กลายเป็นบทเพลงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับเพลง “ใจสลายที่ราชประสงค์” ของร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ “เสก โลโซ” หรือ “เสก-เสกสรรค์ ศุขพิมาย” ซึ่งเจ้าตัวบรรจงจรดปลายปากกาแต่งเพลงนี้ขึ้นเพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ “ระเบิด” ที่แยกราชประสงค์ ล่าสุด “เสก โลโซ” มาเปิดใจถึงแรงบันดาลใจในการแต่งนี้ในรายการ “ข่าวช่อง 2” ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ซึ่งฟังแล้วก็ได้แต่บอกว่าซาบซึ้งจริงๆ
แต่งเพลง ใจสลายที่ราชประสงค์ ?
“หลายคนอาจจะเห็นในคลิปที่ผมแต่งเพลง วันที่เกิดเหตุ (ระเบิด) ผมอยู่ที่ สปป.ลาวก็ไปคุยเรื่องธุรกิจเบียร์ ตอนที่เกิดเหตุผมนั่งกับลูกน้องอยู่ พอได้ทราบข่าวแล้ว เราก็รู้สึกสะเทือนใจมาก ยิ่งสิ่งที่เกิดคราวนี้ เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่ารุนแรงที่สุด ตั้งแต่ประเทศไทยเราเป็นประเทศมา ได้เกิดการ ไม่ได้เกิดการซัดกันเอง อันนี้ผมคิดคนเดียวนะครับ มีความรู้สึกว่าอยากแต่งเพลงใจสลายที่ราชประสงค์ให้กับพี่น้อง ประชาชนคนไทยที่เชื่อเหลือเกินว่าพอเกิดเรื่องแล้วก็คงจะหวั่นไหวน่าดูว่าความปลอดภัยในชีวิตนั้นมีมากน้อยแค่ไหน ผมเองแต่งในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง แล้วก็เป็นนักเขียน นักคิด คือเกิดเหตุผมประชุมกับลูกน้องจนถึงตี 4 หลับตี 5 ตื่นขึ้นมา ผมเป็นคนนอนน้อยมาก ตื่นมา 7 โมงกว่า ทานข้าวแล้วก็ออกมาจาก สปป.ลาว พอมาถึงบ้านก็เขียนเลย คือในหัวมีแค่คำว่าใจสลายที่ราชประสงค์ เพราะเนื่องจากผมเล่นเฟชบุ๊คแล้วก็ไปอ่านเจอข้อความอันหนึ่ง ซึ่งเด็กเล็กเขารู้สึกว่าเขาพลัดพลากจากแม่เขา ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดรู้สึกว่าแม่เขาเสียชีวิตหรือเปล่าไม่แน่ใจ เขาไม่เจอแม่เขา ผมก็เริ่มต้นจากอันนั้น จากความคิดว่าถ้ามีใครคนหนึ่งที่มีแฟน อันนี้ทำให้เป็นเพลงรัก ผมมีความรู้สึกว่าเพลงรักเป็นเพลงที่ทำให้คนหมู่มากแล้วก็ แฟนเพลงผมเขาถึงได้ง่ายกว่า ผมเขียนเพลงรักสมมุติขึ้นมา”
ชื่อเพลงฟังแล้วสะเทือนใจมากเลย ?
“ผมเป็นคนชอบเขียนกลอน ราชประสงค์ สลาย ใจสลาย หลาย กับราช ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าใครที่สูญเสียความรักไปคงใจสลาย แล้วผมก็ได้เห็นภาพที่ลูกน้องไลน์ไปให้ผมดู มีทั้งหัวขาด ระบิดแบบจะๆ สิ่งเหล่านี้ถ้าเป็นเราก็คงจะใจสลาย”
แต่งนานแค่ไหนเพลงนี้?
“ครึ่งชั่วโมง แล้วผมก็อัดตรงนั้นเลยวิธีทำงานของผมทำง่ายมาก ผมก็ให้ทีมงานถ่ายจากโทรศัพท์ผมแล้วก็โพสต์ลงไป”
จุดประสงค์ของเพลงนี้ อยากบอกอะไรกับคนฟัง?
“เพลงเพลงนี้เป็นเพลงรักก็จริงอยู่ แต่ว่าถ้าเป็นนักคิดก็คงคิดได้ว่าเพลงนี้บอกถึงการสูญเสียของเหตุการณ์มที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่สูญเสียเฉพาะชีวิตเท่านั้น มันสูญเสียความมั่นใจ เฮ้ยเราอยู่ประเทศที่ศิวิไลซ์แล้วนะ ประเทศที่พัฒนาแล้ว มันไม่ได้เกิดที่…ผมพูดตรงๆ ว่ามันไม่ได้เกิดที่ถิ่นธุรกันดาน มันเกิดขึ้นมที่ราชประสงค์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยนะครับ ทุกคนก็มาจัดงานที่นั่น ต่างๆ นานา สิ่งที่สำคัญคือมันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ด้วย เป็นศาลพระพรหมด้วย คนทำก็ใจร้ายมาก”
อยากบอกอะไร?
“เราเองก็ทะเลาะเบาะแว้งกันมานานมาก ผมเป็นคนที่คิดบวกมาก ผมเชื่อเหลือเกินว่าเหตุการณ์นี้ทำให้คนไทยรักกันมากยิ่งขึ้น อันนี้ความคิดของผมเองคนเดียว ใครจะเชื่อไม่เชื่อ ผมมมีความคิดว่าคนที่เสียชีวิต 20 ใช่ไหมครับ และคนที่บาดเจ็บควรจะเป็นวีระบุหรุษของประเทศเราด้วยซ้ำไป ควรจะทำเป็นป้ายใหญ่ๆ แล้วก็บอกว่าผู้ที่เสียชีวิตเหล่านี้มีค่าอย่างมาก ผมเชื่อเหลือเกินว่าคนไทยก็กลับมาคิด นี่เราทะเลาะกันมาตั้งนานแล้ว แล้ววันหนึ่งเราก็หันกลับมามองว่าเราควรจะรักกัน จุดประสงค์อีกอีกอันหนึ่งคืออยากให้คนไทยรักกัน แล้วหันมาฟังเพลงนี้ แล้วบอกเนี่ยเราสูญเสียมาก ปวดร้าวมาก”
ฟีดแบคเป็นไงบ้าง ?
“ก็จุดประสงค์ของผมไม่ได้หวังว่าผมจะต้องมีชื่อเสียง เพราะผมมีชื่อเสียงอยู่แล้ว พูดหยาบๆ เลย ผมก็พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง สิ่งที่ผมทำนั้นหลายคนคงจะทราบดี ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรก็แล้วแต่ ผมต้องเข้าไปร่วม เนื่องจากผมมีความเป็นคนอยู่ แม้ว่าผมจะมีความเลวความอะไรบ้าง ผมก็มีความเป็นคนอยู่ เพราะฉะนั้นเรื่องต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตผม ผมมีหัวใจ มีความรู้สึกที่เป็นห่วงมวลมนุษย์ด้วยกัน ฟังดูเหมือนจะโอเว่อร์ แต่มันเป็นเรื่องจริง ผมมีความรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้ผมควรรับรู้ด้วย อะไรที่ผมช่วยเหลือได้ซักเล็กน้อยก็ยังดี”
เห็นว่าที่จีนจจะเอาไปแปลเป็นภาษาจีน ?
“ผมยังไม่ทราบเลย ผมต้องขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องประชาชนชาวจีนด้วนะครับที่เสียชีวิตที่ราชประสงค์ในครั้งนี้ ผมอยากจะบอกท่านว่าสิ่งที่ทุกคนเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ ผมเองก็ไม่รู้จะ… ผมเองก็คงจะเป็นตัวแทนของประเทศพูดไม่ได้ สิ่งที่ผมจะพูดเป็นความรู้สึกของผม ขอบคุณทุกชีวิตที่ทำให้เราหันกลับมามองคนไทยด้ววยกัน อยากให้ทุกคนรักกัน ชีวิตของท่านมีค่ามาก ขอบระคุณอย่างมากครับ”
ความรู้สึกถึงพี่น้องชาวจีน ?
“พี่น้องชาวจีนผมต้องรู้สึกเสียใจด้วย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งกับการสูญเสียของครอบครัวของชาวจีนนะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ชอบเพลงกันนะครับ”
จะได้ฟังเพลงเวอร์ชั่นเต็มไหม ?
“พอเพลงเสร็จแล้วก็ได้เชิญนักดนตรีของเราทั้งหมดมาอัดเสียง ตอนนี้มันบันทึกเสียงไปได้ 30-40% แล้ว พรุ่งนี้เช้าผมจะให้ฟังเป็นเวอร์ชั่นเต็ม ซึ่งได้คุณโก้ แซ็กแมน อันนี้ก็ต้องขอบคุณโก้ มาเป่าแซ็กให้ แล้วก็มีน้องสีไวโอลินแล้วก็นักดนตรีของโลโซทั้งหมด ตอนนี้อยู่ที่บ้านผม”
จะปล่อยเพลงนี้ยังไง ?
“ผมจะให้ดาวน์โหลด อันนี้ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ผมสั่งลูกน้องไปคุยกับสถานีทีวีอยากจัดคอนเสิร์ตสักอันหนึ่ง คอนเสิร์ตในสตูดิโออะไรก็ได้นะเพื่อแสดงความรู้สึกเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้
ผมจะบอกว่าเราคงไม่ได้จัดคอนเสิร์ตขาย แล้วหาเงินไปช่วยใครเนื่อจากว่าสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้เอาเงินไปช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติสิ่งที่สคัญที่สุดไม่ใช่เอาเงินไปช่วยเขา ผมว่าเรื่องของกำลังใจมากกว่าที่มีมูลค่ามากกว่าเงินมาก สิ่งที่จะเยียวยาผู้สูญเสียนั้นเรื่องของกำลังใจมากกว่า และความเชื่อมั่นที่คนในประเทศนี้จะอยู่ ไอ้คนที่ระเบิดจะไม่ระเบิดบ้านกูอีกนะ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำให้เขาเชื่อมั่นว่าเขาอยู่เดินที่ราชประสงค์ได้อย่างปลอดภัย”
อยากบอกอะไรคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ?
“ผมว่าเขาด่ากันไปหมดแล้ว ผมคงไม่มีอะไร ก็เลวร้ายมากกับการ คุณทำกับมนุษย์อย่างนี้เลวร้ายเป็นอย่างมาก”
อยากทำอะไรอีก ?
“คงทำอันนี้อีกันเดียว ผมไม่ได้ทำคนเดียว ผมทำคนเดียวไม่ได้ ก็คงจะเชื่อเชิญท่านอื่นๆ มาด้วย ผมให้ชื่อคอนเสิร์ตว่า ออ ฟอ วัน แอด ราชประสงค์ ก็คือรวมเป็นหนึ่งที่ราชประสงค์ ผมอยากให้หัวใจไทยมาหล่อหลอมเข้าด้วยกัน แล้วก็บอกว่าเหตุกาณณ์นี้เกิดขึ้นที่ราชประสงค์ ผมอยากทำให้ อยากบอก เนื่องจากทั่วโลกเขาก็คงจับตามองอยู่ในชีวิตการเป็นศิลปินของผมนั้น ผมเชื่อว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง”
ขอถามเรื่องศาล เรื่องฟ้องร้องหน่อย ?
“เรียบร้อยแล้วครับเมื่อเช้าผมก็ไปจัดการมาเรียบร้อยแล้ว สบายใจดี ไปไกล่เกลี่ยมา ไปพบ ผอ มาแล้วเรียบร้อย”
ตกลงกันได้ด้วยดี ?
“อ๋อ ไม่ตกลงครับ ผมอยากเจอแค่ ผอ แค่นั้นเอง ผอ เขาก็มาขอโทษผมอย่างเรียกว่าก็พอที่จะ ในส่วนของสถาบันธัญลักษ์ก็พอที่จะลดความแรงลงไปได้ เพราะว่าเขามาขอโทษด้วยความจริงใจ สิ่งที่ผมต้องการคืออยากให้ ผอ มาขอโทษผม อยากให้วิโรจน์มาขอโทษผม แล้วเขามาขอโทษผมจริงๆ แล้วเขาก็พูดด้วยความจริงใจ เพราะฉะนั้นผมก็รู้สึกว่าโอเค ส่วนของหมอก็โดนเหมือนเดิม”
เห็นว่ายังต้องมีนัดไกล่เกลี่ยอีก ?
“ผมไม่ไกล่เกลี่ยแล้ว ผมจะให้ทนายผมไปไกล่เกลี่ย เมื่อเช้าผมก็แจกกล้วยมันไปทีหนึ่ง ที่ศาลเลย ผมไปเมื่อเช้า”
มีข่าวว่าพรุ่งนี้จะไป ?
“ผมไม่ไป ผมไม่มีทางไปครับ”
มันเกิดอะไรขึ้นวันนี้ ?
“มันไม่กล้ามาเจอผม มันนั่งห้องติดกันแต่มันไม่กล้ามาเจอผม ไม่รู้มันกลัวอะไรผมก็ไม่รู้”
