จากรายงานของ The Mainichi หนึ่งในสื่อหลักของญี่ปุ่น พื้นที่ตอนเหนือของเกาะชิโกกุในญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากคลื่นลมแรงและฝนตกหนักในช่วงเช้าวันนี้ (16 กรกฎาคม) หลังไต้ฝุ่นนังกา ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 11 ประจำฤดูกาลกำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้พื้นที่ของเกาะแห่งนี้
หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (JMA) กล่าวว่า จะมีลมแรงไปตลอดคืน และไต้ฝุ่นลูกนี้อาจขึ้นฝั่งในชิโกกุในช่วงเช้าของวันที่ 17 กรกฎาคม ขณะที่ไต้ฝุ่นยังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ และคาดว่าจะส่งผลให้เกิดคลื่นลมแรงและฝนตกหนักต่อไปในภาคพื้นมหาสมุทรแปซิฟิก
JMA กล่าวว่า เวลา 9 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น พายุได้เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห่างจากคาบสมุทรมุโรโตะในจังหวัดโคจิไปทางตอนใต้เป็นระยะทาง 260 กิโลเมตร โดยแรงดันอากาศที่จุดศูนย์กลางของพายุวัดได้ที่ 960 เฮคโตปาสกาล โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยที่จุดศูนย์กลางประมาณ 40 เมตรต่อวินาที และความเร็วลมสูงสุดวัดได้ที่ 55 เมตรต่อวินาที และสามารถวัดความเร็วลมได้เกินกว่า 25 เมตรต่อวินาที ที่ระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของพายุเป็นระยะทาง 170 กิโลเมตร
ในเขตอุเอโนฮาระ จังหวัดยามานาชิ สามารถวัดปริมาณน้ำฝนในระยะเวลา 3 ชั่วโมงถึง 10 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นได้ที่ 139.5 มิลลิเมตร พร้อมกับมีรายงานว่า พบฝนตกหนักในแถบเทือกเขาของคันโต ซึ่งทำสถิติมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดในเดือนกรกฎาคมกว่า 5 เขตในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้จากข้อมูลของ JMA
