หน้าบวมในตอนเช้า คงเป็นอาการหนึ่งที่ใครหลายคนเคยเจอ และสงสัยไหมคะว่า เวลาที่เราตื่นมาแล้วหน้าบวมเกิดจากอะไร และทำยังไงถึงจะไม่เป็นแบบนี้บ่อยๆ วันนี้เราจะอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง และบอกเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยแก้อาการตื่นมาแล้วหน้าบวมกัน! ไม่อยากตื่นมาหน้าบวม ต้องอ่านแล้วทำตามกันเลยค่ะ
หลายคนอาจเคยรู้สึกตัวอ้วนแบบบวมๆ อืดๆ หรือรู้สึกว่าน้ำหนักขึ้นทั้งที่ไม่ได้รับประทานอะไรเท่าไหร่ ส่งผลเสียต่อการลดน้ำหนักให้คุณต้องกังวลใจ ไม่แน่ว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดจากการบวมน้ำก้เป็นได้ และการบวมน้ำก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ทานโซเดียมในอาหารที่มีรสเค็ม กินไฟเบอร์ กากใยอาหารมากเกินไป เป็นต้น
เอาน้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบหน้า
เราสามารถลดอาการบวมของผิวหน้าด้วยการใช้ความเย็น อาจจะใช้น้ำแข็งมาประคบผิวหน้า หรืออาจจะใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบหน้าหลังตื่นนอน ก็จะช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ
ทานอาหารมื้อค่ำที่มีโซเดียมต่ำ
หากคุณต้องการตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกบวมอืดน้อยลง ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีปนิมาณโซเดียมสูง เนื่องจากเกลือจะตกค้างอยู่ในระบบของคุณตลอดทั้งคืน และเมื่อตื่นขึ้นมาคุณก็จะรู้สึกบวมอืดมากกว่าปกติ ทางที่ดีคือ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผักต้ม และโปรตีนไขมันต่ำ ซึ่งไม่ควรปรุงด้วยเกลือเด็ดขาด
เตรียมอาหารมื้อเที่ยงของวันถัดไป
อาหารในร้านอาหารทั่วไป จะมีปริมาณแคลอรี่มากกว่าที่คุณควรบริโภคเข้าไปในแต่ละมื้อถึงสองเท่า ในกรณีที่คุณพยายามลดน้ำหนัก และต้องการบริโภคอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำ หากมีเวลาว่างมากพอ ควรเตรียมอาหารมื้อเที่ยงตั้งแต่ในตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายสุขภาพและทำให้หน้าบวมน้ำ (สาวริฮานน่าชอบทำสลัดใส่ขวดโหลเตรียมไว้ล่วงหน้า)
นวดหน้าช่วยลดหน้าบวม
นี่คือวิธีที่ได้ผล โดยไม่ต้องเสียเงินราคาแพง ถ้ากลัวจะเสียเวลา ก็ให้นวดไปพร้อมๆ กับตอนทาครีมค่ะ โดยเริ่มจากทาครีมบนผิวหน้าให้เรียบร้อยและก็ใช้นิ้วมือนวดหน้าบริเวณหน้าผาก เลื่อนลงมาบริเวณใต้ตา โหนกแก้ม และเลื่อนมาตรงกราม ขากรรไกร และผิวบริเวณลำคอค่ะ โดยนวดให้ได้ประมาณ 20-25 รอบ อาการบวมของหน้าก็จะดีขึ้น แต่ต้องระวังว่าอย่านวดแรงเกินไป เพราะผิวอาจย่อนคล้อยได้
ดื่มน้ำมากๆ
น้ำจะช่วยทำความสะอาดระบบของเรา โดยการกำจัดของเสียที่คั่งค้างออกไปจากร่างกาย แต่ถ้าคุณไม่ต้องการตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อวิ่งเข้าออกห้องน้ำทั้งคืน ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอนคุณควรงดการดื่มน้ำนะคะ
ทำให้ห้องนอนมืดสนิท
ฮอร์โมนเมลาโทนิน จะช่วยร่างกายในการผลิตไขมันสีน้ำตาล เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ เนื่องจากร่างกายของคนเราจะสร้างฮอร์โมนเมลาโทนินเมื่อเราอยู่ท่ามกลางความมืดสนิท
นอกจากนี้ ผู้ที่นอนหลับในอุณหภูมิห้องประมาณ 19 องศาเซลเซียสจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าผู้ที่นอนหลับในอุณหภูมิห้องประมาณ 24 องศาเซลเซียส ถึงร้อยละ 7 แม้ว่าจะแค่ร้อยละ 7 แต่มันก็คือข้อดีนะ!