แม้ว่า Transformers:Age of Extinction จะโดนจวกยับเละเทะไม่มีชิ้นดีจากบรรดาผู้ชมหลายคนและนักวิจารณ์ถึงความไม่ไปไหนของพล็อตเรื่อง แต่เมื่อหันกลับมามองเรื่องตัวเลขรายได้ของหนังแล้วสตูดิโอพาราเมาต์คงไม่ปิดฉากหุ่นยนต์แปลงร่างได้ไปง่ายๆแน่ เพราะเมื่อรวมยอดรายรับรวมจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้วหนังโกยเงินไปทั้งสิ้น 1091 ล้านเหรียญ จากต้นทุนในการสร้าง 210 ล้านเหรียญ เรียกได้ว่ากำไรเกือบ 4 เท่าตัว
แต่สิ่งที่สตูดิโอพาราเมาท์ต้องทำการบ้านให้หนักเลยก็คือเสียงตอบรับของมหาชนว่าถ้ายังดันทุรังเข็นพล็อตไม่มีอะไรที่น่าสนใจไปมากกว่าเดิมและยังขายแต่ฉากวินาศสันตะโรอย่างเดียว แฟรนชายส์เรื่องนี้คงเดินทางมาถึงจุดจบ
อันที่จริงหลังจาก Transformers: Dark of the Moon ผู้กำกับอย่างไมเคิล เบย์ เคยวางแผนในการรื้อแฟรนชายส์นี้ใหม่และอยากให้มีผู้กำกับคนใหม่มารีบูตหนังเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจและคลอดหนังภาค 4 ออกมา แต่ท้ายที่สุดแล้วตัวเบย์เองก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าสำหรับ Transformers 5 เขาจะส่งต่อให้ผู้กำกับคนอื่นทำ ส่วนเบย์เองก็คาดหวังว่าหนังในภาคที่ 5 นี้บทภาพยนตร์น่าจะเสร็จหลังจากที่เขากำกับหนังฟอร์มเล็กๆเรื่อง 13 Hours เสร็จ
ทางพาราเมาท์ได้กำลังเจรจาเพื่อทาบทามมือเขียนบทรางวัลออสการ์อย่าง อากิวา โกลด์สแมน มาเพื่อพัฒนาแนวคิดในการสร้าง Transformers ภาคต่อ และภาคแยกที่จะแยกต่อไปอีกหลายภาค (เพื่อกอบโกยเอากำไร) โดยตัวอากิวาจะไม่ได้เป็นคนเขียนบทด้วยตัวเอง แต่จะเป็นคนที่คอยควบคุมดูแลรวมไปถึงวางทิศทางให้ทีมเขียนบทร่วมกันพัฒนาบท ภาพยนตร์ขึ้นมา ซึ่งน่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีว่าอย่างน้อยบทหนังในภาคต่อตัวละครคงมีมิติ มากกว่าแค่สาวผมบลอนด์ที่รับหน้าที่เป็นแค่ “วัตถุทางเพศ” ของผู้ชาย
ยิ่งไปกว่านั้นเราอาจจะได้เห็นหุ่นยนต์ตัวอื่นๆในซีรีย์ Transfomers นอกเหนือจากออพติมัส ไพมส์และบัมเบิ้ลบีก็เป็นได้
