ปัญหาคางตัด คางสั้น ใบหน้ากลม และใบหน้าเหลี่ยม ทำให้คุณขาดความมั่นใจใช่มั้ยค่ะ!? ทุกปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการ “ ศัลยกรรมเสริมคาง ” อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวคุณเอง
“คาง” มีความสำคัญต่อความงามบนใบหน้าอย่างไร ?
“คาง” ถือว่าเป็นองค์ประกอบของความงามที่สำคัญบนใบหน้าส่วนล่าง ใบหน้าคนเราจะสวยได้นั้น ต้องมีสัดส่วนที่มีความสมดุล โดยสัดส่วนบนใบหน้าแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
- ใบหน้าส่วนบน คือ บริเวณหน้าผากเหนือเบ้าตา วัดจากไรผมถึงระหว่างคิ้ว
- ใบหน้าส่วนกลาง คือ บริเวณจมูก กระบอกตา และกรามบน วัดจากระหว่างคิ้วถึงฐานจมูก
- ใบหน้าส่วนล่าง คือ บริเวณริมฝีปาก กราม และคาง วัดจากฐานจมูกถึงส่วนล่างสุดของใบหน้า
ในคนที่มีรูปหน้าไม่ได้สัดส่วน การเสริมคาง นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีของผู้ที่มี คางสั้น คางเล็ก คางตัดคางไม่มีความนูน หรือคางร่นมาด้านหลัง จนทำให้ใบหน้าดูกลม หน้าสั้น ส่งผลให้ส่วนกลางของใบหน้าดูกว้าง ซึ่งทุกปัญหาที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้รูปลักษณ์ดูไม่สวยงาม สัดส่วนของใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วน
ฉะนั้น!!! หากคุณมีใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน ก็ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปแล้วละค่ะ เพราะความสวยสร้างได้ที่ “ ณรวีคลินิก ” การเสริมคาง เป็นการปรับแต่งโครงสร้างใบหน้าให้เรียวยาวสวยงามได้รูป เพื่อแก้ไขรูปร่างลักษณะของคางที่ไม่ได้สัดส่วน ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าของคุณดูมีมิติและสวยอย่างสมบูรณ์แบบ
วัสดุที่ใช้ในการเสริมคาง
ณรวีคลินิก เลือกใช้วัสดุซิลิโคนที่มีคุณภาพ นำเข้าจากอเมริกา (USA) เนื้อซิลิโคนมีความนิ่ม และมีความยืดหยุ่น ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานและความปลอดภัย โดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางจากณรวีคลินิก
การเสริมคางโดยใช้ซิลิโคน มี 2 วิธี
- การเสริมคางภายนอกปาก เป็นการเสริมบริเวณใต้คาง แต่มักจะหลงเหลือแผลเป็นเอาไว้ หลังจากที่แผลหายสนิทแล้ว
- การเสริมคางด้านในช่องปาก เป็นการเสริมตรงบริเวณของเหงือกกับริมฝีปากล่าง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะจะไม่เห็นรอยเย็บแผลในการผ่าตัด
เตรียมตัวอย่างไรก่อนการเสริมคาง
- ปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางอย่างละเอียด รวมถึงวิเคราะห์ปัญหารูปร่างใบหน้าและขากรรไกร ตามรูปแบบคางที่ต้องการ
- ไม่ต้องอดอาหาร เนื่องจากเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ
- งดใช้เครื่องสำอางค์ทุกชนิดก่อนการผ่าตัด เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อได้
- แปรงฟันและบ้วนปากให้สะอาด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดทานยากลุ่มแอสไพริน และวิตามินอี ก่อนผ่าตัดประมาณ 7 – 10 วัน เนื่องจากทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติ
- งดสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์
ขั้นตอนการเสริมคาง
- แพทย์จะทำการวัดสัดส่วนขนาดของคางเดิม เพื่อปรับรูปทรงคางใหม่ให้เข้ากับใบหน้า
- ทำความสะอาดบริเวณใบหน้า คาง และบริเวณช่องปาก จากนั้นฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด
- แพทย์ทำการเหลาซิลิโคนตามที่ได้วัดไว้ เริ่มผ่าตัดเปิดแผล ซึ่งจะมี 2 วิธี 1. เสริมบริเวณใต้คาง 2. เสริมด้านในช่องปาก
- เมื่อวางขนาดซิลิโคนตรงตามตำแหน่งแล้ว แพทย์จะทำการเย็บปิดบาดแผล หลังจากนั้นจะมีอาการบวมมากหรือน้อย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
วิธีดูแลหลังเข้ารับการรักษา
- บริเวณที่ทำการผ่าตัดจะบวมอยู่ประมาณ 7 – 10 วัน ให้ประคบเย็นเป็นเวลา 2 วัน หลังผ่าตัด
- นอนศีรษะสูงใช้หมอน 2 ใบเพื่อลดอาการบวม
- ควรบ้วนน้ำเกลือผสมน้ำยาบ้วนปากที่ไม่ระคายเคือง และตามด้วยน้ำเกลือในช่วงอาทิตย์แรก
- อย่าใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก (ในกรณีที่มีแผลในปาก)
- หลังการผ่าตัดจะมีอาการบวมประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลง
- รอยฟกช้ำจะค่อยๆ จางไปประมาณ 2 สัปดาห์
- อาจจะรู้สึกชาที่ริมฝีปากล่างหรือรู้สึกพูดไม่ปกติ แต่อาการดังกล่าวจะหายไปประมาณ 3 เดือน
- หลังผ่าตัดควรทานอาหารเหลว หลังจากนั้น 2 – 3 วัน จึงจะสามารถทานอาหารอ่อนได้
- งดอาหารรสจัด ของหมักดอง และอาหารทะเลเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
- ควรรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อนที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก ประมาณ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
- พบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามอาการการรักษา และตัดไหมภายใน 7 – 14 วัน
เพียงเท่านี้!!! คุณก็จะมีใบหน้าที่มีมิติและได้สัดส่วนแล้วละค่ะ การเสริมคางไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ใครอยากมีคางสวยดูดี ก็อย่าลืมหาข้อมูลจากหลายๆแห่ง เพื่อประกอบในการตัดสินใจ ทั้งนี้ควรเลือกศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และสถานประกอบการที่เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัย สามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ 081-755-1200 / 084-499-4471 Line: @naravee