ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

แม่แท้ๆ ของเด็กที่ถูกลักพาตัวไป ปัดข่าวรับเงินครอบครัวคู่กรณี เพื่อแลกกับการเซ็นยกลูกสาวให้ ระบุ อย่ามาดูถูกคนเป็นแม่ เพราะไม่เคยพูดเรื่องเงินกับใคร ขอเพียงได้ลูกสาวคืนมาเร็วที่สุด ส่วนคดีความให้ทาง ตร.ขอนแก่น ทำตามกฎหมาย…

EyWwB5WU57MYnKOuXogjOGmj8SNQSvbPB64pH4JLfxG4yetrIZqubH

ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.4 จับกุม นางอัญชุลี ชิดขุนทด อายุ 32 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาในคดีพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองดูแล ที่ก่อเหตุลักเด็กแรกเกิดเพศหญิงอายุเพียง 2 วันบุตรของนางกัลย์สุดา สำแดง จาก รพ.ศูนย์ขอนแก่น เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมานั้น ซึ่งปัจจุบันเด็กทารกรายดังกล่าวโตขึ้นได้ 4 ขวบแล้ว อยู่กับครอบครัวของผู้ต้องหาที่จังหวัดชัยภูมิ แต่หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับ กลับมีข่าวว่าแม่แท้ๆ จะรับเงินสดหลักล้าน จากทางผู้ต้องหา เป็นสินน้ำใจ เพื่อแลกกับเลี้ยงดูเด็กลูกสาวต่อไปจนเติบใหญ่นั้น

ความคืบหน้าของเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2558 ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันจากนางกัลย์สุดา แม่แท้ๆ ว่าไม่ยอมรับเงิน และไม่เคยพูดเรื่องเงินกับใคร ขอเพียงได้ลูกสาวคืนมาเร็วที่สุด และอาจจะเลี้ยงดูดีกว่าครอบครัวผู้ต้องหาด้วย หากผู้ต้องหาพูดจริงว่าจะให้เงินนั้น อย่างว่าแต่ล้านเดียว ร้อยล้านก็ซื้อความเป็นแม่ลูกไม่ได้

มีแต่ญาติผู้ต้องหาเกลี้ยกล่อมให้เซ็นยกลูกสาวให้ แต่ตนไม่ยอม ส่วนข่าวที่ออกมาว่า หากผู้ต้องหาพ้นโทษจะให้เงิน 1 ล้านนั้น “ขอบอกตรงๆ อย่ามาดูถูกแม่อย่างตน ถือว่าสบประมาทมากเกินไป ถ้ามีเงินจริง รวยจริง ทำไมไม่ไปรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยง เป็นโจรลักลูกคนอื่นทำไม ขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และยืนยันว่าไม่มีการรับเงินเด็ดขาด”

ส่วนการที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่จิตวิทยาของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น แนะนำว่าให้ไปอยู่กับลูกสาวและครอบครัวของผู้ต้องหาที่จังหวัดชัยภูมิเป็น เวลา 2 ปี เพื่อให้เด็กปรับตัวเข้ากับแม่ตัวจริงเสียก่อน แล้วค่อยรับมาอยู่ด้วยนั้น แม่แท้ๆ บอกว่าทำไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกัน จะให้อยู่อย่างไร ที่แน่ๆ คือต้องการนำลูกกลับมาอยู่ด้วยกันที่ขอนแก่นทันที ได้เตรียมเสื้อผ้า รองเท้า ตุ๊กตา ไว้ให้ลูกแล้ว ที่สำคัญคือได้เตรียมเครื่องบายศรีสู่ขวัญไว้เพื่อทำพิธีรับขวัญลูกสาวที่จะมาอยู่ด้วย

ในเรื่องการแจ้งเข้าเพื่อเรียนหนังสือนั้น นางกัลย์สุดา บอกว่าไม่มีปัญหา เพราะเธอได้แจ้งเกิดลูกสาวไว้แล้ว และได้รับใบสูติบัตรมาอย่างถูกต้อง ซึ่งตนได้ปรึกษากับทางสำนักทะเบียนราษฎรเทศบาลนครขอนแก่นแล้ว ว่าสามารถใช้ได้ทันทีเมื่อพบตัวลูกสาว เพราะเป็นใบสูติบัตรตัวจริงที่ทางราชการออกให้

ส่วน พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในคดี พรากผู้เยาว์ ที่นางอัญชุลี ถูกจับกุมนั้น มีความผิดจำคุก 3-15 ปี ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เรียบร้อยแล้ว เมื่อสู่ขั้นตอนในศาล ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ส่วนพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านประกันตัวแต่อย่างใด ทราบเพียงว่าญาติพี่น้องกำลังนำหลักทรัพย์มายื่นประกันตัวในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

ส่วนการปลอมแปลงเอกสารต่างๆ นั้น พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งมอบให้ ตำรวจท้องที่ สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น รับไปดำเนินคดี เนื่องจากการปลอมแปลงเรื่องเอกสารและตัวผู้ที่ถูกปลอมแปลงเป็นเด็กและเป็นญาติพี่น้องของผู้ต้องหา ซึ่งมีบ้านอยู่ที่ อ.หนองเรือ จึงยังไม่ทราบว่ามีการแจ้งความหรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะถูกแจ้งข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการอีกข้อหาหนึ่งก็เป็นได้.

เรื่องน่าสนใจ