นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยหลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประชาชนเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย
ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 6 ธันวาคม 2559 พบผู้ป่วยแล้ว 160,505 ราย เสียชีวิต 43 ราย ภาคกลาง 25,352 ราย เสียชีวิต 14 ราย ภาคเหนือ 31,714 ราย เสียชีวิต 4 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 32,548 ราย เสียชีวิต 21 ราย และในรายที่มีอาการรุนแรงอาจจะพบโรคปอดบวมร่วม
นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ในการดูแลสุขภาพช่วงหน้าหนาวนี้ ขอให้ประชาชนดูแลความอบอุ่นของร่างกาย เริ่มตั้งแต่การรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ขอแนะนำพืชสมุนไพรรสเผ็ดร้อน เช่น พริก ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด กะเพรา โหระพา แมงลัก ผักชี กระเทียม หอมแดง ฯลฯ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และช่วยให้อาการหนาวชาบริเวณปลายมือและปลายเท้าลดลง
นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำสมุนไพรรสร้อนคือ น้ำขิง โดยการนำขิงแก่มาต้มแล้วเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง หรือน้ำขิงในรูปแบบสำเร็จรูปชงดื่ม จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ และรับประทานผัก ผลไม้ สมุนไพรรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ใบชะมวง ยอดผักติ้ว สับปะรด มะขามป้อม มะแว้งต้น มะแว้งเครือ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ หรือนำมาปรุงเป็นอาหาร
เช่น ไก่ผัดขิง ผัดกะเพรา ต้มยำปลา แกงไตปลา แกงส้มดอกแค แกงข่าไก่ หรือเมนูอาหารอื่นๆ ที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรรสเปรี้ยว รสเผ็ดร้อน และรสขมเล็กน้อย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานประเภท เนื้อพร่า ปลายำต่างๆ หรืออาหารที่ปรุงไม่สุก เพราะจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว ควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญคือการรักษาความอบอุ่นร่างกาย สวมเสื้อกันหนาว ห่มผ้าหนาๆ ใช้กระเป๋าน้ำร้อน ช่วยเพิ่มความอบอุ่นร่างกาย ไม่ดื่มเหล้าแก้หนาว เพราะเสี่ยงหัวใจวาย เสียชีวิตได้ นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวในที่สุด