วันที่ 19 มีนาคม 2560 นางสาวโซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้ง กรรมการ และเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า ขณะนี้ปรากฏว่ามีผู้ที่คิดเห็นต่าง และไม่หวังดีกับทางมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น และชี้นำในลักษณะให้ร้ายกับทางมูลนิธิเพื่อนช้างไปต่างๆ นานาหลังจากที่มีประชาชนให้ความสนใจ และช่วยเหลือมูลนิธิเพื่อนช้างที่ตนเองจะขอยุติการดำเนินงานลง เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ที่จะใช้ดำเนินงานมูลนิธิเพื่อนช้างต่อ เพราะที่ผ่านมา 11 ปี ติดลบสะสม แต่เมื่อมีข่าวออกไปปรากฏว่าประชาชนแห่ช่วยโอนเงินเข้ามากว่า 21 ล้านบาทแล้ว จนทำให้บางคนที่เห็นต่างเกิดวิพากวิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวในลักษณะให้ร้าย ให้ข้อมูลเท็จ และไม่เป็นความจริง จนอาจทำให้มูลนิธิเพื่อนช้างเกิดเสือมเสีย
“ในเรื่องนี้ตนเองมองว่า บุคคลดังกล่าวไม่ช่วย ไม่ให้กำลังใจ และยังมาให้ร้ายกับทางมูลนิธิเพื่อนช้างอีก ซึ่งเราเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ ที่มีความมุ่งหวังจะดำเนินงานช่วยช้างไทย และเราก็ช่วยช้างมาตั้งแต่แรก มาตั้งแต่หน่วยงานรัฐเกี่ยวกับช้างจะเกิดขึ้นเสียอีก
กรณีที่มีผู้พาดพิงถึงปัญหาช้างเร่ร่อน ว่า ทางมูลนิธิเพื่อนช้างไม่ได้เป็นผู้ทำให้ปัญหาช้างเร่ร่อนในกรุงเทพมหานครหมดไป ในเรื่องนี้ขอให้ไปตรวจสอบให้ชัดเจน ให้ไปดูหลักฐาน ก่อนที่จะออกมาเขียนแบบนี้ ซึ่งตนมั่นใจว่า การผลักดันการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนเราทำมานาน และสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้”
ตนไม่อยากต่อล้อต่อเถียงใครที่ออกมาพูด หรือวิจารณ์ในทางที่เสียหาย เพราะไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรกที่เราถูกกระทำ แต่ที่ผ่านมา ตั้งแต่ทำงานมาเราถูกกลั้นแกล้ง ถูกให้ร้ายมาโดยตลอด จึงอยากจะบอกผู้ที่กำลังกระทำการให้ร้ายอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จักว่าเป็นใครว่า “ไม่ให้กำลังใจ ไม่ช่วย ก็อย่ามาให้ร้าย” เพราะระวังสิ่งที่ท่านพูดจะเข้าตัวเอง เป็นเท็จเสียเอง
สำหรับมูลนิธิเพื่อนช้างมีการทำงานมานาน สามารถตรวจสอบได้ ว่า เราทำงานรักษ์ช้าง รักษาช้าง และผลักดันในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับช้างมาจริงหรือไม่ ถึงแม้เราจะเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ นิดเดียว หากเทียบกับหน่วยงานภาครัฐ แต่เราก็ทำงานอย่างเข้มแข็ง และอย่างตั้งใจ จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นที่ผ่านมา
นางสาวโซไรดา ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของคำพูดคนที่ออกมาให้ร้าย ซึ่งตนมองว่าเป็นบุคคลที่ไม่สบายใจที่เห็นว่า มูลนิธิเพื่อนช้าง ได้รับความเมตตาจากประชาชนให้สามารถทำงานช่วยช้างได้ต่อไป ดังนั้น จึงให้ทางที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย และกรรมการของมูลนิธิเพื่อนช้างดู เพื่อให้พิจารณากับผู้ให้ร้ายนี้ต่อไป
ซึ่งตนเชื่อว่าผู้ที่ให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งหาเหตุย่อมไม่มีความสุข ในขณะที่ทุกคนที่นี้คิดแก้ไขปัญหา เพื่อให้ทำงานช่วยช้างไทยได้อย่างต่อเนื่อง ถือว่ามีความสุขกันคนละอย่างกัน ทั้งนี้ ความรู้สึกตนถึงแม้จะเหนื่อย และท้อเมื่อเจอคนประเภทนี้ แต่ตนเอง และมูลนิธิเพื่อนช้าง ก็ยังมีกำลังใจที่ดีจากประชาชนที่เข้าใจเรา ที่เห็นเรายืนอยู่บนความจริง และความถูกต้อง พร้อมให้กำลังใจเข้ามาอย่างล้นหลาม ทำให้ทุกคนที่นี้ที่มูลนิธิเพื่อนช้างแห่งนี้มีกำลังใจ และมีความมุ่งมั่นที่จะสู้เพื่อช้างไทยต่อไป