทาง เข้าไปประมาณ 30 เมตร และขู่บังคับให้ปลดทรัพย์สินออกมา ด้วยความกลัวตาย จึงได้ล้วงเงินในกระเป๋ากางเกงที่มีอยู่จำนวน 1,300 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือโนเกีย 1 เครื่อง ส่วนรถจักรยานยนต์ ตนได้โยนลูกกุญแจทิ้งเข้าป่าไปก่อนหน้านั้น

จากนั้นคนร้ายก็เอาโซ่รถจักรยานที่เตรียมมาคล้องคอตน และมัดติดกับรถจักรยานยนต์ก่อนล็อกด้วยกุญแจ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งมาขึ้นรถจักรยานยนต์พร้อมกับแฟนสาวที่รออยู่ข้างนอก ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาตนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่ผ่านไปมา แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน จากนั้นจึงช่วยเหลือตัวเองด้วยการเข็นรถจักรยานยนต์ออกจากป่าอย่างทุลักทุเล ขณะที่คอยังคาโซ่ติดอยู่

นายอำนาจ กำเนิดกุล อายุ 55 ปี ชาวบ้านที่มาพบคนแรก เปิดเผยว่า หลังจากเห็นเหตุการณ์จึงได้โทรศัพท์แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และตนเห็นนายพิชัยกำลังเข็นรถจักรยานยนต์ที่ยังมีโซ่ติดรัดกับคออยู่พร้อมกับรถจักรยานยนต์ ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ จึงได้เข้าไปช่วยเหลือนำออกมาจากป่าข้างทาง ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานผู้พบเห็นและรูปพรรณคนร้าย รวมทั้งหลักฐานที่เป็นโซ่รถจักรยาน และภาพจากกล้องวงจรปิดจาก อบต.กบินทร์ ที่ติดไว้ เพื่อจะได้ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บริเวณดังกล่าวเป็นถนนเปลี่ยว มีป่ารกทึบ 2 ข้างทาง สภาพมืดไม่มีไฟส่องสว่าง คนร้ายมักจะก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งยังนำศพที่ถูกฆ่ามาจากที่อื่นมาทิ้งเพื่ออำพรางคดีด้วย

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ