ใครที่ชื่นชอบอาหารเกาหลี คงจะรู้จักเครื่องเคียงหลักของอาหารเกาหลีอย่าง “กิมจิ” กันเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะกินอาหารเกาหลีจานไหน สิ่งหนึ่งที่จะต้องวางเคียงข้างกันเสมอนั่นก็คือกิมจินั่นเอง

557000010251702

 

จะว่าไปแล้ว “กิมจิ” นั้ถือว่าเป็นอาหารที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน และเป็นการใช้ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในการถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้กินได้นานขึ้น

โดยเชื่อกันว่ากิมจินั้นถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ในช่วงฤดูหนาวของประเทศเกาหลี เป็นช่วงที่อากาศหนาวจัด ไม่สามารถเพาะปลูกได้ จึงมีการคิดวิธีถนอมอาหารเพื่อให้สามารถเก็บผักไว้กินได้ในช่วงหน้าหนาวนี้ โดยการนำผักไปดองเค็มด้วยเกลือ แล้วหมักใส่ในไห ฝังดินเอาไว้ พอได้ที่แล้วถึงนำมากินแทนผักสดที่ไม่สามารถหาได้ในช่วงฤดูหนาว

จากผักดองเค็มในยุคก่อน ต่อมาก็เริ่มมีการปรับปรุงสูตรให้มีรสชาติดีขึ้น และทำผักดองแบบนี้ไว้กินกันทั้งปี ซึ่งปัจจุบัน กิมจิมีอยู่เกือบ 200 ชนิด โดยจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นและสภาพอากาศ เรียกว่าใครมีวัตถุดิบอะไรก็นำมาทำกิมจิได้

แต่กิมจิที่เรารู้จักกันดีก็คือ กิมจิผักกาดขาว ที่มีส่วนผสมจากผักกาดขาว พริกแดง กระเทียม ขิง และน้ำซุปจากปลากะตัก ส่วนรสชาตินั้นอาจจะแตกต่างกันตามแต่ความชอบของคนทำและคนกิน แต่ส่วนมากแล้ว กิมจิผักกาดขาวแบบนี้จะออกรสเปรี้ยว เผ็ด และมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย

ส่วนกิมจิชนิดอื่นๆ ที่เราเห็นกันบ้าง อย่างเช่น กิมจิหัวผักกาด กิมจิแตงกวา กิมจิหัวไชเท้า หรือจะเป็นพวกกิมจิแบบน้ำ ที่ใช้กินแทนน้ำซุปตามร้านปิ้งย่างที่เกาหลี

เนื่องจากว่าชาวเกาหลีชื่นชอบกิมจิเป็นอย่างมาก ถึงขั้นขาดไม่ได้ในทุกมื้ออาหาร เมื่อเดินทางไปอาศัยอยู่ที่ไหนก็ต้องนำติดตัวไปด้วย ด้วยเหตุนี้ กิมจิจึงได้แพร่หลายไปในหลายๆ ประเทศ หรืออย่างที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้บรรจุกิมจิไว้เป็นอีกหนึ่งเครื่องเคียงอาหารญี่ปุ่นเลยทีเดียว

 คนเกาหลีชื่นชอบกิมจิขนาดนี้ จะเรียกว่ากิมจิเป็นอาหารประจำชาติ และเป็นสัญลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของประเทศเลยก็ได้

ที่มา ผู้จัดการ

เรื่องน่าสนใจ