ถือเป็นเรื่องปกติไต่ระดับเข้าขั้นได้รับความนิยมมากมาย จนหลายคนเรียกขานว่าศัลยกรรมฟีเวอร์…!!!
หมอบี – นพ.ฉัตรพงษ์ ศาสตรสาธิต หมอศัลยกรรมรุ่นใหม่ที่น่าจับตา เจ้าของ นิรินดา S คลินิกไฮโซด้วยมาตรฐานจะมาแนะนำวิธีเท่าทันการศัลยกรรม
เราจะมาเท่าทันการศัลยกรรมด้วยกัน…!! นพ.ฉัตรพงษ์ ศาสตรสาธิต โดยจะสะท้อนความน่าเชื่อถือศัลยกรรมในเมืองไทยว่า ปัจจุบันมีมือทำศัลยกรรมเก่งๆอยู่หลายท่าน ที่มีจบโดยตรงทางด้านศัลยกรรม แต่ก็ใช่ว่าจะมีคุณหมอทุกท่านที่จบด้านนี้แล้วมาทำวงการนี้
“ต้องยอมรับ เพราะว่าโดยกฎหมาย เขาไม่ได้บังคับ ถ้าคนไข้ต้องการศัลยกรรมให้ออกมาดี ก็ต้องดูว่าหมอที่คนไข้เลือกนั้นจบทางไหนมา อันนี้คือความน่าเชื่อถือ คนที่ไม่ได้จบโดยตรงมันก็มีค่อนข้างเยอะ เพราะว่าด้วยเรื่องของตลาดทำให้คนสนใจทำธุรกิจนี้กันเยอะ อันนี้ก็ต้องศึกษากันหน่อย ในการตัดสินใจ อย่าดูที่ราคาเป็นหลัก เพราะคนไทยชอบดูราคาเป็นหลัก ถูกไปก็ไม่ดี แพงไปก็ไม่ใช่ ความจริงแล้วมันจะอยู่ตรงกลาง ถ้าคุณหมอที่มาตรฐาน ราคาก็จะสแตนดาร์ดเช่นกัน
ยกตัวอย่างราคาในการทำศัลยกรรมว่า การทำจมูก อาจจะราคาประมาณ 10,000-30,000 บาท ถือเป็นราคากลาง ถ้าเป็นแสนคือราคาที่ผิดปกติ และมันก็มักจะอยู่ในที่ๆ ผิดปกติ ส่วนการทำตา ราคาจะประมาณ 8,000-20,000 บาท ถ้าเป็นการเสริมหน้าอก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท เพราะฉะนั้นอย่าดูราคาเป็นหลัก
1. ของถูก มันถูกจริง แต่ว่ามันไม่คุ้ม เหมือนซื้อของปลอม และ
2. แพงมากๆก็ดีมาก ขอบอกเลยว่า ไม่จริง เพราะว่าเขาใช้กลไกของราคามาเป็นการตลาดในการโฆษณา คือถ้าเขาโอเคจริง เขาคงไม่ใช้กลไกเหล่านี้
ถามถึงมาตรฐานของหมอศัลยกรรมไทยกับหมอเกาหลี ซึ่งได้รับความนิยมอยู่ขณะนี้ไม่ได้…?หมอบีก็บอกว่า แน่นอน แต่คนไม่แน่นอนมันเข้ามาทำให้มาตรฐานมันไม่แน่นอน ถามว่าคนเลยแห่ไปศัลยกรรมที่เกาหลี มันเหมือนเป็นเทรนด์ ใช่ เขาก็ไม่ได้เก่งกว่าเรา
“ถ้าพูดถึงเรื่องจมูก เอาง่ายๆ รูปจมูกคนเกาหลี และญี่ปุ่นได้เปรียบกว่าของเรา ตรงปลายจมูกเขาจะไม่บานเหมือนเรา เพราะฉะนั้นการปรับรูปจมูกนิดเดียวก็สวยแล้ว เวลาเรามองอย่าไปมองดาราเกาหลีโอเค มีเปอร์เซ็นต์เยอะที่ว่าเขาอาจจะทำอะไรนิด ทำอะไรหน่อย ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้ดี แต่ถ้าลองมองดาราเมืองไทยก็สวยหล่อเหมือนกัน แต่คนไทยต้องปิด เพราะคนไทยนิสัยไม่ดี ชอบว่าคนอื่น อันนี้มันเป็นวัฒนธรรมสังคมเรา สมมติคุณเสริมจมูกมา คุณถามเพื่อนคุณ 100 คน จะมีสัก 70 คน ที่ว่าจมูกคุณเอียง ทั้งที่มันไม่เอียง ในขณะเดียวกันถ้าเพื่อนคุณไปเสริมมา คุณก็ไปดูว่า เฮ้ย! จมูกแกเอียงรึเปล่า (หัวเราะ) มันเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีของเรา คนเกาหลีถ้าทำดีเขาก็จะไปบอกต่อเพื่อน แต่คนไทยทำมาก็บอกดัดฟัน หรือแค่ผอมลงเอง ทั้งที่ไปทำมา”
บางคนก็ยังไม่ยอมรับว่าเขาทำ…? คุณหมอบอกว่าใช่ ส่วนใหญ่เขายังรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี เขาถึงยังไม่ยอมรับ คนไทยชอบว่าไม่ได้สวยแต่กำเนิด แต่ปัจจุบันนี้สวยด้วยแพทย์กันเยอะ
“ถามว่าน้อยใจไหม ก็นิดๆ มันเป็นชื่อเสียงประเทศชาติ คือการที่เราจะสนับสนุนการมาทำศัลยกรรม มันก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในด้านนี้ให้ประเทศของเราได้ คือตอนนี้น้อยกว่าที่ญี่ปุ่นและเกาหลี แต่การยอมรับมันก็ดีขึ้น ตัวดาราเองกับเพื่อนเขา เขาก็เปิดได้ แต่กับสื่อทั่วไปอาจจะยังปิดอยู่ รอจังหวะสวยงามค่อยเปิด ส่วนคนไข้ทั่วไป เขาก็บอกเพื่อนได้ว่าไปทำมา มันก็เปิดมากขึ้น”
ก็เข้าตำราคนไทยไม่ยอมรับแต่ก็อยากทำศัลยกรรม?
“ก็ อยากสวย อยากหล่อทั้งนั้น แต่ติดที่ว่าสวยธรรมชาติเท่านั้น สวยธรรมชาติรู้สึกไม่ค่อยมีแล้วล่ะเดี๋ยวนี้ ง่ายๆสมมติคนที่เดินผ่านไปผ่านมา มันมีคนที่เราเห็นว่าเขาหน้าตาดีเยอะแยะ มีหลายเปอร์เซ็นต์ที่สวยหล่อแบบไปทำศัลยกรรมมาแต่เราไม่รู้ ในส่วนของภาพจำ ถ้าเขาทำศัลยกรรมมาแบบไม่ดี ไม่เหมาะกับเขา มันก็เห็นชัด เราก็ไปจำว่าทำมาแล้วต้องเป็นอย่างนี้ ซึ่งหลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเราไม่รู้อีกเยอะ นั่นคือเขาทำมาดี
ทำไม บางคนออกมาดี บางคนออกมาแย่? มือมีดบอกว่า ถ้าบอกตรงๆคือมันขึ้นอยู่กับรสนิยมของหมอด้วย เพราะคอนเซปต์บิวตี้ของหมอแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณไปเปลี่ยนรสนิยมเขาไม่ได้หรอก การมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน
สุดท้ายกับกรณีคนไข้ พอถูกเพื่อนทักว่าไม่ดีบ้าง เบี้ยวบ้าง ไม่สวยบ้าง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจก็อยากจะไปทำอีก แก้อีก ทำเพิ่ม ทำไม่จบสิ้น มันเลยกลายเป็นเสพติดศัลยกรรมรึเปล่า?
มันไม่มีคำว่าเสพติดศัลยกรรมหรอก มันเป็นความไม่พอใจในสิ่งที่ทำมามากกว่า ไม่หยุดซะที อยากสวยอีกไปเรื่อยๆ
ฟังผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีแบบนี้แล้ว ที่เหลือ ทำหรือไม่ทำศัลยกรรม อยู่ที่ตัวคุณเลือก ก็เลือกให้ดีๆ แล้วกัน.
*ประวัติ*
นพ.ฉัตร พงษ์ ศาสตรสาธิต ประวัติการศึกษา – แพทย์ศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) คณะแพทย์ศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปี2539 ,วุฒิบัตรศัลยศาสตร์ทั่วไป ปี2545 และวุฒิบัตรศัลยศาสตร์ตกแต่ง ปี2547
ประสบการณ์ การทำงาน -แพทย์ใช้ทุนแผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 3ปี ,แพทย์ประจำบ้านภาควิชาศัลยกรรมทั่วไปและศัลยกรรมตกแต่ง 5ปี คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปัจจุบันทำงานเป็นแพทย์ประจำ กลุ่มงานศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลเจริญกรุงปรัชารักษ์และแพทย์ที่ปรึกษาแผนกศัลยกรรมตกแต่ง นอกเวลา ที่โรงพยาบาลสมติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลปิยะเวท โรงพยาบาลบางปะกอก 1และ3
เครดิต www.thairath.co.th
