วันนี้ (27ม.ค.59) แอปเปิ้ลเผยรายงานยอดขายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณว่า การเจริญเติบโตของยอดขายโทรศัพท์มือถือไอโฟนตกต่ำลงมาเป็นครั้งแรกและดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเปิดตัวไอโฟนครั้งแรกในปี2550 ในไตรมาสแรกแอปเปิ้ลสามารถขายไอโฟนได้ 74.8 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 3 แสนเครื่องเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า บริษัทแอปเปิ้ลจะสามารถขายไอโฟนได้ 75 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสแรก แต่ยอดขายจริงกลับไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนโลกค่อนข้างผันผวน
ด้านนายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอปเปิ้ลคาดว่า ยอดจำหน่ายในไตรมาสปัจจุบันจะลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่เขาก็เชื่อว่าตลาดยังคงมีโอกาสเติบโต เนื่องจากผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่าร้อยละ 60 ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นรุ่น 6 หรือ 6S
ส่วนรายได้ของบริษัทในไตรมาสสอง ทางแอปเปิ้ลคาดว่า จะอยู่ที่ 50,000-53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 55,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รายได้ของไอโฟนในช่วง 3 เดือนก่อนวันที่ 26 ธันวาคมปี 2558 กลับมาทำรายได้มากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแอปเปิ้ลมีรายได้อยู่ที่ 75,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการขายไอโฟน 51,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 18,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีรายได้จากแอปเปิ้ล วอช และแอปเปิ้ลทีวี เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง