ผู้สื่อข่าว เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม รายงานว่า นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือการพัฒนาระบบบริการคลินิกไตวายเรื้อรัง ( CKD Clinic )กั บ ProFessor Adeera Levin ประธานสมาคมไตนานาชาติ และให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังของไทย ได้แก่ ศ.นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ว่าที่ประธาน ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
ผศ.นพ.เกรียงศักดิ์ วารีแสงทิพย์ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย นพ.สกานต์ บุนนาค ประธานร่วมคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการ สาขาโรคไตวายเรื้อรัง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังของประเทศไทย
โดยประธานสมาคมไตนานาชาติ ได้กล่าวชื่นชมกระทรวงสาธารณสุขที่ได้พัฒนาระบบบริการผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นต้นแบบ เช่น “คลองขลุงโมเดล” จ.กำแพงเพชร ที่ในการดูแลครอบคลุมทั้งการป้องกัน รักษา ฟื้นฟูสามารถนำไปเป็นแบบอย่างในเวทีโลกได้
นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ได้นำเสนอผลการดำเนินงานการพัฒนาระบบบริการคลินิกไตวายเรื้อรังของไทย พร้อมความร่วมมือระหว่างองค์กรวิชาชีพกับกระทรวงสาธารณสุขด้านโรคไตเรื้อรัง
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบาย จัดการปัญหาโรคไตย้อนไปสู่ต้นน้ำหรือต้นปัญหาคือเบาหวานและความดันโลหิตสูง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนคือโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยให้กลุ่มโรคไตวายเรื้อรังเป็น 1 ในกลุ่มโรคสำคัญในระดับชาติที่ต้องได้รับการจัดการแก้ไข มีคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการ ( service plan )สาขาไตขับเคลื่อนเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังคือ คลินิกไตวายเรื้อรัง ( CKD clinic) ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากแนวคิดของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ปรับรูปแบบให้เข้ากับระบบสาธารณสุขไทย ร่วมกับการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จนได้นวัตกรรม “คลองขลุงโมเดล” จ.กำแพงเพชร ที่ออกแบบให้มีการบูรณาการกับระบบการดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ เป็นต้นแบบนำไปใช้ทั่วประเทศ ขณะนี้ดำเนินการในโรงพยาบาล 797 แห่ง มีเป้ามายสำคัญคือการป้องกันโรคไต และชะลอความเสื่อมไต
ข้อมูลการศึกษาของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยพบว่าประชากรไทยร้อยละ 17.5 หรือ 8.5 ล้านคน ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง แนวโน้มความชุกของผู้ป่วยโรคไตเรื้้อรังระยะสุดท้าย (End Stage Kidney Disease) ที่รักษาโดยวิธีบำบัดทดแทนไต ( Renal Replacement Therapy ) เพิ่มขึ้นปีละ 15-20 เปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 70,000 คน ซึ่งเป็นภาระทั้งผู้ป่วยและรัฐใช้งบประมาณปีละมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปีและเพิ่มขึ้นทุกปีสาเหตุสำคัญของโรคไตวายเรื้อรังคือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคไตคือโรคหัวใจและหลอดเลือด