ช่วงนี้วงการบันเทิงระอุไปด้วยเรื่องการโกงค่าตัว ล่าสุดนักร้องลูกทุ่งสาวสุดเซ็กซี่ “แคนดี้ รากแก่น” นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง “สยามยุทธ” ก็เพิ่งโดนเข้าตัวด้วยจำนวนเงิน “หลักแสน”
ซึ่งสาวแคนดี้ก็ได้ตั้งโต๊ะเปิดใจ ถึงประเด็นดังกล่าว เรียกร้องผู้จัดออกมาชี้แจงให้นักแสดงกว่า 30 ชีวิตได้รับทราบ และบอกกำหนดว่าจะได้รับเงินเมื่อไหร่ ไม่อยากคุยผ่านสื่อ ส่วนการรับงานในอนาคตต้องมีสัญญา และคิดให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของการแถลงข่าววันนี้ ?
“จริงๆ เริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ก่อนมีสื่อมาถามแคนดี้ ว่าได้มีนักแสดงนำในเรื่องสยามยุทธที่แคนดี้เล่นด้วย เขาพูดถึงเรื่องการไม่ได้รับค่าตัว ก็เลยมาถามแคนดี้ว่าตัวแคนดี้เองได้ไหม แคนดี้ก็เรียนตามตรงคะว่าไม่ได้ ก็มีการพูดคุยกันว่าแล้วคนอื่นล่ะ ถามคล้ายๆ ให้แคนดี้เป็นตัวกลางของเรื่องนี้
เพราะว่าส่วนตัวแล้วก็ยังช่วยเหลืองานของภาพยนตร์เรื่องสยามยุทธตลอด ตั้งแต่ตอนแสดง มาถึงช่วงโปรโมต หรือแม้แต่วันแถลงข่าวเราก็ถือว่าเป็นหนึ่งในส่วนของภาพยนตร์เรื่องนี้ตลอด ทีนี้พอดีว่ามันมีประเด็นขึ้นมาในเรื่องของการรับค่าตัว ค่าจ้างได้ไหม ถามมาแบบนี้เราก็ตอบไปตรงๆ ว่าไม่ได้”
ไม่ได้เลยสักบาท ?
“ไม่ได้เลย”
จำนวนเงินเยอะไหม ?
“หลักแสนคะ ด้วยความที่แคนดี้เป็นนักแสดงสมทบ ไม่ได้เป็นนักแสดงนำของเรื่องก็คือตัวเลขก็อยู่ในหลักแสน”
เรารู้สึกแปลกๆ กับเรื่องนี้ตอนไหน ?
“ตั้งแต่ตอนแรก ก็คือตอนที่รับเล่นเรื่องนี้ ด้วยความที่เราเป็นครูกับลูกศิษย์ก็เลยมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันก็เลยไม่ได้ถามถึงเรื่องของสัญญาหรืออะไร ตอนแรกมีการตกลงกันว่าจะให้ก่อนการแสดง ก่อนการถ่าย แต่พอล่วงเลยไปถ่ายไประยะหนึ่ง ก็ได้รับการพูดคุยว่ายังไม่มีตังก์ก็เลื่อนไปก่อน
เพราะว่าในตัวแคนดี้เองก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าไม่มีให้แล้วมีการพูดคุยแบบนี้แคนดี้ยินดี เพราะว่าแคนดี้ถือว่าให้ใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ส่วนตัวกับนักแสดงคนอื่นไม่ทราบว่าได้มีการบอกกันแบบนี้หรือเปล่า แต่แคนดี้ทางผู้จัดบอกตลอดค่ะ พอถ่ายไปซัก 30% ยังไม่มีนะ ซึ่งปกติ 30% ต้องให้แล้ว เราก็ทำไงได้ ในเมื่อหนังมันก็ถ่ายไปแล้ว ไม่อยากให้เสียงาน เสียคนด้วย ด้วยความที่เราแค่ไม่ได้เงินเหรอ เราก็เลยต้องถ่ายต่อจนจบ
พอจบเราก็ยังมีความหวังว่าจะได้แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้จนถึงตอนนี้ภาพยนตร์ออกไปแล้วก็ยังไม่ได้ จนกระทั่งได้มาทราบข่าวจากสื่อบ้าง นักแสดงบ้างว่าหลายๆ คนรวมตัวกันมาฟ้องร้อง แต่แคนดี้ไม่ได้ฟ้องร้องนะคะ
ล่าสุดได้ยินคำสัมภาษณ์จากนักแสดงนำท่านหนึ่ง พูดว่ายังไม่ได้ค่าตัวเหมือนกัน เราก็เลยเอ๊ะ หรือว่ายังไง โดยส่วนตัวได้ยินว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับดีระดับหนึ่ง โดยเฉพาะจากทางภาครัฐเพราะเป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงประวัติศาสตร์ แล้วก็ได้รับการสนับสนุนไปจนเห็นว่าจะทำภาค 2”
ของเรามีสัญญาไหม ?
“ของแคนดี้เองไม่มี แต่คนอื่นมีค่ะ”
ทำไมของเราไม่ทำสัญญา ?
“อย่างที่บอกว่าตอนแรกที่รับเล่นเรื่องนี้เพราะเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์แล้วก็มาทางเราชอบด้วย เราก็เลยให้ใจเขา เพราะฉะนั้นเนี่ยวันนี้ที่แคนดี้ออกมาพูดไม่ได้ออกมาเรียกร้อง หรือจะมาฟ้องร้องอะไรเพียงแต่ว่ามาเป็นตัวกลาง แคนดี้ได้ยินจากทางนักแสดงท่านอื่นว่ามีกลุ่มที่ฟ้องร้องบ้าง แล้วก็มีกลุ่มที่ยังไม่ได้เงินแล้วก็อยากจะคุย
แต่ทีนี้คนกลางแคนดี้ได้ยินว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างชาติก็ซื้อเยอะนะ ล่าสุดกำลังจะทำภาค 2 แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ก็เลยออกมาพูดในฐานะคนกลางว่าทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะหันหน้ามาคุยกัน ทางผู้จัดก็น่าจะมาบอกว่ามั้ยว่าจะจ่ายเงินเมื่อไหร่ มีปัญหาอะไร เหมือนที่เขาบอกแคนดี้มาตลอด ตัวเราเองไม่มีปัญหา ก็เห็นแค่นักแสดงในเรื่องหลายๆ คน ใช้นักแสดงเยอะมาก ก็เหมือนกับต่างคนต่างไม่ได้เลย แคนดี้ไม่ทราบว่าใครไม่ได้บ้าง แต่ถ้าถามตัวแคนดี้คือแคนดี้ก็ยังไม่ได้”
พอมีข่าวออกมาได้ติดต่อผู้จัดไหม ?
“ติดต่อคะ เขาก็มีเหตุผลของเขา คือให้รอ แล้วก็บอกาว่ากำลังจะได้รับการสนับสนุน รวมถึงกำลังจะได้ทำภาค 2 แต่เราก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ด้วยตัวเราเนี่ยคือก็ไม่ได้ทำสัญญาด้วย จริงๆ ถามว่ากังวลกับเรื่องนี้มากไหม ค่อนข้างเชื่อใจนะคะว่าเขาน่าจะให้”
คิดว่าจะได้ ?
“ต้องได้นะ (หัวเราะ) ก็น่าจะได้ เพราะว่าครูเขาจะมีเหตุผลบอกตลอดเวลาว่าจะได้เมื่อไหร่ยังไง แต่ปัญหาคือ เขาคุยกับแคนดี้ คุยสั้นๆ แต่เขาไม่คุยกับคนอื่นเลย อันนี้คือประเด็นที่ทำให้เกิดมีเป็นเรื่องเป็นราววันนี้”
กำหนดจะให้เมื่อไหร่ ?
“ไม่มีกำหนดเลย เขาพูดไปเรื่อยๆ แต่พูดว่าจะมีการถ่ายภาค 2 แสดงว่าก็น่าจะมีแนวโน้มที่ดีรึป่าว”
ภาค 2 จะเล่นไหม ?
“ขอให้ได้เงินภาคแรกก่อน(หัวเราะ) จริงๆ ไม่ใช่ประเด็นตรงนั้นเท่าไหร่ วันนี้ที่มาคุยเพราะอยากให้ทางผู้จัดเองออกมาบอกหน่อย ออกมาบอกเราว่าคุณมีกำหนดจะจ่ายเมื่อไหร่ยังไง ในเมื่อคุณได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐแล้ว หรือจากทางต่างประเทศแล้วคุณน่าจะออกมาคุยกันแมนๆ ดีกว่า จะได้เป็นผลประโยชน์ของแคนดี้แล้วก็นักแสดงท่านอื่นด้วย แคนดี้เชื่อว่านักแสดงอีก 30 ชีวิตก็รออยู่เหมือนกัน”
เขาบอกเหตุผลเราว่าอะไร ?
“เขาบอกว่าเกิดปัญหาระหว่างการถ่ายทำ เงินที่ควรจะได้มันไม่ได้ก็เลยขอให้ช่วยกัน ถามว่าช่วยได้ไหม ช่วยได้อยู่แล้วในส่วนตัวแคนดี้คนเดียวนะคะ คือเราสามารถทำงานอย่างอื่นเพื่อที่จะมาหาเลี้ยงตัวเองได้บ้าง แต่สำหรับนักแสดงอื่นๆ อาจจะมีปัญหา”
ได้คุยกับนักแสดงคนอื่นๆ ไหม ?
“ไม่ได้คุยเลย แต่ได้ยินมาเหมือนกัน พอได้ยินก็เลยเป็นประเด็นของวันนี้ค่ะ พอได้ยินเขาออกมาให้ข่าวว่าไม่ได้ เราก็เลยแบบระดับเขายังไม่ได้เลย แล้วเราล่ะ”
รู้จักกับครูคนนี้นานแค่ไหน ?
“รู้จักกันตอนที่จะเริ่มถ่ายค่ะ เรื่องของเรื่องคือแคนดี้ไปเรียนก่อน เรียนมวยเพื่อนำไปโชว์ต่างประเทศรู้จักกันแค่ตอนนั้นแล้วครูก็เลยทาบทามให้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เราก็เห็นว่าเป็นครู ก็เลยไม่ได้กังวล เราเรื่องสัญญา ซึ่งจริงๆ แล้วเราทวงถามสัญญาตลอดแต่ว่าก็มีพลัดไปเรื่อยๆ จนมีการถ่ายทำไปจน 30% แล้วเขาถึงมาบอกอีกครั้งหนึ่งว่าเงินอาจจะให้ไม่ได้ตามกำหนด ไม่เป็นไรนะ ช่วยกันนะ เราก็เห็นทุกคนก็ยังถ่ายอยู่ เราก็เลยอ๋อ ก็แสดงว่าไม่ใช่แค่เราอาจจะโนทั้งหมด ก็เพิ่งมารู้ล่าสุดว่าแม้กระทั่งเบอร์ใหญ่ๆ ก็ยังโดน”
ทำไมเราถึงเชื่อใจเขา ?
“ก็นั่นน่ะสิ อาจจะเป็นเพราะว่าเราเรียนกับเขา เราก็เชื่อในภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนแรกที่ทำคือเชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงแม้จะรู้ว่าอาจจะไม่ได้รายได้ที่สูงอะไรแต่ว่า รู้สึกมันเหมือนเรื่องนี้ทำเพื่อแผ่นดิน แล้วก็ทำความดีนะ”
หลังจากนี้คงต้องละเอียดเรื่องการรับงาน ?
“ต้องมีสัญญาเลยค่ะ เพราะปกติมีสัญญาอยู่แล้ว มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นเองที่เรารู้สึกให้ใจเขา อย่างที่บอกว่าแคนดี้เชื่อว่าคนอื่นอาจจะมีสัญญาหรือไม่มีสัญญาก็แล้วแต่ ทุกคนที่ออกมาฟ้องร้อง หรือทุกคนที่ออกมาร้องเรียนถ้าได้รับคำตอบที่ดีจากทางผู้จัด แคนดี้เชื่อว่าทุกคนพร้อมจะยกฟ้อง หรือว่าให้อภัย เพียงแต่อยากให้ออกมาพูด อย่าให้วิ่งกันหน้าสื่อแบบนี้ ต่างคนต่างมาฟ้อง คนนี้มาให้ข่าว”
