ที่มา: Posttoday

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพรวา อดีตเยาวชนที่ขับรถยนต์เก่งชนรถตู้โดยสารจนมีผู้เสียชีวิต 9 คน ได้เดินทางมาที่ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม พร้อมผู้ปกครอง เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ 

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า น.ส.แพรวา ได้มาแสดงความประสงค์ขอทำงานบริการสังคม ด้วยการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ต่อไปอีก 48 ชั่วโมง ตามคำสั่งศาล สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้น น.ส.แพรวา จะต้องไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลอนุญาต เนื่องจากแต่เดิมนั้น ศาลได้มีคำสั่งนัดไต่สวนในวันที่ 21 มิ.ย.นี้

98

“เบื้องต้นรู้สึกพอใจที่ผู้ถูกคุมความประพฤติจะปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ และคำสั่งของศาลอย่างครบถ้วน ขั้นตอนต่อไป หากศาลอนุญาตแล้ว กรมคุมประพฤติจะทาบทามให้ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นภาคี และมีหนังสือส่งตัว น.ส.แพรวา อย่างเป็นทางการ เพื่อให้เข้าไปดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้ครบ 48 ชั่วโมงที่เหลือ โดยเร็วที่สุด โดยจะมอบหมายให้พนักงานคุมประพฤติเข้าไปให้คำแนะนำและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป” พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้พิพากษาให้ น.ส.แพรวา จำคุก 2 ปี รอลงอาญา 4 ปี ให้บำเพ็ญประโยชน์ภายใต้การควบคุมของกรมคุมประพฤติจำนวน 144 ชั่วโมง ให้บำเพ็ญประโยชน์ปีละ 48 ชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้ น.ส.แพรวาได้ไปบริจาคเลือด 6 ชั่วโมง เท่ากับเหลือ 138 ชั่วโมง ส่วนที่เป็นปัญหาคือไปบำเพ็ญประโยชน์ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎฯที่ไม่ได้ประสานกรมคุมประพฤติ 90 ชั่วโมง วันที่ 11 ม.ค.- 12 ก.พ.ที่ผ่านมา เท่ากับเหลืออีก 48 ชั่วโมง และจะครบกำหนดวันที่ 31 ส.ค.นี้ตามที่ศาลสั่ง

ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ศาลจะพิจารณไต่สวนวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ว่าจะนับรวมที่บำเพ็ญประโยชน์ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎฯด้วยไหม  ส่วนกรณีหากถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ จะครบกำหนดที่ศาลสั่ง หากยังบำเพ็ญประโยชน์ไม่ครบ ในตัวอย่างกรณีจำเลยที่ผ่านๆมา ศาลอาจจะสั่งจำคุกได้ เนื่องจากได้ให้โอกาสในการรอลงอาญาและให้บำเพ็ญประโยชน์ไปแล้ว ขึ้นอยู่ดุลพินิจศาล

เรื่องน่าสนใจ