สะเทือนใจ… โบราณสถาน มรดกโลกในเนปาล ได้รับความเสียหายยับ จนยากเกินบูรณะซ่อมแซม หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าเนปาล ขณะที่ยอดเหยื่อเคราะห์ร้าย เสียชีวิตจากธรณีพิโรธ พุ่งกว่า 3,200 แล้ว
เมื่อ 27 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า เหตุการณ์แผ่นดินไหวสุดวิปโยค ที่ประเทศเนปาล เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 25 เม.ย. โดยสำนักงานสำรวจภูมิศาสตร์สหรัฐฯ ได้ปรับระดับความรุนแรงของธรณีพิโรธ มาอยู่ที่ขนาด 7.8 แมกนิจูด หลังจากเบื้องต้น ตรวจวัดได้ที่ระดับ 7.5 และ 7.9 ว่า นอกจากความรุนแรงของแผ่นดินไหว จะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 3,218 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 6,500 รายว่า ยังทำให้โบราณสถานเก่าแก่ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ถึง 4 แห่ง ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวง รวมทั้งเมืองใกล้เคียง พังถล่มลงมา ได้รับความเสียหายหนัก และสร้างความสะเทือนใจอย่างมาก
ความรุนแรงของแผ่นดินไหว ส่งผลให้ วัดวาอาราม สถูปเจดีย์เก่าแก่ ที่จัตุรัสปาทาน ดูร์บาร์ ในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพังเสียหายยับเยิน จนกลายเป็นกองอิฐกองดิน รวมทั้ง สถูปปูธานารถ อายุหลายร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขากาฐมาณฑุก็ไม่อาจรอดพ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติครั้งใหญ่ รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปีของเนปาลเช่นกัน โดยสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานว่า ตามประวัติ สถูปปูธานารถ เคยเป็นสถานที่ที่ชาวทิเบตนับถือพุทธ เดินเท้าผ่านเทือกเขาหิมาลัย หนีภัยจากทหารจีนเข้ามาหลบซ่อนอยู่ที่สถูปแห่งนี้ และปัจจุบัน ชาวพุทธทั้งในเนปาลและต่างชาติ จะเดินเวียนรอบสถูปเพื่อบูชารำลึกคุณพระรัตนตรัย