นักแสดงหนุ่ม “ตงตง กฤษกร หรือ ตงตง เดอะ สตาร์ 12 เพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์ระทึกขวัญมาหมาดๆ ซึ่ง “ตงตง” เปิดเผยเรื่องราว สุดสยองมากๆ ว่า ในเรื่องของการขับรถ เพราะผมเพิ่งขับรถหมุนอยู่บนทางด่วนมา 6 รอบ คือปกติผมจะขับรถซูซูกิ สวิฟ และวันนั้นผมจะไปดูหนังรอบกาล่าหนังฉลาดเกมส์โกง ของนนกุล คือกำลังจะไป และพอดีมีรถกะบะขับมาชนข้างหลังผม และรถผมก็เด้งไปชนรถพ่วงข้างหน้า
ตอนนั้นก็คิดว่าผมคงตายไปแล้วแน่ๆ แต่โชคดีที่ไม่ได้กระทบกระเทือนมาถึงข้างใน ผมก็เลยเอารถคันนี้ไปเคลมประกัน แล้วไปยืมรถเพื่อนมาใช้ซึ่งเป็นเบนซ์ และวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ผมกำลังจะไปร่วมงานกาล่า 10 ปีรัชดาลัย กำลังจะไปจากมหาวิทยาลัย และฝนตกมาก ผมก็ต้องขึ้นทางด่วนตรงเชียงราก เป็นช่วงที่มีพายุ ซึ่งก็ขับไปปกตินะ และขับไปได้สักพัก น้ำมันก็เข้ามาในล้อ
พอผมได้ยินเสียงล้อ มันก็หมุนไปเลย ผมมีสติจึงไ้ด้เหยียบเบรค ครั้งแรกหมุนก่อน ก็ไปชนกับขอบทางด่วนด้านขวา เสียงดังปัง(ทำหน้าตื่นเต้น) ซึ่งผมก็คิดว่าเราไม่รอดแล้วแน่ๆ และมันก็หมุนต่อปังที่สองเข้าขอบทางขวาอีก และมันก็หมุนอีก จนหมุนไปชนขอบทางฝั่งซ้าย และโชคดีตรงที่ว่าตอนที่หมุนอยู่นั้น ไม่มีรถคันอื่นขับตามมา
และที่โชคดีไปอีกขอบซ้ายที่ผมไปหยุดนั้นมีรั้วลวดหนามขึ้นมา และข้างล่างเป็นคลอง ซึ่งอีกนิดเดียวก็จะตกอยู่แล้ว และดีตรงที่มันเป็นเบนซ์ ซึ่งถ้าเป็นรถคันเก่าที่เพิ่งไปชนมานั้น ผมคงตายไปแล้ว”ตงตงกล่าวด้วยท่าทางยังตื่นตระหนก
นอกจากนี้เจ้าตัวยังกล่าวเสริมว่า “ผมมั่นใจได้เลยว่าไม่ได้ขับเร็วเลย เพราะฝนตกหนักมาก และมีพายุเข้า ขับประมาณ 70-80 กม. เอง บวกกับว่าก่อนที่น้ำจะเข้าล้อ มีรถมามาปาดผม จนทำให้ต้องเหยียบเบรค มันยิ่งทำให้ล้อฟรี คือเคยศึกษามาว่าถ้าน้ำเข้าล้อ เราต้องเหยียบเบรคให้มันผ่อนๆ แต่คือตอนนั้นมีสติเหยียบเบรคได้ก็ดีแล้ว ใครจะมีสติว่าจะต้องหยียบเบรคแบบผ่อนๆ ล่ะ
ตอนนั้นที่มันหมุน 6 รอบ ผมคิดว่าผมตายแหละ คือผมไม่ได้นั่งนับหรอก แต่ตอนนั้นผมมีสติ และก็รู้ว่ามันหมุนกี่รอบ มีสติจนลงรถไป ตอนแรกก็ไม่กล้าออกจากรถ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่รู้ว่ารถเบนซ์พอมันชัตดาวน์ตัวมันเองไปแล้ว ต้องเริ่มต้นยังไง และฝนก็ตกหนักมาก มันเป็นอุบัติเหตุที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตแล้ว และพอรถมันขยับไม่ได้ ระบบมันปิด ก็เลยตัดสินใจเปิดกูเกิ้ล ว่าทำยังไงกับสถานการณ์นี้
เขาบอกใ้ห้ลองดับรถ และสตาร์ทใหม่ และก็ไม่กล้าสตาร์ทรถ เพราะกลัวว่าหม้อน้ำมันจะระเบิด เลยตัดสินใจโทรหากรมทางด่วน 4-5 คัน สรุปหม้อน้ำไม่เป็นไร แต่พวงมาลัยมันค้าง แต่ล้อมันยังตรง ผมก็ต้องขับแบบนี้ ลงจากทางด่วนเพื่อไปเคลมประกัน และที่พีคกว่านั้นประกันรถของพี่ผมเพิ่งหมด ผมเลยต้องรับผิดชอบทั้งหมด”ตงตงกล่าวอย่างอารมณ์ดี
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุสิ่งแรกที่นึกถึงคือเรื่องอะไร “ตอนนั้นที่เราคิดว่าเราตายแล้ว ภาพในหัวตอนนั้น ก็คิดถึงแม่เลย คิดว่าเรียบร้อยตายแน่ 100% เพราะนี่หนักที่สุดในชีวิตแล้ว ที่ผมคิดว่าที่เราโดนแบบนี้ เพราะเราไม่ได้ทำบุญด้วยล่ะ
ก่อนหน้าเราก็ไปฮ่องกง และก็ไปเที่ยวมาเก๊า ในเมื่อเราไปเที่ยวแล้ว เราก็เลยแวะเข้าไปเล่นขำๆ ที่มาเก๊า และพอดีมันมีโชค ซึ่งพอกลับมาเมืองไทย ก็เอาเรื่องนี้มาเล่าให้พี่บอย (ถกลเกีรยติ วีรวรรณ)ฟัง เล่าให้คนโน้นคนนี้ฟัง พี่บอยก็เตือนก่อน 3 วัน ที่มันจะเกิดอุบัติเหตุว่า บางครั้งคนเรา เวลาได้โชคใหญ่ๆมา ก็ควรแบ่งเอาเงินไปทำบุญบ้าง
และตอนนั้นยุ่งๆ ทั้งงานทั้งเรียน ไม่เกิน 3 วัน ผมก็ประสบอุบัติเหตุหมุนรถนี่แหละ (หัวเราะ) และก็เลยเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เลยไปดูดวง เขาก็เลยแนะนำให้ผมไปทำบุญโรงศพ ไปเทน้ำมันตะเกียง และคืนนั้นผมก็ไปวัดหัวลำโพงเลย ไปบริจาคโลงศพ และก็ไปซื้อน้ำมัน ที่จะถวายที่ขวดใหญ่สุด (ยิ้ม) 2 ขวดใส่ในตะเกียง
ซึ่งถ้ามีใหญ่กว่านั้น ผมก็จะซื้อนะ และแม่เล่าให้ฟังอีกว่า คนที่เขาดูดวงให้ เขาบอกว่าตัวผมมีองค์พระพิฆเนศคุ้มครอง ซึ่งผมก็ไม่รู้นะ และเขาก็ยังบอกอีกว่าในห้องผมมีพระพิฆเนศด้วยใช่ไหม ซึ่งเรื่องนี้ แม่ก็ไม่รู้เลยว่าในห้องมีอะไรบ้าง คนดูดวงก็ยังบอกว่าพระพิฆเนศองค์นี้แรงมาก ไม่ได้กำเนิดที่ไทย ซึ่งผมก็ได้มาจากแหล่งของท่านเลย เขาก็เลยแนะนำ ว่าเราไม่ได้อัญเชิญท่านเข้าห้อง และอาจจะบูชาท่านไม่ถูกวิธี ซึ่งถ้าเราดูแลไม่ได้ ให้เอาออกซะ ซึ่งเราก็คิดว่าเราทำงานสายนี้ เราควรบูชาท่านตามหลักที่ถูกวิธี ให้บูชาทุกวันอังคาร ให้เปลี่ยนน้ำ”ตงตงกล่าว
เครดิตภาพจาก twitter.com/hashtag/ตงตง