ที่มา: Posttoday

จากกรณีไฟไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ใกล้บ้านขุนช่างเคี่ยน  ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของวันที่ 8 พ.ค. และได้ลุกลามเป็นวงกว้างนั้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังเข้าดับเพลิงอย่างเต็มที่ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 00.20 ของวันที่ 9 พ.ค. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและดับแสงเพลิงได้หมดแล้ว พร้อมให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการลุกไหม้ซ้ำตลอด 24 ชม. เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด 

93

ด้าน นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กล่าวว่า สาเหตุของไฟป่าเบื้องต้น คาดว่าจะเกิดจากการการจุดไฟเผา โดยจุดขึ้นพร้อมกัน 3 จุด และเจ้าหน้าที่ไม่มีกำลังมากพอที่จะเข้าดับไฟป่าพร้อมกันทุกจุดได้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้พยายามอย่างเต็มกำลังที่จะระงับไฟป่าไม่ให้ลุกลามมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไฟไม่ลุกลามเข้าเขตพื้นที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำแนวกันไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามเข้าเขตชุมชน

ขณะที่ ศูนย์ อปพร. เทศบาลนครเชียงใหม่ พิงค์นคร แจ้งว่า จุดที่เกิดไฟไหม้ มี 3 จุดคือ โดย จุดที่1 ทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ชุดเสือไฟและกรมอุทยานฯได้ทำการควบคุมไฟบริเวณทางขึ้นพระธาตุให้อยู่ในบริเวณแนวกันไฟเรียบร้อยไม่มีการติดต่อลุกลาม และได้แบ่งกำลัง1ชุดเข้าช่วยเหลือบริเวณพุทธรรมหนองฮ่อ

จุดที่2 เพลิงไหม้ป่าบริเวณหลังค่ายลูกเสือช่างเคี่ยน เพลิงได้ลุกลามมาถึงแนวกันไฟบริเวณหลังค่ายลูกเสือ เพลิงอยู่ในบริเวณวงจำกัด มีรถดับเพลิง จากเทศบาลตำบล สันผีเสือ , หนองหอย , ท่าศาลา , สุเทพ เตรียมพร้อมเพื่อป้องกันหากเพลิงลุกลามผ่านแนวกันไฟ

จุดที่3 เพลิงไหม้ป่าบริเวณสวนพุทธธรรมหนองฮ่อ เพลิงอยู่ในช่วงลุกลาม มีรถน้ำดับเพลิง อบต.ช้างเผือก, ทต.ช้างเผือก เตรียมพร้อมป้องกันการลุกลาม

นอกจากนี้ นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกาตร ได้สั่งการให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ กรมฝนหลวงฯ มาสนับสนุน และทำการลาดตระเวนชี้เป้าและสนับสนุนให้หน่วยปฏิบัติการทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศเข้าถึงจุดเกิดไฟป่าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ 

เรื่องน่าสนใจ