นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 6 พฤศจิกายน 2559 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 8 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึงร้อยละ 60 ที่มี 5 ราย
ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงที่สุนัขติดสัด จึงมีโอกาสเสี่ยงเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแพร่ระบาดในกลุ่มของสุนัขง่ายขึ้น และคนมีโอกาสติดเชื้อหากถูกสุนัขที่มีเชื้อกัด กรมสบส.ได้ประสานประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในระดับประเทศ ภาค เขต จังหวัด และอำเภอ ขอให้เครือข่ายอสม.ทั่วประเทศซึ่งมี 1 ล้าน 4 หมื่นกว่าคน เฝ้าระวังสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆในชุมชนที่เสี่ยงเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
พร้อมทั้งให้ความรู้ประชาชนให้นำสัตว์เลี้ยงในบ้านได้แก่ สุนัข แมว ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยสามารถฉีดในลูกสุนัขอายุตั้งแต่ 2-3 เดือนขึ้นไป และต้องฉีดทุกปี ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันโรคนี้ดีที่สุด เชื้อพิษสุนัขบ้านี้หากติดคนและมีอาการป่วย จะเสียชีวิตทุกราย
ด้านนายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สังคมไทยขณะนี้ มีคนโสด และมีผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น จึงนิยมเลี้ยงสุนัขหรือแมวเป็นเพื่อน เป็นลูกแทน ซึ่งเป็นความใกล้ชิดผูกพัน ช่วยคลายความเหงา ต้องนำสัตว์ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี
แม้ว่าจะไม่ได้ปล่อยไปไหนก็ตาม เพราะมีโอกาสติดเชื้อโรคได้จากการยื่นปากไปกัดกับสัตว์อื่นนอกบ้าน และส่วนใหญ่บุคคลที่รักสัตว์มักจะขาดความระมัดระวัง เมื่อถูกสัตว์กัด ข่วน หรือเลีย คิดว่าไม่เป็นอะไร โดยเฉพาะกับลูกสุนัขเพราะคิดว่ายังเด็กไม่มีเชื้อโรค จึงทำให้ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจนป่วยและเสียชีวิต
ขอเรียนว่าเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าที่อยู่ในน้ำลายของสัตว์สามารถเข้าสู่ร่างกายคนทางบาดแผล รอยถลอก รอยขีดข่วน ริมฝีปาก หรือนัยน์ตาได้ ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนยึดความปลอดภัยไว้ก่อน หากถูกสัตว์กัดหรือเลียให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ที่แผลเพื่อขจัดเชื้อออกจากแผลให้ได้มากที่สุด
จากนั้นให้ทายาฆ่าเชื้อและพบแพทย์เพื่อปรึกษาเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และห้ามรักษาแผลที่ถูกกัดหรือข่วนด้วยสมุนไพรหรือแพทย์แผนโบราณเด็ดขาด เนื่องจากไม่สามารถรักษาอาการโรคได้
ทางด้านสัตวแพทย์หญิงเสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย นายสัตวแพทย์เชี่ยวชาญ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า โดยทั่วไปสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะมีลักษณะเด่นที่สังเกตได้ง่าย ดังนี้ ลิ้นห้อย น้ำลายไหล หางตก แววตาน่ากลัว เดินโซเซ ทรงตัวไม่ได้
โดยมีอาการแสดงให้เห็น 2 แบบ คือ แบบดุร้าย สัตว์จะหงุดหงิด ไล่กัดคนและสัตว์อื่น หรือกัดโซ่-กรงหากกักขัง และแบบเซื่องซึม จะมีอาการป่วยเหมือนสัตว์สัตว์เป็นโรคอื่น ทำให้สังเกตได้ยาก มักหลบไปนอนในที่เงียบๆ ไม่แสดงอาการดุร้าย จะกัดคนหรือสัตว์เมื่อถูกรบกวน
เช่น เมื่อเอาน้ำ เอายาหรืออาหารไปให้ หากประชาชนพบเห็นสัตว์ที่มีอาการตามที่กล่าวมา ขอให้แจ้งสำนักงานปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออสม. ในพื้นที่ เพื่อดำเนินการป้องกันควบคุมโรคโดยทันที