แอน มิตรชัย แจงถูกด่าใน IG ตอแหลไม่ทำศัลยกรรม

annmitchai1
ตั้งแต่ชีวิตพลิกผันจากลิเก-ลูกทุ่งสาวไทยแลนด์ โกอินเตอร์ไปอยู่แดนบอลลีวู้ด พูดก็พูดรูปร่างหน้าตาของสาว”แอน มิตรชัย ก็สวยวัน สวยคืนแถมเวรี่เซ็กซี่

ล่าสุด “แอน” ใส่บิกินี่ ถ่าย MV เพลงสากลเพลงหนึ่ง ซึ่งได้รับฟีดแบคชื่นชมเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่วายมีผู้ไม่หวังดี ประสงค์ร้ายโพสต์ถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมว่า “ไปเล่นหนังอินเดียก็คงผัวล่ะมั้งที่ทำหนังให้เล่น ผัวเป็นฝรั่งร่ำรวยล้นฟ้า คงบันดาลให้ได้ทุกอย่าง ตอแหล บอกว่าไม่ได้ทำศัลยกรรม ไม่ได้ทำอะไรเลย ??? อีกอย่างหน้าด้านมาพูดว่าสืบสานวัฒนธรรม ทำเป็นสร้างภาพเห็นใส่บิกินี่ยืนโยกหน้าไม่อาย โกหก ตอแหล อี ลิเก”

งานนี้ทำเอานางเอกลิเกสาวโกอินเตอร์ “แอน มิตรชัย” รีบออกมาชี้แจงผ่านทางอินสตาแกรม โดยข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาโดยประมาณว่า

“แอนเคยพูดไปแล้วว่าเคยมีแฟน มีก็บอก เลิกก็บอก ทำศัลยกรรมก็บอก ส่วนคนไหนที่ไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่, คนอย่างคุณจริงๆ ฉันมองข้ามอยู่แล้ว แต่คุณไม่ควรเอาคำว่า อีลิเก มาพูด เพราะแม่คุณหรือโคตรเหง้าคุณ อาจจะเคยนั่งดูลิเกและศรัทธาชื่นชมก็เป็นได้ ดังนั้นอย่าเอาคำว่า “สืบสานวัฒนธรรม” มาด่าฉัน เพราะแท้จริงแล้วคุณ อคติริษยา คนอย่างคุณไม่ต้องมาสอนฉันหรอก เพราะคนอย่างคุณ อย่าว่าแต่เป็นคนเลย มิตรแท้คุณก็ยังเป็นยาก เป็นเมียที่ดีก็ไม่ได้ … กระทั่งคำว่าเป็นแม่คนก็ยังสูงเกินไปสำหรับคุณ ถ้าไปสอนลูก ลูกก็คงปัญญาอ่อน ฉันเป็นคนและมองคนทุกคนว่าเป็นคนเท่ากัน แต่จะแยกระดับคนจากจิตใต้สำนึก, สรุปเลยว่า สัตว์สองเท้าอย่างคุณ ฉันขอพูดคำเดียวว่า การเขียนของฉันครั้งนี้ไม่ได้เขียนด่าหรือเขียนเพื่อสอน แต่ขอใช้คำว่า “โปรดสัตว์” “

นอกจากนั้นแล้วสาว “แอน มิตรชัย” ก็ยังหยิบยกบทธรรมของ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิระเมธี)” มาตอกกลับไปด้วยหลักธรรมมะโดยแอบเหน็บด้วยว่า

“แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน” คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า ‘เจ้ากรรมนายเวร’ ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เรา ต้อง ถอดถอน ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น ‘ไฟสุมขอน’ (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี ‘แผ่เมตตา’ หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป …

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เห็นใจสาวแอน เพราะอยู่ดีๆ ก็โดนบุคคลไม่หวังดีมาต่อว่า จึงมีผู้ให้กำลังใจแอนกันอย่างล้นหลามทีเดียว

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง “แอน ” ซึ่งเวลานี้กำลังทำงานอยู่ที่ประเทศอินเดีย ว่ารู้สึกอย่างไรที่โดนใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้แอนให้สัมภาษณ์ว่า ……….

“จริงๆก็เฉยๆนะ เพราะเข้าใจดีว่าคำสรรเสริญย่อมคู่คำนินทาเป็นธรรมดา แต่คำที่เขาพูดคำว่า “อีลิเก” แอนต้องออกมาพูดให้เข้าใจว่าอะไรคือคำว่า ลิเก สำหรับแอนคำว่า “ลิเก” สำหรับแอนคือ หนึ่ง”มีคุณ มีครูเป็นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลบหลู่ไม่ได้ ไม่ใช่มีเงินมีทองจะแสดงกันได้ แต่พวกเราคือทูตสืบทอดศิลปวัฒนธรรมไทย

ดังนั้นเราไม่เคยดูหมิ่นย่ำยีในสัมมาชีพของเรา แต่ตรงกันข้าม แอนอยู่เป็นศิลปินสายนี้ยึดอาชีพนี้ด้วยความเห็นคุณค่าของคำว่า”ลิเก” ด้วยความรักอย่างจริงใจ แอนไม่รู้คนบางกลุ่มอาจดูถูก ซึ่งแอนไม่รู้เขาถูกปลูกฝังมาอย่างไร แอนมองว่า คนพวกนั้นต่างหาก น่าดูถูกเพราะมีจิตใต้สำนึกต่ำ ดูถูกศิลปะวัฒนธรรมของคนรุ่นปู่ย่าตายาย ของมีครูบาอาจารย์ แม้แต่ราชวงศ์ทุกยุคทุกสมัยก็ล้วนให้ความสำคัญและมองเป็นของมีค่า คู่ควรแก่การบำรุงรักษา และไม่ใช่แค่แอนที่มีหน้าที่รักษาศิลปะแขนงนี้ แต่แอนว่าคนไทยทุกคนควรจะเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมของเรา แอนมีงานการแสดงทุกวันยาวนานกว่า25ปี แอนสำนึกถึงคุณค่าความเป็นไทย และความเป็นลิเกที่ทำให้แอนมีวันนี้ มาถึงจุดนี้ได้ค่ะ”

สุดท้ายนี้แอนขอฝากถึงคนที่ดูถูกคำว่าลิเกว่าพวกเราศรัทธาในครู ผู้มีคุณ แม้ทานข้าวเราก็นึกถึงคุณของครูบาอาจารย์ก่อนเสมอ แอนขอจบที่ว่าแอนไม่มีอารมณ์โกรธเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ต้องพูดอะไรบ้างเพราะเขาลบหลู่คำว่า”ลิเก” เท่ากับลบหลู่ครูบาอาจารย์ แอนไม่ชอบ ก็เลยต้องโปรดสัตว์กันบ้าง

ต่อข้อที่ว่า”แอน” เป็นตามข้อเขียนที่คนมือคันเขียนไว้หรือไม่? เรื่องนี้เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ต่อว่า ….

“เขาว่าอะไรเช่น ทำศัลยกรรม ว่าแอนโกหกเนี่ยเหรอ? แอนออกทุกสื่อทุกรายการได้บอกทุกครั้งที่มีคนถาม ว่าแอนทำจมูก แล้วโกหกตรงไหน ส่วนคำพูดอื่นๆยิ่งไม่ใช่ จับต้นชนปลายไม่ถูกเหมือนพยายามจะพูดให้เสื่อมเสียแต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาพูด มั่วไปเรื่อย ส่วนเรื่องสืบสานวัฒนธรรมกับเรื่องใส่บิกินี่ก็เหมือนกัน อยากจะบอกว่าวิสัยทัศน์ของคนไม่เหมือนกัน คนใจแคบ อคติ ถึงใครทำดีคนเหล่านี้จะไม่ชอบ ชั่งน้ำหนักดูซิการไปทำงานที่โน่น ทางโน้นซะอีกที่พยายามพรีเซ้นต์แอนและให้โอกาสเราได้แสดงทักษะหลากหลาย โชว์เซ็กซี่ (ที่มีลิมิต) โชว์ร้อง,เต้น,เล่น,พูด ภาษาบ้านเขา เพื่อให้คนอินเดียเปิดใจรับเรา เอะอะจะให้ใส่ชุดลิเกเข้าไปใครจะรู้จัก ใครคิดว่าการเอาวัฒนธรรมไปป้อนชาวต่างชาติให้รักและชื่นชมมันง่าย อินเดียเขามีวัฒนธรรมที่แข็งแรงแทรกแทรกยากอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ยอมรับในความสามารถของเราซะก่อนอย่างอื่นก็ยาก

สรุปขอฝากบทธรรมของท่าน ว.วชิระเมธีเพื่อสรุปแล้วกันค่ะว่า..อย่าเป็นนักจับผิดคนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง ‘กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก’ คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส ‘จิตประภัสสร’ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี ‘แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข ถามว่าท้อมั้ย..ไม่เลยค่ะ แอนผ่านและอยู่กับคำว่า รักมาตลอด ในรักมีศรัทธาและบูชา ดังนั้นเศษฝุ่นเศษผงเพียงเล็กน้อยก็ปล่อยให้มันเป็นธุลีต่อไปค่ะ

นอกจากนี้ “แอน” ยืนยันด้วยว่า เธอไม่คิดจะหาตัวผู้ประสงค์ร้ายเพื่อฟ้องร้องตามกฏหมายให้เสียเวลา ทำสิ่งที่มีประโยชน์

” อ๋อไม่หรอกค่ะ เสียเวลาทำสิ่งมีประโยชน์ แอนมีงานมากล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความรักและกำลังใจเป็นฐานในการก้าวเดินทุก ก้าว จึงไม่อยากเสียเวลาแม้เพียงเล็กน้อยให้สิ่งไร้สาระ คนเหล่านี้มีอยู่ทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันก็มีแฟนๆ ให้กำลังใจอย่างล้นหลาม เมื่อโพสต์ข้อความอธิบายตัวเองลงอินสตาแกรม แอนกล่าวว่า ทำให้ตนรู้ถึงพลังมหาชนว่ายังมีคนรักเราอีกมาก ต้องบอกว่าในเหตุการณ์ร้ายๆมักซ่อนความดีไว้ด้วย เพราะมันทำให้แอนรู้ถึงพลังมหาชน แฟนๆที่รักเรามากมาย รักมานานและยังเหมือนเดิม ถึงขนาดสืบค้นกันเลย ว่าใครว่าเรา แล้วได้ข้อมูลด้วย แต่คือแอนไม่อยากให้พวกเราเสียเวลา และเป็นเหยื่อเสียค่าโง่ให้กับคำพูดแค่ไม่กี่คำของคนสิ้นคิด แค่ออกมาถล่มกันขนาดนี้ก็คงทำให้เขาพอคิดอะไรได้บ้าง (ละมั้ง)”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “เอ ไชยา” ให้กำลังใจอย่างไรบ้างหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่าเวลานี้เธอประชุมงานอยู่ที่ประเทศอินเดีย จึงยังไม่ได้คุยกัน

“ตอนนี้แอนอยู่อินเดียค่ะ งานยุ่งมาก มีซ้อมและประชุมด้วย จึงยังไม่ได้คุยกันค่ะ แต่แอนเชื่อว่าถึงพี่เอรู้ก็จะเห็นด้วยกับคำพูดแอนทุกคำ และเราเป็นพี่น้องที่รักและเข้าใจกันแบบจิตวิญญาณเลย ถึงไม่พูดก็เข้าใจดีค่ะ”

 

annmitchai

ขอบคุณที่มาจาก www.siamdara.com

เรื่องน่าสนใจ