เนื้อหาโดย Dodeden.com
โรคทางสมองบางชนิดสามารถทําให้อารมณ์และการรับรู้ของสมองเปลี่ยนแปลงไป บางคนเมื่อการรับรู้ของสมองเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม จากเคยเป็นคนสุขุม กลับกลายเป็นคนก้าวร้าวมากขึ้น
อาการแบบไหนต้องไปหาหมอสมอง?
คนไข้แต่ละรายที่มีโรคหรือความผิดปกติทางสมองและระบบประสาท อาการที่แสดงออกให้เห็นอาจเหมือนหรือแตกต่างกันไป ซึ่งอาการที่พบได้ส่วนใหญ่คือมีอาการอัมพาตที่อวัยวะหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย, มีการรับรู้ผิดปกติ เช่น การรับรู้คล้ายๆ กับโรคจิตประเภท ซึ่งอาการนี้บางครั้งก็เกี่ยวข้องกับสมอง เช่นกัน บางคนมีอาการประสาทหลอน เห็นภาพหลอนอย่างนี้ก็ใช่ คนที่มีอาการผิดปกติ เช่น นอนกัดฟัน หรือนอนละเมอมากผิดปกติ อันนี้ก็สามารถเกี่ยวข้องกับสมองได้เช่นกัน อาการชา ตามแขนหรือขา ซึ่งเป็นอาการของเส้นประสาทบางครั้งก็สัมพันธ์กับโรคทางสมองและระบบประสาทได้ หน้าที่ของหมอสมองคือต้อง แยกแยะให้ได้ว่าอาการที่กล่าวไปนั้น เกิดจากสมองและระบบประสาท หรือมีสาเหตุมาจากอย่างอื่น จากนั้นต้องมาแยกแยะว่าอาการเหล่านี้มาจากตําแหน่งรอยโรคในส่วนใดของสมองและระบบประสาทของผู้ป่วย ซึ่งนี้ก็คือความท้าทายที่หมอสมองต้องหารอยโรคให้เจอ และหาตําแหน่งที่ทําให้เกิดอาการออกมาให้ได้
โรคทางสมองที่พบมากทั้งในไทยและทั่วโลก
สําหรับอาการและความผิดปกติทางสมองที่พบได้มากทั้งประเทศไทยและทั่วโลก ก็คืออาการอัมพาต ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดในสมอง เช่น โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคหลอดเลือดในสมองแตก เป็นต้น โดยเหล่านี้ถือเป็นโรคที่ทําให้เกิดความพิการและเสียชีวิตได้ค่อนข้างสูง ยิ่งปัจจุบันที่เรากําลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ก็ยิ่งทําให้อุบัติการณ์ของการเกิดโรคทางสมอง หรือแม้กระทั่งโรคหัวใจเอง สามารถพบได้มากขึ้นตามไปด้วย เพราะเส้นเลือดในสมองเปรียบเสมือนกับท่อน้ำ ยิ่งใช้ไปนานๆ ก็จะยิ่งอุดตันและแตกได้ง่ายขึ้น เส้นเลือดในสมองของเราก็เช่นกัน เมื่ออายุมากขึ้นและใช้ไปนานๆ ก็จะยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้เกิด การอุดตันหรือการแตกได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจประกอบกับโรคแทรกซ้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความดัน ไขมัน เบาหวาน ก็ส่งผลให้เส้นเลือดมีความผิดปกติขึ้น โดยจากสถิติพบว่าปัจจุบันผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป จํานวน 100 คน จะพบคนเป็นหลอดเลือดสมองและโรคสมองเสื่อมรวมกันแล้วมากถึง 7 ใน 10 คน เลยทีเดียว
สําหรับโรคหลอดเลือดสมองตีบ – แตก บางคนเข้าใจว่าคือโรคเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ ต้องบอกว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกัน โรคหลอดเลือดสมองตีบ ก็จะทําให้เส้นเลือดเกิดการอุดตัน ทําให้เซลล์สมองในบริเวณนั้นๆ ไม่มีเลือดมาเลี้ยง จนทําให้เซลล์สมองตาย แต่ถ้าเส้นเลือดในสมองแตกขึ้นมาก็จะทําให้มีเลือดไหลเกิดขึ้นในบริเวณนั้นๆ ซึ่งสองโรคนี้ เมื่อเกิดขึ้นในสมองก็อาจทําให้เกิดอาการที่คล้ายคลึงกันก็เป็นได้ และมีความเฉียบพลัน ซึ่งการที่จะบอกได้ว่าผู้ป่วยเป็นเส้นเลือดตีบหรือแตกจากอาการภายนอกนั้นเป็นเรื่องยาก จําเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจ/สแกนสมอง เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง แม่นยํา และรวดเร็วที่สุด
หากมาพบแพทย์ได้ทัน จะเปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยได้อย่างไร ?
ในที่นี้จะหมายถึงคนไข้ที่มาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน ที่มาในช่วง “Golden period” หรือช่วงนาทีทอง คือระยะเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งที่นับเริ่มตั้งแต่คนไข้มีอาการแสดงออกมา ในทางการแพทย์จึงเรียกแผนการรักษานี้ว่า “Stroke Fast Track” ซึ่งในระยะเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งนี้ มีไว้เพื่อที่แพทย์จะสามารถให้ยาเปิดเส้นเลือดได้ทัน เนื่องจากการรักษาเส้นเลือดในสมองตีบ มีการรักษาได้ 2 วิธี คือ การให้ยาเปิดเส้นเลือด เป็นการฉีดยาที่จะเข้าไปละลายลิ่มเลือดอย่างแรง ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม rt-PA โดยวิธีการนี้ได้ผลประมาณ 50% หากสามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ทันท่วงที จะช่วยลดโอกาสการเป็นอัมพาตลงไปได้ ทั้งยังช่วยลดความพิการลงได้มาก อีกหนึ่งวิธีก็คือการใส่สายสวน เพื่อลากเอาลิ่มเลือดที่อุดตันออก นอกจากนี้ หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาแล้ว ก็ต้องทํากายภาพบําบัดฟื้นฟู ร่วมกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงเพื่อไม่อาการกลับมาเกิดซ้ำด้วย
การดูแลสมอง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ โรคที่เราสามารถพบได้บ่อยก็คือโรคหลอดเลือดสมองตีบ และโรคสมองเสื่อม ได้แก่ โรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน การดูแลก็คือการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่จะทําให้เกิดโรคเหล่านี้ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นความดัน ไขมัน เบาหวาน หรือโรคหัวใจ ก็ควรหมั่นเช็คสุขภาพ ออกกําลังกายสม่ำเสมอ และควรมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างบ้าง เพราะถ้าปล่อยให้อยู่คนเดียว ไม่ออกไปพบปะผู้คน สมองก็มีการใช้งานน้อย ก็ยิ่งมีการเสื่อมได้เร็วมากยิ่งขึ้น
สําหรับคนที่อายุน้อย หรือกลุ่มคนในวัยทํางาน ก็ควรดูแลเรื่องความเครียดเป็นหลัก เพราะความเครียดจะทําให้สมองทํางานหนักและทําให้เกิดความเสื่อมได้ หรือกระทั่งอารมณ์ซึมเศร้าเองก็อาจมีส่วน นอกจากนี้อาหารการกินก็มีส่วนที่ทําให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบได้เช่นกันค่ะ