ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อสู้!! แอนนา เผยหมดทุกเรื่องราวในชีวิตที่ฝ่าฟันมา..รับเคยท้อใจจนคิดสั้น พร้อมเปิดความภาคภูมิใจที่ได้มาเจอ พี่อ้อย พี่ฉอด พี่อั๋น และเล่าถึงเพื่อนรักที่ชื่อ แตงโม ภัทรธิดา หรือ แตงโม นิดา นับว่าเป็นนักสู้ที่เกิดมาเพื่อสู้อีกคนหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับ แอนนา ที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมานานัปการจนประสบความสำเร็จในชีวิต
เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 แอนนา ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิตแบบทุกซอกทุกมุมแบบหมดเปลือก ว่าไม่เคยคิดว่าจะได้มาออกรายการนี้ รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้มาเจอ “พี่อ้อย-พี่ฉอด-พี่อั๋น” พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตเคยหนีออกจากบ้านไปขายตัว เพราะไม่ได้รับการยอมรับ เวลามีปัญหาไม่มีใครให้คำปรึกษา เรียนเก่งขนาดไหนที่บ้านก็ไม่เคยชม แต่ก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แม่และน้องสบาย… รับเคยท้อใจจนคิดฆ่าตัวตาย เพราะยังเป็นหนี้อีก… และที่ผ่านมาชีวิตเจอแต่เรื่องรุนแรงมาตลอด เลยไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องหัวใจ สู้ชีวิตจนลืมแฟน ทำให้แฟนนอกใจเพราะอยากได้ความใส่ใจจากแอนนาบ้าง
และขอเล่าถึงเพื่อนรัก แอนนา เป็นเพื่อนกับ แตงโม ตั้งแต่มหาวิทยาลัยปีแรก ตลอดเวลาที่รู้จักกันแตงโมดีกับแอนนามาก คอยช่วยเหลือแอนนามาโดยตลอด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนมีวันนี้ซึ่งกันและกัน… ติดตามเรื่องราวความเป็นเพื่อนรัก และจากการสูญเสียเพื่อนรัก ทำให้ แอนนา เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต พยายามบอกรักคนรอบตัวมากขึ้น พร้อมสั่งเสียทุกอย่าง เพราะชีวิตคนเราไม่แน่นอน สิ่งที่เราคิดว่าแน่นอนก็ไม่แน่นอน
แอนนา : สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือดีใจมากได้เจอ พี่อ้อย พี่ฉอด พี่อั๋น แล้วเพราะเราไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้มารายการนี้เพราะเป็นรายการที่น่าภาคภูมิใจมากสำหรับใครที่ได้มาออก
แล้ว แอนนา รู้เข้าใจตัวเองว่าตัวเองเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
แอนนา : หนูเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงค่ะ ในอดีตไม่ได้รับการยอมรับค่ะ เราก็ต้องสู้ เคยโดนแรงสุดเพื่อนเอารองเท้าถอดแล้วเขวี้ยงใส่หน้าแล้วก็โดนหน้าเรา เราก็ร้องไห้ เวลามีปัญหาคือเราไม่มีที่ปรึกษาเลยสักคน แต่เป็นคนข้างบ้านที่เป็นใครไม่รู้มานั่งคุยด้วยว่าเก่งจังเลย เรียนหนังสือเก่งจัง แทนที่จะเป็นคนในครอบครัวเราไม่มีใครเลย
ต่อให้เราได้ที่ 1 เราก็ไม่ได้รับคำชม?
แอนนา : ไม่เคยพูดแล้วจะร้องไห้ก็เลยตัดสินใจหนีออกจากบ้าน
แล้วทำมาหากินอะไร?
แอนนา : ขายตัวค่ะ รับลูกค้าสูงสุดที่เราเคยรับเลยคือ 15 คนในวันเดียว เยอะมากจนเรารู้สึกเรากลัวเรื่องแบบนี้ไปเลย
แอนนา รู้สึกอย่างไรบ้างกับอาชีพนี้ที่จะต้องไปทำ?
แอนนา : รู้สึกภูมิใจที่ใช้หนี้ให้แม่ได้ แต่ไม่ได้รู้สึกภูมิใจในงานที่ตัวเองทำ พอเรากลับมาปรากฏว่าก็เป็นหนี้อีก เราวางน้ำยาล้างห้องน้ำไว้ข้างหน้าเราแล้วเลยค่ะ ตอนนั้นว่าเราจะกินให้มันจบขายตัวก็ทำมาแล้ว ทำทุกอย่างให้น้องให้แม่สบาย แต่ทำไมเราเจอแบบนี้ตลอด
ที่ผ่านมาชีวิตของแอนนาเจอแต่เรื่องรุนแรงมาก จนเกือบจะไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องหัวใจ?
แอนนา : อาจจะมีแบบนอกใจบ้าง แต่ว่าสาเหตุที่นอกใจก็คือเราโฟกัสแต่ตัวเอง ไม่โฟกัสเขาเลย ชีวิตฉันก็แย่พออยู่แล้ว ฉันยังต้องมาเจอเรื่องนี้อีก แต่เขาพูดในมุมกลับกันว่าแล้วเขาต้องมารับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า แล้วทำไมเราไม่ใส่ใจเขาบ้าง เราก็เลยเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้เลยว่าโอเคมันก็มาจากจุดที่เราไม่ได้ดูแลเขาด้วย
เป็นเพื่อนกับโมมานานมาก?
แอนนา : ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรกค่ะ เวลานั่งเรียนแอนนาก็จะนั่งอยู่หลังสุด โมเขาเดินเข้ามาแล้วก็แหวกๆ แล้วบอกว่าขอนั่งด้วยนะ โมเขาก็รู้ว่าเราไม่ค่อยมี โมเขาก็จะซัพพอร์ตเราว่าวันนี้เธอมาช่วยฉันนะ ฉันให้เธอ 500 เวลาไปกินข้าว บางวันเราไม่มีเงินอย่างนี้ เราก็พูดตรงๆ สมัยก่อนเราจนมาก โมเขาก็จะบอกว่าเอาไป 200 บาท ไปซื้อกับข้าวมา ซื้อเผื่อตัวเองด้วยนะ แล้วมากินกัน อันนี้คือสาเหตุที่ทำให้เรามีวันนี้ซึ่งกันและกัน แล้วเราก็ดีกับเขาเพราะเขาเคยดีกับเรามาก่อน
สำหรับการใช้ชีวิตของแอนนาตอนนี้แตกต่างไปอย่างไรบ้าง หลังจากที่เราสูญเสีย โดยเฉพาะสูญเสียเพื่อนรักอย่างน้องแตงโม?
แอนนา : ก็พยายามบอกรักคนใกล้รอบตัวเรา เราไม่ได้กอดแม่เลยมานานมากเป็นสิบปี ตอนนี้เราก็กอดแม่ บอกรักแม่ แล้วถ้าก่อนเรามีอะไรในใจ ถ้าวันหนึ่งเราตายแล้วเราไม่ได้พูดเราก็พูดหมดเลยนะคะ สั่งเสียไว้หมดเลยทุกอย่าง เพราะว่าเรารู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตของเราไม่แน่นอนเลย ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่เราคิดว่าแน่นอนไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่