ไรฝุ่น (dust mite) เป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ โดยชอบอาศัยในที่อับชื้น และอบอุ่น ไรฝุ่นกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
ไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในพรมที่มีขนพรมหนา รวมทั้งที่นอนและหมอน เนื่องจากมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ในที่นอน คือ เศษหนังกำพร้าของคน โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ เศษหนังกำพร้าของคน 1 กรัม เป็นอาหารให้ไรฝุ่นหนึ่งล้านตัวมีชีวิตได้นาน 1 สัปดาห์ ตามปกติคนเราจะมีผิวหนังหลุดลอกออกมาถึง 1.5 กรัมต่อวัน ดังนั้น การตัดทอนอาหารของไรฝุ่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยวิธีที่ดีที่สุดคือ การหุ้มที่นอนและหมอนด้วยพลาสติก ไวนิลหรือผ้าคลุมที่ป้องกันไรฝุ่น ซึ่งผ้าคุณสมบัติพิเศษ คือ ผ้าที่ทอด้วยเส้นด้ายละเอียดและสานกันแน่นมากจนไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไป ทำให้ตัวไรฝุ่นขาดอาหารและลดจำนวนลง
วิธีการลดจำนวนไรฝุ่นในบ้าน
– ซักปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน 1-2 สัปดาห์ ด้วยน้ำร้อน 55-60 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าไรฝุ่น และใช้ผ้าคลุมที่นอนและหมอนเพื่อกันไรฝุ่น
– มีการระบายอากาศในห้องนอนเพื่อลดความชื้น อย่างน้อยควรเปิดประตูหน้าต่างห้องนอนวันละ 1 ชั่วโมง ดีกว่าปิดห้องไว้ตลอดเวลา
– ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณภาพดี ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เครื่องที่มี HEPA filter ด้วย
– ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
– ไม่ควรปูพรม ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้าและผ้าม่านในห้องนอน
– ไม่ควรเก็บของเล่นจำพวกตุ๊กตาขนนิ่มๆ ในห้องนอน ถ้ามีควรทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน 55-60 องศาเซลเซียส หรือแช่แข็งเพื่อฆ่าไรฝุ่น
– ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน เพราะรังแคจากสัตว์เลี้ยงเป็นอาหารที่ดีของไรฝุ่น
– นำที่นอน หมอน และพรม ตากแดดจัดๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป จะช่วยฆ่าตัวไรฝุ่นได้
วิธีการข้างต้นเป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน และเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่น อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ก็อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อหาทางรักษาได้อย่างทันท่วงที
ขอขอบคุณ Thairath