โทนี่แฮปปี้พ่อแม่กลับมาอยู่ด้วยกันในฐานะเพื่อนหลังแยกทางไปนานนับสิบปี โดยอยู่ที่บ้านที่ตนซื้อไว้ให้ เผยแคนดี้ พี่สาวตนคอยเป็นกาวใจ เผยตื่นเต้นบินไปญี่ปุ่นโปรโมตหนังในเทศกาลโตเกียวฟิล์ม ลุ้นบินไปโปรโมตหนังที่ยุโรปต้นปีหน้า
รียกว่าช่วงนี้มีแต่เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตของพระเอกหนุ่ม โทนี่ รากแก่น ก็ว่าได้ เพราะนอกจากเพิ่งเดินทางไปโปรโมตภาพยนตร์ “สแนป” ในงานเทศกาลโตเกียวฟิล์ม ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็มีเรื่องน่ายินดีที่หมอลำดัง บานเย็น รากแก่น คุณแม่ของโทนี่กลับมาอยู่ด้วยกันกับคุณพ่อในฐานะเพื่อนหลังจากแยกทางกันไปนับสิบปี โดยทั้งคู่มาอยู่ร่วมกันที่บ้านหลังใหม่ที่เจ้าตัวซื้อไว้ ได้เจอโทนี่ถ่ายละครซีรีส์ “คลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ ตอน ความรักไม่ผิด ผิดที่…ไว้ใจ” ที่ศูนย์การค้า The Jas วังหิน เลยถามเจ้าตัวถึงเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นกันหน่อย
ไปงานโตเกียวฟิล์มมาเป็นยังไงบ้าง?
“ไปงานเปิดตัวหนังเรื่องสแนป ก็ค่อนข้างตื่นเต้น เพราะงานเขาค่อนข้างใหญ่ ส่วนเรื่องสแนปได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยที่ได้เข้าไปร่วมงานนี้ เห็นลิสต์รายชื่อหนังเรื่องอื่นๆ เด็ดๆ กันเยอะ พอมีเรื่องนี้ของเราก็รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่เลือกพวกเราไปด้วย ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้”
ทางโตเกียวพูดเกี่ยวกับหนังเรายังไงบ้าง?
“ก่อนหน้านี้จะมีหนังรอบโลก มีโปรแกรมเมอร์เขาก็จะเลือกหนังที่เข้าไปประกวดรอบสุดท้าย เขาก็ถูกใจหนังของเราเยอะมาก เรามีพี่ๆ ที่คอยประสานงานเขามาเล่าให้ฟัง ก็ต้องรอลุ้นกันว่าจะเป็นยังไงบ้าง เพราะมีหนังดีๆ เยอะ”
แค่โชว์หรือลุ้นรางวัลด้วย?
“มีเดินพรมแดง เปิดตัวงานของที่โน่น ฉายจริงคือวันนี้ (24 ต.ค.) แต่ไม่มีโอกาสได้อยู่ดู คอยลุ้นจากที่ไทย ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเรา พี่คงเดชเขาก็จะเป็นคนที่วิ่งเรื่องเอง ทำหนังด้วยใจรัก ทำจากความชอบจริงๆ อาจจะเป็นหนังที่ไม่ได้ใช้ทุนเยอะ แต่เป็นหนังที่พี่เขาตั้งใจเขียนจริงๆ”
หลังจากนี้น่าจะเป็นยังไง?
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ แต่จะมีฉาย 3 รอบก่อน ก็อาจจะฉายไปก่อนแล้วค่อยประกาศผล”
มีโอกาสได้เห็นภาพบ้างหรือยัง?
“ภาพรวมอาจจะต้องถามพี่คงเดชเพราะเขาจะมีมุมมองกว้างๆ กว่าผม ซึ่งมองในมุมของนักแสดง ถามว่าคาดหวังไหม ผมไม่กล้าที่จะคิดไปไกลขนาดนั้นเพราะไม่เคยพาหนังไปในคอมพิชชั่น แต่ดูเหมือนพี่ทองเดชและพี่ทองดีเขาก็ไม่ได้ดูจะไม่มั่นใจในเรื่องนี้ เขาดูเขาก็ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้เหมือนกัน”
นอกจากงานนี้แล้วมีโปรแกรมจะไปที่ไหนอีกไหม?
“แถวยุโรปครับ อาจจะไปพรีเมียร์ที่ยุโรปช่วงต้นปีหน้า พรีเมียร์ที่แรกที่โตเกียว ถ้าไปก็ขอเขาไปด้วยทุกที่ เพราะเราทำงานร่วมกันมาก็ค่อนข้างสนิทกัน และการทำหนังอินดี้มันมีหลายอย่าง ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองทำเป็นของตัวเอง”
ล่าสุดเห็นเหมือนเพิ่งซื้อบ้านให้แม่?
“ไม่ได้เพิ่งซื้อ แต่เป็นบ้านที่ซื้อนานแล้ว ซื้อเพื่อจะให้คุณพ่อคุณแม่มาอยู่ด้วยกัน มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากเพราะตั้งแต่เด็กๆ เราก็ไม่ได้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก พ่อแม่แยกทาง เราก็จะอยู่กับญาติๆ ทางฝั่งพ่อ ตอนเด็กๆ เคยคิดเหมือนกันว่าอยากจะให้พ่อกับแม่เขาอยู่ด้วยกัน แต่ทางที่จะเป็นไปได้มันน้อยมาก เพราะมันไม่มีเรื่องราวที่จะทำให้เขาทั้งคู่อยู่ในจุดที่คุยกันได้ง่ายขนาดนั้น แต่พอมาวันนี้เขามาอยู่ด้วยกันได้ ถึงจะไม่ได้อยู่แบบคู่รัก แต่อยู่แบบเพื่อน ก็รู้สึกดีใจ”
รอคอยภาพนี้มานานแค่ไหน?
“ไม่ถึงกับรอคอย เราก็ไม่ได้ฝังใจว่าเขาจะต้องเป็นคู่รักกัน ต้องอยู่ด้วยกัน แต่รู้สึกว่าถ้ามีภาพนี้เกิดขึ้นก็คงจะน่ารักดี”
ใช้เวลานานไหมกว่าที่จะทำให้ท่านมาอยู่ด้วยกันได้?
“ตั้งแต่ผมจำความได้เขาก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว จนงานแต่งงานพี่สาวคนโตถึงเขาจะไปร่วมงาน แต่เขาก็ไม่ค่อยได้คุยกัน”
บอกเขาไว้ก่อนไหมว่าจะชวนอีกคนมาอยู่ด้วย?
“เราไม่ได้กดดันอะไร ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน ขอแค่เขามีเพื่อนเพราะต่างคนก็ต่างไม่มีคู่ เขาเคยเป็นคู่รักที่เคยรักกันมา มีลูกด้วยกันก็อยากให้เขามาอยู่ด้วยกันเราจะได้ดูแลเขาง่ายๆ”
คิดว่าอะไรที่ทำให้เขากลับมาคุยกัน กลับมาอยู่ด้วยกัน?
“คิดว่าน่าจะเป็นเพราะพี่แคนดี้ที่เขาจะคอยประสานให้ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เขาใส่ใจ คอยดูแลทุกคน ผมเป็นลูกคนเล็กก็จะงอแงเอาแต่ใจตัวเอง เขาก็จะคอยประสานเรากับทุกๆ คน โตมาก็เป็นเรื่องของพ่อแม่ที่เขาจะชวนให้มาเจอกัน อยู่ในสถานที่เดียวกัน”
เจอกันพร้อมหน้าครอบครัวบ่อยแค่ไหน?
“ช่วงหลังนี้บ่อยมาก เขาจะอยู่กับพี่แคนดี้ ผมไปอยู่ด้วยตอนช่วงแรกๆ ที่กลับมา แล้วค่อยย้ายออกมาอยู่เอง เพราะชินกับการอยู่คนเดียวตั้งแต่เด็กๆ เลยขอเขาออกมาอยู่คนเดียว มีเวลาก็กลับมาหาเขาบ้าง”