แพท ณปภา ขอบคุณชาวเนตที่แชร์เรื่องตัวเอง ทำให้ได้รับรางวัลลูกกตัญญู ส่วนอาการแม่เดินไม่ได้ จำอะไรไม่ได้ แต่ยิ้ม หัวเราะได้ปกติ
ดาราสาวคนสวย แพท ณปภา ได้เข้ารับรางวัลลูกกตัญญู เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ต้องดูแลแม่ที่ป่วย ด้วยโลกอัลไซเมอร์ แบกรับภาระครอบครัวกว่าเดือนละ 3 แสน ซึ่งในโลกโซเชี่ยวก็มีการตั้งคำถามว่า สาวแพท ได้รับรางวัลลูกกตัญญูหรือยัง?? วันนี้ต้องเรียกได้ว่า ความร่วมมือร่วมใจของชาวโซเชี่ยวที่ช่วยกันแชร์เรื่องของสาวแพท ก็ได้บรรลุผล เมื่อสาวแพทได้รับรางวัลลูกกตัญญูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสาวแพทยังได้ขอบคุณทุกๆคนที่ได้ช่วยแชร์เรื่องของเธออีกด้วย
จริงๆต้องขอบคุณนะคะ ที่ให้รางวัลดีๆแบบนี้ และที่ต้องขอบคุณจริงๆคือโลกโซเชี่ยวที่แชร์เรื่องราวของแพท มีคนถามว่าเห็นหรือยัง ในเฟสบุ๊คนี่เยอะมากจริงๆ ก็ไปดูว่าอะไรยังไง สุดท้ายแล้วก็เหมือนกระแสโซเชี่ยวที่ตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงยังไม่ได้ อยากจะฝากขอบคุณนะคะสำหรับใครหลายๆคนที่ให้กำลังใจมาตลอด และที่ทำให้แพทได้รับรางวัลในวันนี้
จริงๆอยากจะฝากถึงรางวัลแบบนี้ ไปให้กับหลายๆคน ที่เราเห็นว่าเค้าดูแลครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเป็นดาราก็ได้ค่ะ เป็นใครก็ได้ ที่เค้าดูแลครอบครัวเค้า อย่างล่าสุดที่แพทเห็นน้องคนหนึ่งที่ดูแลคุณแม่ที่เป็นอัมพาต น้องเค้าได้ไป แพทก็ดีใจ และอยากให้มีแบบนี้ให้กับน้องๆแบบนี้บ้าง จะได้เป็นกำลังใจให้เค้าจะได้ไม่ท้อ
ส่วนเรื่องเปรียบเทียบกับบางคนที่ มีกระแสว่าไม่สมควรได้รับรางวัลนี้
แพทพูดตรงๆนะคะ ว่าทุกคนมีมุมของความกตัญญูอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะเห็นหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่สมควรหรือเปล่า แพทมองว่าทุกคนสมควรที่จะได้ เพียงแต่จะเป็นเวลาไหนแค่นั้นเอง
สอบถามถึงอาการคุณแม่ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้คุณแม่อารมณ์ดี ก็เดินไม่ได้ จำอะไรไม่ได้ แต่สามารถทานได้ หัวเราะได้ ยิ้มได้ ร่าเริงได้ตามปกติ ก่อนออกมาก็ได้บอกแม่แล้วว่าจะมารับรางวัลแล้วจะไปตั้งที่หัวเตียงให้ เป็นรางวัลของคุณนะ ไม่ใช่ของเรา แต่เค้าไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ก็ยิ้มหัวเราะค่ะ
ตอนนี้คุณแม่ก็ไปหาหมอทุกๆ 3 เดือน ไม่ต้องไปทุกอาทิตย์แล้วเพราะคุณแม่เดินทางลำบาก ยังดูแลและกินยาเรื่องสมอง อัลไซเมอร์ กระดูก ก็ดูแลกันไปเรื่อยๆ พี่ๆคนไหนว่างก็เค้ามาเยี่ยม
ผู้ใหญ่เอ็นดูป้อนงานมากขึ้น
แต่มันก็ไม่ใช่แค่ความเอ็นดูแล้วมันได้ ก็ต้องดูตัวละคร ความเหมาะสมด้วย ความเอ็นดูเป็นส่วนหนึ่ง ด้วยกระแสรอยรักด้วย ก็ดูงานเยอะนิดนึง
เรียบเรียงเนื้อหาโดย www.dodeden.com
ขอบคุณ สำนักข่าว นิวส์พลัส
