เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน ที่อาคารกาญจนาภิเษก โรงพยาบาลเลิดสิน นายกิตติศักดิ์ สิงโต อายุ 25 ปี ได้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก ซึ่งขณะนี้ยังคงนอนพักฟื้นรักษาอาการบาดเจ็บอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทั้งนี้ที่บริเวณใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำดำเขียวไปทั่วบริเวณโดยรอบยังคงต้องใช้เจลประคบเย็นที่บริเวณบาดแผลอยู่ตลอดเวลาและยังไม่สามารถตอบข้อซักถามใดๆได้ โดยมีน.ส.สุธิรา หงษ์ทอง อายุ 53 ปี มารดา และคณะทีมแพทย์ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
ด้านน.ส.สุธิรา กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 7 พฤศจิกายน ตนได้พาบุตรชายมาพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการที่เกิดขึ้นซึ่งทางแพทย์ระบุว่าดั้งจมูกแตกละเอียดต้องอยู่พักฟื้นตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อที่จะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกในช่วงเวลา 09.00 น. ของวันนี้ ก่อนใช้เวลาในการผ่าตัดจนแล้วเสร็จเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นได้นำตัวออกมานอนพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยพิเศษโดยย้ายจากเดิมห้องผู้ป่วยรวม ซึ่งขณะนี้บุตรชายยังอยู่ในอาการบาดเจ็บจึงยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ภายหลังจากทางแพทย์ได้ผ่าเสร็จให้พักฟื้นดูอาการอีกประมาณ 2-3 วัน
น.ส.สุธิรา กล่าวต่อว่า เมื่อวานที่ผ่านมาทางดาราหนุ่มคู่กรณีได้ติดต่อมาหาตนทางโทรศัพท์ว่าจะเข้ามาเยี่ยมบุตรชายและสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งได้ปฏิเสธไปเนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัว ส่วนค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นขณะนี้บุตรชายตนใช้สิทธิประกันสังคมแต่ก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารักษาพยาบาลเองในบางส่วน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นเท่าไร ส่วนเรื่องที่ทำงานของบุตรชายได้ติดต่อเข้ามาพร้อมทั้งยื่นข้อเสนอให้การช่วยเหลือ ส่วนตนต้องพักกิจการที่บ้านไว้ก่อนเพื่อมาดูแลอาการบุตรชายอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมายอีกทั้งก็มีอายุมากแล้วต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ที่ผ่านมามีผู้หยิบยื่นโอกาสให้ความช่วยเหลือหลายรายไม่ว่าจะเป็นออกค่าทำศัลยกรรมใบหน้า และเรื่องว่าคดีความ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือแต่ตนคิดว่าบุตรชายไม่จำเป็นต้องทำให้ใบหน้าหล่อเหลาถึงขนาดนั้น ส่วนเรื่องคดีความขณะนี้นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทนายความได้ติดต่อเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือว่าความในคดีนี้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
“แม่ต้องการให้ลูกหายดีเป็นปกติก่อน ส่วนเรื่องคดีความปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนในเรื่องของดาราหนุ่มที่จะขอเข้ามาเยี่ยมนั้นต้องการความเป็นส่วนตัว หากเดินทางเข้ามาเยี่ยมกองทัพนักข่าวก็ต้องติดตามมาด้วยเพียงแค่อยากให้ลูกพักฟื้นรักษาตัวให้อาการดีขึ้นเสียก่อน นอกจากนี้ลูกชายมีนิสัยที่รักความสงบจึงต้องการความเป็นส่วนตัว” น.ส.สุธิรากล่าว
ขณะเดียวกันที่สน.ยานนาวา พ.ต.ท.ทวีป สุทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ยานนาวา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาดาราหนุ่มในข้อหา ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายไปก่อนหน้านี้ จนขณะนี้ต้องรอผลตรวจร่างกายจากทางแพทย์เป็นเวลา 20 วัน จึงจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกครั้ง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปที่ปรากฏจนสามารถเตรียมแจ้งข้อหา ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำนอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากคลิปวีดีโอที่ปรากฏพบว่าดาราหนุ่มมีพฤติการณ์ทางคดีเกิดกว่าเหตุโดยมีการฉุกกระชากพร้อมบังคับให้ผู้เสียหายกราบรถยนต์จนสังคมรับไม่ได้
พ.ต.ท.ทวีป เปิดเผยต่อว่า เบื้องต้นได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปหาดาราหนุ่มก่อนมีการนัดพบกันเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งสอบปากคำเพิ่มเติมในเวลา 20.00 น. ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้สำหรับการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายต่างฝ่ายต่างให้การภาคเสธอย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนอีกครั้ง รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในสำนวนคดีต่อไป
