โรงแรมสุดหรูไล่ตั้งแต่กรุงปารีสในฝรั่งเศสไปจนถึงโรงแรมที่อยู่ในจัตุรัสไทมส์แควร์ ของนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ หันมาทำฟาร์มเลี้ยงผึ้งบนดาดฟ้าโรงแรม เพราะนอกจากจะเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งได้เองแล้วยังเป็นการเพิ่มประชากรผึ้งไปในตัว
โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ในนครนิวยอร์กแห่งนี้ ที่หันมาทำฟาร์มเลี้ยงผึ้งเล็กๆ บนดาดฟ้าโรงแรมเช่นกัน เจ้าหน้าที่ประจำโรงแรมบอกว่า ปัจจุบันนี้ผึ้งที่เลี้ยงไว้ครึ่งหนึ่งจะบินตรงไปยังสวนสาธารณะใจกลางเมือง เพื่อไปดูดเอาน้ำหวานของเกสรดอกไม้ แล้วนำกลับมาสร้างรังบนดาดฟ้าของโรงแรม กลายมาเป็นน้ำหวานให้โรงแรมได้นำมาใช้ผสมในอาหารได้
การทำฟาร์มเลี้ยงผึ้งบนดาดฟ้าโรงแรมแบบนี้ ยังเน้นเรื่องการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นแนวคิดที่หลายๆ ฝ่ายช่วยกันคิดขึ้นมา เพราะเห็นว่าประชากรผึ้งลดจำนวนลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน่วยงานของกระทรวงเกษตร จึงส่งเสริมให้ประชาชนหันมาทำฟาร์มผึ้งเล็กๆ ในพื้นที่ของตัวเอง
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ บอกว่า อาหารที่กินกันอยู่ในประเทศ 1 ใน 3 ได้มาจากผึ้งที่ช่วยผสมละอองเรณูเกสรดอกไม้ จนออกดอกออกผลขึ้นมา อย่างในนครนิวยอร์ก ผึ้งจะเป็นตัวช่วยผสมละอองเกสรดอกไม้ ในต้นไม้ที่ปลูกขึ้นใหม่ของเมืองนี้ ซึ่งนิวยอร์กมีแผนจะปลูกต้นไม้ขึ้นใหม่ให้ได้ถึง 1 ล้านต้น ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล นิวยอร์ก ไทมส์แควร์ บอกว่า การทำฟาร์มผึ้งบนดาดฟ้าของโรงแรม นอกจากส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม คือการช่วยเพิ่มประชากรผึ้งแล้ว ยังทำให้ทางโรงแรมไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำผึ้งอีกต่อไป กระแสการทำฟาร์มผึ้งบนดาดฟ้าโรงแรม ยังลามไปถึงในกรุงปารีสของฝรั่งเศส อย่างโรงแรม แมนดาริน โอเรียนตัล ได้เริ่มทำฟาร์มผึ้งในปีนี้ และมีแผนจะแจกจ่ายน้ำผึ้งขวดเล็กๆ ให้กับแขกที่เข้าพักอีกด้วย
ส่วนที่โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย แขกยังสามารถลงชื่อ ถ้าอยากจะขึ้นไปดูฟาร์มเลี้ยงผึ้งบนดาดฟ้าชั้นที่ 20 ของโรงแรม แต่ว่าจะต้องสวมชุดป้องกันผึ้งต่อยไปด้วย ซึ่งทางโรงแรมเพิ่งลงมือทำฟาร์มเลี้ยงผึ้งเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานี่เอง คาดจะได้น้ำผึ้งล็อตแรกในช่วงต้นฤดูร้อนนี้ เชฟประจำโรงแรมบอกว่า น้ำผึ้งใช้ผสมในอาหารได้หลายอย่าง และถ้าอยากให้โรงแรมมีน้ำผึ้งพอใช้น่าจะเลี้ยงผึ้งไว้มากถึง 300,000 ตัว