หลังจาก www.dodeden.com ได้นำเสนอข่าวหัวข้อ เสี่ยงตาย ! ร้านค้า โวยห้าง Siam square 1 สะเพร่าปล่อย “แก๊สไข่เน่า”ไปแล้วนั้น ( http://www.dodeden.com/40811.html ) ล่าสุดในโลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการร้องเรียนปัญหากลิ่นเน่าเหม็นภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์
ห้างดังค่าก๊าซไข่เน่าเกินมาตรฐาน อย่างน่ากลัว
โดยระบุว่า มีกลิ่นเหม็นเน่าอันมาจากสารเคมีในการก่อสร้างตกแต่งของทางห้างฯ กลิ่นของเสียจากห้องน้ำ และกลิ่นขยะ โดยทางผู้เช่าร้านค้าได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหานี้มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาดูแล ทำให้กลุ่มผู้เช่าร้านค้าปิดป้ายประกาศเกี่ยวกับปัญหามลพิษภายในห้าง แต่กลับถูกทางห้างนำแผ่นไม้อัดมาตีกรอบปิดทับเพื่อปกปิดความจริง
ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกบอกเล่าผ่าน คุณสมาชิกหมายเลข 827981 ในชื่อกระทู้ ห้างสยามสแควร์วัน มลพิษและการบริหารงานสุดแย่ของห้าง ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้…
วันนี้ผมมีเรื่องของห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์วันจะมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟัง ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดห้างจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเอารัดเอาเปรียบของห้างฯ กับทางผู้เช่า และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องมลพิษของห้างฯ ทั้งกลิ่นที่เกิดจากการก่อสร้างตกแต่ง กลิ่นจากห้องน้ำ (ปัสสาวะและอุจจาระ) กลิ่นขยะ กลิ่นอาหารบนชั้น 4-5 ครับ
ซึ่งกลิ่นดังกล่าวเมื่อรวมตัวกันจะทำให้เกิดเป็นก๊าซไข่เน่าหรือก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ และสารเคมีจากการก่อสร้างตกแต่งภายในห้างที่ไม่ได้มีการควบคุมที่ดี ส่งผลให้สารเคมีตกค้างอยู่ในอาคารและถูกปล่อยมาตามระบบปรับอากาศส่งผลให้ของต่าง ๆ และอุปกรณ์ภายในร้านได้รับความเสียหาย
เผื่อบางคนงงว่าห้างฯ นี้อยู่ตรงไหน ถ้าใครพอจะจำได้ พื้นที่ตรงนี้เป็นโรงหนังสยามเก่าที่ถูกเผาทำลายไปในช่วงที่บ้านเมืองเราวุ่นวายในช่วงปี 2553 ตอนนี้พื้นที่ตรงนี้ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นห้าง 7 ชั้น บนพื้นที่ 8 ไร่ ริมถนนพระราม 1 อยู่ตรงข้ามสยามพารากอนและติดกับ digital gateway ภายใต้การดูแลของสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ห้างนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 5 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา โดยได้มีการเร่งรัดให้ผู้ประกอบการเข้าไปเปิดร้าน โดยบังคับว่าหากไม่เปิดตามกำหนดในวันที่ดังกล่าวจะริบสิทธิคืน และเมื่อผู้ประกอบการทั้งหลายเริ่มทยอยเปิดร้านตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2557 ปรากฏพบว่าทางห้างฯ ยังตบแต่งไม่แล้วเสร็จ
แถมยังมีร้านอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตบแต่งหรืออยู่ในระหว่างตบแต่ง ทำให้เกิดฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศทางเสียงซึ่งมีการตัดอ็อกเชื่อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเวลาทำการและนอกเวลาทำการของห้าง ประกอบกับการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และระบบบำบัดและระบบกรองอากาศที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในชั้นใต้ดินและชั้น 1 ของห้างมีกลิ่นเหม็นออกมาทางท่อแอร์ตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน ทางกลุ่มผู้เช่าได้ยื่นจดหมายร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดออกมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา กทม. โดยกรมอนามัย ได้เข้ามาตรวจวัดค่ามลพิษภายในอาคาร ผลการตรวจสรุปได้ว่าในตัวอาคารมีก๊าซไข่เน่าหรือก๊าซไนโตรเจนซัลไฟด์ สูงตั้งแต่ 10-83 ppm เปรียบเทียบกับการวัดค่าภายนอกอาคารที่วัดได้ไม่ถึง 4 ppm
เกิดอาการผื่นแดง และตุ่มตามตัวของผู้สัมผัสก๊าซไข่เน่า
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่กรมอนามัยยังแจ้งอีกว่าไม่ควรจะมีก๊าซไข่เน่าภายในอาคาร ผลพวงจากมลภาวะภายในอาคารส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่มาเดินในอาคาร เจ้าของร้านค้าที่มาขายของในอาคารนี้ มีหลายคนป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจาก ต้องสูดดมกลิ่นและมลพิษในอาคารมาเป็นเวลา 5 เดือน โดยไม่มีการแก้ไขใด ๆ
จนถึงปัจจุบัน ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่รับผิดชอบ ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทางกลุ่มผู้เช่าร้านค้าในห้างฯ ได้รวมตัวและติดประกาศเกี่ยวกับปัญหามลพิษภายในอาคารให้คนภายนอกได้รับทราบ แต่ทางห้างฯ ใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือ สั่งการปิดร้านค้าที่เอากระดาษมาแปะที่กระจกร้าน เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในห้างฯ โดยการเอาไม้อัดแผ่นใหญ่มาปิดครอบร้านค้าไว้ เพื่อปกปิดความจริงที่จะถูกเปิดเผย
แต่ทางเจ้าของร้านค้าและกลุ่มผู้เช่า รับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว จึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจปทุมวัน และร้องเรียนไปยังช่อง 3 ให้ช่วยเสนอข่าวเกี่ยวกับมลพิษภายในห้างฯ และการถูกเอารัดเอาเปรียบของห้างฯ
ช่วยแชร์ต่อ ๆ กันเยอะ ๆ นะครับ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องและเจ้าของห้างฯ ออกมารับผิดชอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขอบคุณครับ”
และภายหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตมาร่วมแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งบอกด้วยว่าจากประสบการณ์ที่เคยไปเดินห้างนี้ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าจริง ๆ แนะนำให้ผู้ค้ารวมตัวฟ้องร้อง เนื่องจากทางผู้บริหารห้างไม่สนใจรับผิดชอบ ซึงเรื่องนี้คงต้องรอฟังคำชี้แจงจากทางห้างดังกล่าวว่าจะจัดการปัญหานี้ต่อไปอย่างไร
ที่มา กระปุก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
www.dodeden.com