ที่มา: kapook ที่มา: thaiza ที่มา: rlin

หน้าฝน นอกจากปัญหาเรื่องสุขภาพแล้ว เหล่าแม่บ้าน-พ่อบ้านก็มักมีปัญหาเกี่ยวกับ “กลิ่นอับชื้น” ในเสื้อผ้า ที่มักทำให้สูญเสียความมั่นใจเมื่อใส่ เพราะฝนที่ตก จนบางทีอาจลืมเก็บเข้าบ้าน แม้จะซักซ้ำแล้วก็ตาม

pretty woman in the rain

ปัญหาผ้าเหม็นกลิ่นอับไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศอับชื้น เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การหมักผ้าที่มีความชื้นหรือเก็บผ้ายังแห้งไม่สนิทไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็อาจจะก่อปัญหาได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หน้าฝน” มักทำให้เสื้อผ้าชื้นจนเกิดกลิ่นอับ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ของเราเลยก็ว่าได้ ยิ่งตอนที่เราสวมใส่แล้วเหงื่อออก ไม่ต้องพูดถึง ฉะนั้นเราก็ควรหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหา

Woman sweating very badly under armpit

วิธีป้องกัน

ง่ายมาก แค่อย่าหมักผ้าทิ้งค้างคืนไว้ หรือ เก็บผ้าที่ยังไม่แห้งเข้าตู้เสื้อผ้าเด็ดขาด การซักผ้าในหน้าฝนนี้ ควรเปลี่ยนพฤติกรรม จากปกติที่จะรวบรวมผ้าไว้ปริมาณหนึ่งเพื่อซักทีเดียว มาเป็นซักปริมาณไม่มากนักแต่ให้บ่อยขึ้น อย่าลืมว่าเรามีพื้นที่ในร่มที่จำกัดสำหรับการตากผ้า และเสื้อผ้าอาจไม่แห้งได้ง่าย ๆ

 

และเมื่อถึงในขั้นตอนตากผ้า ควรช่วยให้ผ้าแห้งที่สุดก่อนการตาก เช่น หากซักด้วยเครื่อง ควรใช้ระบบปั่นผ้าปั่นให้แห้ง สะบัดผ้าหลาย ๆ ครั้ง และตากโดยใช้ไม้แขวน เว้นระยะให้ห่างกันสักหน่อย เพื่อให้โดนลมอย่างทั่วถึง (ไม่โดนแดด โดนลมก็ยังดี) หรือถ้าต้องการให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น บางท่านอาจใช้พัดลมเป่าก็ได้ตามอัธยาศัยเลยจ้า

11297914_10153361142680419_302182729_n

อีกอย่าง ควรเลือกใช้ผงซักฟอกที่มีคุณสมบัติลดกลิ่นอับ แม้ไม่มีแดด และน้ำยาปรับผ้านุ่ม แค่นี้ก็ทำให้เสื้อผ้าของเรา ไร้กลิ่นอับสวมใส่ก็มีความมั่นใจมากขึ้น

วิธีแก้ไขกลิ่นอับผ้า

1. เบคกิ้งโซดา หรือผงฟู มาเป็นผู้ช่วยในการขจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้า เพียงผสมผงฟู 3-4 ช้อนลงในน้ำ 1 กะละมัง นําผ้าลงแช่สักครู่ หรือจะลองแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนก็สามารถทําได้ ถ้ากลัวว่ากลิ่นอับจะยังติดทน แล้วค่อยซักตามปกติ จากนั้นอาจจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มผสมในน้ำสุดท้ายด้วยก็ได้ เท่านี้ก็เรียบร้อย แต่คําเตือนก็คือ เสื้อผ้าที่บอบบางมากๆ อาจไม่เหมาะกับวิธีการนี้

2. น้ำส้มสายชู ถ้าจะนำผ้าไปซักอีก ครั้ง ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงลงไปกับน้ำยาซักผ้าด้วย หรือถ้าผ้าที่คุณซักเป็นผ้าขาว จะผสมน้ำยาฟอกขาวลงไปแทนน้ำส้มสายชูก็ได้ แต่สำหรับผ้าหนา เช่น ผ้าเช็ดตัว หรือผ้ายีนส์ อาจจะนำผ้าเหล่านี้ไปแช่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วงตวงต่อน้ำ 1 แกลลอน หรือน้ำยาฟอกขาว สัก 2-3 ชั่วโมงก่อนนำไปซักตามปกติ และใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม

หากเสื้อผ้ามีเชื้อราด้วย มีวิธีแก้คือ

1. มะนาวและเกลือ ถ้ามีเชื้อราเป็นจุดดำ ๆ เกิดขึ้นบนเสื้อผ้า ให้คุณบีบน้ำมะนาวลงบนคราบจนชุ่ม จากนั้นก็โรยเกลือทับลงไปบนคราบ แล้วก็นำผ้าไปตากแดดให้น้ำมะนาวและเกลือแห้งสนิทก่อนจะนำไปซักตามปกติ

2. น้ำสบู่และผงปูนขาว ถ้าน้ำมะนาวเอาไม่อยู่ อาจจะชุบผ้าตรงที่มีเชื้อราเป็นจุดดำ ๆ ให้พอเปียก แล้วก็นำสบู่ไปถูบนคราบให้ทั่ว เสร็จแล้วก็นำผงปูนขาวไปโรยลงบนคราบ ขัดถูอีกสักหน่อยแล้วค่อยนำไปซักตามปกติ หรือถ้าเชื้อราติดฝังแน่นบนเสื้อผ้ามาก ให้คุณผสมน้ำสะอาด 2 ช้อนชา กับผงปูนขาว 1 ช้อนชา และผงซักฟอก 2 ช้อนชาเข้าด้วยกัน ก็จะได้ครีมเหนียว ๆ เอาไว้ป้ายลงบนจุดเชื้อราสักพัก จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำเสื้อผ้าไปตากแดดจัด ๆ ให้แห้งสนิท

3. แป้งผสมน้ำมะนาว แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนชา นำมาผสมกับน้ำ 2 ช้อนชา และน้ำมะนาวครึ่งลูกกับเกลือ คนให้เข้ากัน แล้วนำมาป้ายลงบนผ้าที่มีเชื้อราทั้ง 2 ด้าน แล้วก็นำไปตากแดดจัด ๆ ให้แห้งสนิท จากนั้นนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติก็จะช่วยให้เชื้อราและกลิ่นอับหมดไปได้เช่น กันจ้า

4. นมเปรี้ยว ผ้าที่มีกลิ่นอับไปแช่ในนมเปรี้ยว ทิ้งเอาไว้ข้ามคืน แล้วค่อยนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ

เห็นไหมล่ะว่ากลิ่นอับบนเสื้อผ้ากำจัดง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถกำจัดเชื้อราบนเสื้อผ้าเราได้อีกด้วยเนอะ

เรื่องน่าสนใจ